Categories
Special Content

“เลวานดอฟสกี้” ดาวยิงคนใหม่บาร์ซ่า กับ 5 เรื่องที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดกองหน้าจอมถล่มประตูที่โดดเด่นและดีที่สุดในศตวรรษที่ 21 การันตีด้วยผลงาน 8 ฤดูกาลกับบาเยิร์น มิวนิค 344 ประตู จาก 375 นัด และคว้าแชมป์ 19 โทรฟี่

แต่ทว่า ดาวยิงทีมชาติโปแลนด์รายนี้ ได้ออกมาประกาศว่า ไม่ขออยู่ค้าแข้งกับบาเยิร์นต่อไป ทั้ง ๆ ที่ยังเหลือสัญญาอยู่อีก 1 ปี ซึ่งทางยักษ์ใหญ่แห่งมิวนิค ก็พยายามที่จะรั้งตัวเขาอย่างสุดความสามารถแล้ว

และในที่สุด เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่า 2 สมัยซ้อน ตัดสินใจลงจากหลังเสือใต้ที่บาวาเรีย มาเป็นนักเตะคนใหม่ของบาร์เซโลน่าเป็นที่เรียบร้อย ด้วยค่าตัว 45 ล้านยูโร เซ็นสัญญา 4 ปี

ขอบคุณภาพ https://web.facebook.com/rl9official

เลวานดอฟสกี้ เริ่มต้นเส้นทางนักฟุตบอลตั้งแต่อายุ 8 ขวบ กับทีมเยาวชนของปาร์ติซาน เลซโน่ และวาร์โซเวีย วอร์ซอ ก่อนที่ในปี 2005 จะได้เซ็นสัญญาในระดับอาชีพกับเดลต้า วอร์ซอ, และลีเกีย วอร์ซอ ทีมสำรอง

ปีถัดมา เลวานดอฟสกี้ ย้ายไปค้าแข้งกับซนิคซ์ พรูสซ์คอฟ ลงเล่น 59 นัด ยิง 36 ประตู และอีก 2 ปีให้หลัง ได้ย้ายไปค้าแข้งกับเลช พอซนาน ก็ยังรักษามาตรฐานการจบสกอร์ได้ดี ลงเล่น 58 นัด ยิง 32ประตู

ต่อมาในปี 2010 เลวานดอฟสกี้ ได้เริ่มต้นหาประสบการณ์ค้าแข้งนอกประเทศบ้านเกิด กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรชั้นนำในบุนเดสลีกา เยอรมนี ที่จ่ายเงินค่าตัว 4.5 ล้านยูโร ให้กับเลซ พอซนาน

ตลอด 4 ปี ของเลวานดอฟสกี้กับดอร์ทมุนด์ ยิงได้ 103 ประตู จากการลงสนาม 187 นัด คว้าแชมป์ได้ 5 รายการ ก่อนที่จะย้ายมาค้าแข้งกับทีมคู่ปรับอันดับ 1 อย่างบาเยิร์น มิวนิค แบบไม่มีค่าตัวในปี 2014

เดือนกันยายน ปี 2015 เลวานดอฟสกี้ ได้สร้างสถิติที่ใครยากจะเทียบได้ ด้วยการยิงคนเดียว 5 ประตู ภายในเวลา 9 นาที เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดเยอรมัน พาบาเยิร์น แซงเอาชนะโวล์ฟบวร์ก 5 – 1

และอีกสถิติหนึ่งที่สำคัญ เกิดขึ้นในซีซั่น 2020/21 เลวานดอฟสกี้ ทำประตูในบุนเดสลีกาได้ 41 ประตู ทุบสถิติเดิมของแกร์ด มุลเลอร์ อดีตตำนานดาวยิงเสือใต้ ที่ทำไว้ 40 ประตู ในซีซั่น 1971/72

ขอบคุณภาพ https://web.facebook.com/rl9official

ในส่วนของการรับใช้ทีมชาติ เลวานดอฟสกี้ ลงเล่นให้กับโปแลนด์มาตั้งแต่ปี 2008 เป็นเจ้าของสถิติอันดับ 1 ตลอดกาล ทั้งการลงสนามมากที่สุด 132 นัด และเป็นดาวซัลโวสูงสุด โดยยิงไป 76 ประตู

เลวานดอฟสกี้ ปิดฉากกับบาเยิร์นอย่างเป็นทางการ พร้อมที่จะเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่กับบาร์ซ่า และนี่คือ 5 เรื่องราวของเขา ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน

เป็นครอบครัวนักกีฬาแบบยกบ้าน

ครอบครัวของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ถือเป็นครอบครัวนักกีฬาอย่างแท้จริง เริ่มจากคุณพ่อคริสตอฟ เป็นอดีตแชมป์ยูโด, คุณแม่อีโวน่า เป็นนักวอลเลย์บอล, มิลีน่า น้องสาว เป็นนักวอลเลย์บอลทีมชาติโปแลนด์รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี แม้กระทั่งแอนนา เลวานดอฟสก้า ภรรยาของเขา เป็นอดีตนักคาราเต้ดีกรีเหรียญทองแดง ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก เมื่อปี 2009

 ไม่ได้ไปอังกฤษ เพราะภัยธรรมชาติ

เมื่อปี 2010 เลวานดอฟสกี้ มีแผนที่จะเดินทางไปที่ประเทศอังกฤษ เพื่อเยี่ยมชมสโมสรแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และอาจจะตัดสินใจเซ็นสัญญาค้าแข้งกับ “กุหลาบไฟ” แต่ไม่สามารถเดินทางได้ เนื่องจากเกิดเหตุภูเขาไฟระเบิดที่ประเทศไอซ์แลนด์ เป็นอุปสรรคในเส้นทางการบินของยุโรปเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ทำให้โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้ตัวเขาไปร่วมทีมในที่สุด

เคยยิง “ราชันชุดขาว” คนเดียว 4 ประตู

เลวานดอฟสกี้ เป็นนักเตะที่รู้จักคุ้นเคยกับเรอัล มาดริดเป็นอย่างดี เพราะได้เผชิญหน้าในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 8 นัดด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพบกันในรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ฤดูกาล 2012/13 เขายิงคนเดียว 4 ประตู ในเกมที่ดอร์ทมุนด์ เปิดบ้านชนะ 4 – 1 ถึงแม้ในนัดสอง “เสือเหลือง” จะบุกไปแพ้ 0 – 2 แต่ยังได้ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์รวม 4 – 3

ขอบคุณภาพ https://web.facebook.com/rl9official

เป็นนักเตะที่ดูแลตัวเองได้ดีเยี่ยม

ซีซั่นสุดท้ายกับบาเยิร์น มิวนิค เลวานดอฟสกี้ ในวัยย่างเข้า 34 ปี ลงเล่น 46 นัด ยิงได้ 50 ประตู ฆาบี มาร์ติเนซ อดีตเพื่อนร่วมทีมของเลวานดอฟสกี้ สมัยที่ค้าแข้งกับ “เสือใต้” เปิดเผยว่า “ในช่วงพรี-ซีซั่น ผมพยายามนำขนมที่เอามาจากสเปน ไปให้เลวานดอฟสกี้ทาน แต่เขาปฎิเสธมาตลอด แม้กระทั่งการเลือกท่านอนหลับ เพื่อรักษาสภาพร่างกายที่ดีไว้”

ชื่นชอบ “ฟอร์มูล่า วัน” ตั้งแต่ยังเด็ก

นอกจากความสนใจในกีฬาฟุตบอลแล้ว เลวานดอฟสกี้ ยังติดตามกีฬาที่เกี่ยวกับความเร็วอย่างฟอร์มูล่า วัน และมีโอกาสได้ไปชมการแข่งขันที่โมนาโก กรังปรีซ์ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า “ผมติดตามฟอร์มูล่า วัน มาตั้งแต่เด็ก และผมยังจดจำมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ได้เสมอ สิ่งที่เขาประสบความสำเร็จ มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อจริง ๆ”

บาร์เซโลน่า ได้อาวุธหนักอย่างเลวานดอฟสกี้มาเสริมแนวรุก วัดความคมกับคาริม เบนเซม่า ดาวเตะเรอัล มาดริด เชื่อว่าศึก “เอล กลาซิโก้” ในซีซั่น 2022/23 จะเพิ่มดีกรีความเดือดมากขึ้นอย่างแน่นอน

Categories
Special Content

ที่มาโลโก้ 20 สโมสรลาลีกา ฤดูกาล 2022/23

ตราสัญลักษณ์ หรือโลโก้ของสโมสรฟุตบอล ถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่ง ที่ส่งผลถึงการรับรู้ และการจดจำของแฟนลูกหนัง อีกทั้งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในระยะยาว นับว่าเป็นผลดีต่อสโมสรต่อไป

การออกแบบโลโก้ทีมฟุตบอลที่ดี ไม่ใช่แค่มีความสวยงามเท่านั้น แต่ต้องโดดเด่น สะดุดตา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และที่สำคัญต้องสามารถสื่อสารคอนเซปท์ สะท้อนถึงตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจนด้วย

และนี่คือเรื่องราวเบื้องหลังการออกแบบ และความหมายของตราประจำสโมสรทั้ง 20 ทีม ในลีกสูงสุดของสเปน ซีซั่นใหม่

อัลเมเรีย

ตราของสโมสร มีโครงสร้างที่เรียบง่าย ประกอบด้วยพื้นหลังแถบสีขาว-แดง หมายถึงสีประจำสโมสร พร้อมกับลูกฟุตบอลที่อยู่บนพื้นหลัง และตัวอักษร U กับ D ที่ย่อมาจาก “Unión Deportiva”

นอกจากนี้ ยังมีสัญลักษณ์ “Indalo” ที่อยู่ตรงกลางระหว่างตัวอักษร U กับ D มีลักษณะคล้ายกับมนุษย์ที่ถูกค้นพบในถ้ำ Los Letreros ในเมืองอัลเมเรีย นำมาดัดแปลง และผสมรวมอยู่ในโลโก้อย่างลงตัว

แอธเลติก บิลเบา

เป็นรูปทรงคล้ายโล่สามเหลี่ยม ภาพที่อยู่ในสามเหลี่ยมด้านใน คือสัญลักษณ์ประจำท้องถิ่น ได้แก่ โบสถ์แอนโธนี่, สะพานแอนโธนี่, หมาป่า, ต้นโอ๊กเกร์นิกา และไม้กางเขน ส่วนแถบขาว-แดง มาจากสีธงของแคว้นบาสก์

สำหรับชื่อสโมสรที่อยู่ล้อมรอบโล่นั้น เริ่มแรกใช้ชื่อในภาษาอังกฤษว่า “Athletic Club” แต่ถูกบังคับให้เปลี่ยนเป็นภาษาสเปน คือ “Athlétic de Bilbao” ก่อนกลับไปใช้ชื่อเดิม หลังจากนายพลฟรังโก้หมดอำนาจ

แอตเลติโก มาดริด

ก่อตั้งโดยชาวบาสก์ที่อาศัยอยู่ในกรุงมาดริด ใช้ตราสโมสรคล้ายกับแอธเลติก บิลเบา ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ตราสโมสรในแบบของตัวเอง โดยมีลักษณะเป็นรูปทรงห้าเหลี่ยม และเพิ่มสีน้ำเงิน ร่วมกับแถบขาว-แดง 

สัญลักษณ์ที่อยู่ในตราสโมสร ประกอบด้วยหมี กับต้นสตรอเบอรี่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงมาดริด รวมทั้งมีดาว 7 ดวงอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมสีน้ำเงิน ซึ่งหมายถึงแคว้นทั้ง 7 ที่อยู่ในกรุงมาดริด

บาร์เซโลน่า

ในปี 1910 โยอัน กัมเปร์ ผู้ก่อตั้งสโมสร ได้จัดการประกวดตราสโมสรขึ้นมาใหม่ ซึ่งตราสโมสรที่ชนะการประกวด มีลักษณะคล้ายกับที่ใช้ในปัจจุบัน โดยได้ผ่านการปรับเปลี่ยนรายละเอียดเล็กน้อยอยู่หลายครั้ง 

ตราสโมสรประกอบด้วย 3 ส่วน มุมบนซ้าย คือไม้กางเขนสีแดงบนพื้นสีขาว หมายถึงนักบุญจอร์จ นักบุญองค์อุปถัมภ์ของแคว้นคาตาลัน, มุมบนขวา คือสีธงของแคว้นคาตาลัน และครึ่งล่าง คือสีประจำสโมสร และลูกฟุตบอลสีเหลือง

เรอัล เบติส

ตราสัญลักษณ์ประกอบด้วย แถบสีขาว-เขียว มาจากสีของธงของแคว้นอันดาลูเซีย อยู่ภายในรูปสามเหลี่ยมหลับหัว พร้อมทั้งตัวอักษร BB ในวงกลมตรงกลาง ย่อมาจากคำว่า Betis Balompié

ส่วนมงกุฎที่อยู่ด้านบน มาจากการอุปถัมภ์ของกษัตริย์อัลฟรอนโซ่ที่ 8 แต่ในช่วงปี 1931-1940 ได้มีการนำมงกุฎออกไป เนื่องจากอยู่ภายใต้การปกครองของนายพลฟรังโก้ ผู้นำเผด็จการในเวลานั้น

กาดิซ

ตราสโมสรเป็นรูปสามเหลี่ยมกลับหัวสีเหลือง-น้ำเงิน ซึ่งเป็นสีประจำสโมสร ด้านในมีเทพเจ้าเฮอร์คิวลิส และสิงโต 2 ตัว ขนาบข้างด้วยเสาหิน 2 เสา ผูกด้วยแผ่นผ้าที่มีคำขวัญประจำชาติสเปน “Plvs Vltra”

ส่วนมงกุฎที่อยู่ด้านบนของตราสโมสร ไม่ใช่มงกุฎของกษัตริย์ เหมือนกับสโมสรที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า “เรอัล” (Real) แต่เป็นมงกุฎของดยุค เนื่องจากในอดีต เมืองกาดิซเคยถูกปกครองโดยดยุคตั้งแต่ศตวรรษที่ 15

ขอบคุณภาพ https://web.facebook.com/rccelta

เซลต้า บีโก้

ลักษณะของตราสโมสร เป็นรูปกากบาทสีแดงปลายแหลม หมายถึงไม้กางเชนของนักบุญซานติอาโก้ และมีโล่สีฟ้า ซึ่งมาจากสีบนธงประจำแคว้นกาลีเซีย บนโล่มีตัวอักษร CC ซึ่งย่อมาจาก “Club Celta”

ส่วนมงกุฎที่อยู่เหนือโล่สีฟ้า มาจากการอุปถัมภ์ของกษัตริย์อัลฟรอนโซ่ที่ 13 โดยชื่อสโมสรมีชื่อเต็มว่า “Real Club Celta de Vigo” แต่ได้มีการเอามงกุฎออกไป ในยุคที่นายพลฟรังโก้ปกครองอยู่

เอลเช่

ตราของสโมสร มาจากส่วนหนึ่งของตราประจำเมืองเอลเช่ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนบนเป็นรูปผู้หญิงในชุดโรมัน ถือใบปาล์มสีทอง มีที่มาจากเมืองเอลเช่ เป็นเมืองที่นิยมปลูกต้นปาล์มเป็นจำนวนมาก

ส่วนตรงกลางเป็นรูปประตูเมืองเอลเช่ และส่วนล่างเป็นรูปแท่นโรมัน ล้อมรอบด้วยตัวอักษร C I I A ซึ่งย่อมาจาก Colonia Iulia Illice Augusta ตำนานดาบของจักรพรรดิโรมันออกัสตัส

ขอบคุณภาพ https://web.facebook.com/RCDEspanyol

เอสปันญ่อล

ตราสัญลักษณ์ของสโมสรในปัจจุบัน เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2005 ประกอบด้วยวงกลมด้านนอกสีแดง มีชื่อสโมสรตัวอักษรสีเหลืองกำกับ และวงกลมด้านใน มีแถบสีขาว-น้ำเงิน สีประจำสโมสร 

ส่วนมงกุฎที่ประดับอยู่ด้านบน ได้ถูกเพิ่มเข้ามาหลังจากกษัตริย์อัลฟรอนโซ่ที่ 13 ได้ให้การอุปถัมภ์สโมสร โดยชื่อเต็มของสโมสรในภาษาคาตาลัน คือ Reial Club Deportiu Espanyol de Barcelona

เกตาเฟ่

ตราสัญลักษณ์ของสโมสรในปัจจุบัน ประกอบด้วยวงแหวนสีน้ำเงินที่มีการไล่ระดับความเข้มขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้รู้สึกเหมือนมีการเคลื่อนไหว มีเส้นขอบสีเงิน และมีลูกฟุตบอลอยู่ด้านบน

ด้านใน เป็นตราประจำเมืองเกตาเฟ่ ฝั่งซ้ายคือไม้กางเขนแบบละติน มีรูปหัวใจอยู่บนกางเขน ที่สื่อถึงหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู ส่วนฝั่งขวาเป็นพื้นหลังสีเขียวมีรูปเครื่องบิน สื่อถึงฐานทัพอากาศ

กิโรน่า

ตราสัญลักษณ์ใหม่ของสโมสร เน้นไปที่สีขาว-แดง ซึ่งเป็นสีประจำสโมสร ส่วนรูปสี่เหลี่ยมที่อยู่ด้านในวงกลม มีแถบสีเหลือง-แดง ซึ่งเป็นสีธงประจำแคว้นคาตาลัน และรูปที่อยู่ด้านในสี่เหลี่ยม มีลักษณะคล้ายหยดน้ำเรียงสลับกันสีละ 4 แถว เป็นตัวแทนของเมืองกิโรน่า ซึ่งเป็นจุดที่มีแม่น้ำ 4 สาย ไหลมาบรรจบกัน

เรอัล มายอร์ก้า

มงกุฎที่ประดับอยู่ด้านบน ได้ถูกเพิ่มเข้ามาหลังจากกษัตริย์อัลฟรอนโซ่ที่ 13 ได้ให้การอุปถัมภ์สโมสรโดยชื่อเต็มของสโมสร คือ Real Club Deportivo Mallorca และฉายาของพวกเขาคือ “Vermilion” ที่แปลว่า สีแดงสด ซึ่งเป็นสีประจำทีม และเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในตราสัญลักษณ์ของสโมสรอีกด้วย

เรอัล มาดริด

ตัวอักษร 3 ตัว MCF ที่อยู่ด้านในของตราสโมสร ย่อมาจาก Madrid Club de Fútbol ก่อนที่กษัตริย์อัลฟรอนโซ่ที่ 13 จะเข้ามาให้การอุปถัมภ์สโมสร จึงเพิ่มคำว่า “เรอัล” (Real) นำหน้าชื่อสโมสร พร้อมกับมงกุฎที่ประดับไว้ด้านบนของตราสโมสร ส่วนพื้นหลังมีสีขาว ซึ่งเป็นสีประจำสโมสร คาดด้วยแถบสีน้ำเงินเพื่อความสวยงาม

โอซาซูน่า

ตราสโมสรมีลักษณะคล้ายสามเหลี่ยมกลับหัว แบ่งเป็นพื้นสีแดงและสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีประจำสโมสร มงกุฎที่อยู่ด้านบน และตรงกลางที่เป็นพื้นสีขาวล้อมรอบด้วยโซ่สีทอง มาจากตราของแคว้นนาวาร์ ส่วนรูปสิงโตด้านใน เป็นตัวแทนของคำว่า “Osasuna” ซึ่งในภาษาบาสก์แปลว่า “สุขภาพ” หรือสามารถสื่อถึง “ความแข็งแกร่ง” ได้ด้วย

ราโย บาเยกาโน่

ตราสโมสรเป็นพื้นสีขาว ซึ่งเป็นสีประจำสโมสร ด้านในประกอบด้วยตราประจำแคว้นบาเยกาส ย่านชนชั้นแรงงานในกรุงมาดริด ตามด้วยสายฟ้าสีแดงทแยงพาดผ่าน ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากสโมสรฟุตบอลริเวอร์เพลท ในประเทศอาร์เจนติน่า และตัวอักษร 3 ตัว RVM ย่อมาจากชื่อเต็มของสโมสรคือ “Rayo Vallecano de Madrid”

เรอัล โซเซียดัด

ส่วนประกอบของตราสโมสร ได้แก่ ธงประจำเมืองซาน เซบาสเตียน (สีน้ำเงิน-ขาว) บนธงมีตัวอักษร SS ซึ่งย่อมาจากชื่อเมืองที่ตั้งของสโมสร (San Sebastián) และมงกุฎที่ประดับอยู่บนลูกฟุตบอล ได้ถูกเพิ่มเข้ามาหลังจากกษัตริย์อัลฟรอนโซ่ที่ 13 ได้ให้การอุปถัมภ์สโมสร จึงเพิ่มคำว่า “เรอัล” (Real)นำหน้าชื่อสโมสร

ขอบคุณภาพ https://web.facebook.com/sevillafc.eng

เซบีย่า

ตราสโมสรประกอบไปด้วย 3 ส่วน มุมบนซ้าย คือตราประจำเมืองเซบิลล์ เป็นรูปของกษัตริย์เฟอร์ดินานที่ 3 แห่งอาณาจักรกาสติย่า ขนาบข้างด้วยอัครมุขนายกอิสิดอร์และนักบุญเลอันเดร์, มุมบนขวา คือตัวอักษร SFC ย่อมาจากชื่อสโมสร และครึ่งล่างมีแถบสีขาว-แดง ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากสีธงของกษัตริย์เฟอร์ดินานที่ 3

บาเลนเซีย

สิ่งที่อยู่ในตราสโมสร ได้แก่ สีธงประจำแคว้นบาเลนเซีย (เหลือง-แดง-น้ำเงิน), และค้างคาว ที่มาจากตำนานของกษัตริย์เจมส์ที่ 1 แห่งอารากอน ที่ต่อสู้เพื่อปลดปล่อยแคว้นบาเลนเซียจนได้รับชัยชนะ จากนั้นได้มีค้างคาวตัวหนึ่งบินลงมาขณะเดินเข้าเมือง ซึ่งมองว่าเป็นการให้พร และกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองตั้งแต่นั้นมา

เรอัล บายาโดลิด

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงตราสโมสรใหม่ให้เรียบง่ายกว่าเดิม โดยตราสโมสรประกอบด้วย สีเหลือง-แดง สื่อถึงเปลวเพลิง เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในเมืองบายาโดลิด เมื่อปี 1561, สีม่วง-ขาว มาจากสีประจำสโมสร ส่วนมงกุฎที่อยู่ด้านบน แสดงถึงความเกี่ยวข้องกับราชสำนัก

บียาร์เรอัล

ตราสโมสรในปัจจุบัน ถูกใช้เป็นครั้งแรก เมื่อปี 1966 ประกอบด้วย สีน้ำเงิน มาจากการย้อมเสื้อสีขาว เพื่อสวมใส่คู่กับกางเกงสีดำ ชุดแข่งในอดีต, สีเหลือง-แดง มาจากสีธงของแคว้นบาเลนเซีย และมงกุฎที่อยู่ด้านบน คือต้นกำเนิดราชวงศ์ของเมือง ซึ่งก่อตั้งโดยกษัตริย์เจมส์ที่ 1 แห่งอารากอน เมื่อปี 1274

ตราประจำสโมสรฟุตบอล ถ้าดีไซน์ออกมาแล้วช่วยสร้างการรับรู้ที่ดีให้กับแฟนบอล จะทำให้เกิดความภาคภูมิใจต่อความเป็นท้องถิ่นนิยมของตนเอง และช่วยสร้างความผูกพันให้เกิดขึ้นต่อทีมฟุตบอลด้วย

Categories
Football Business

เปิดเบื้องหลังชื่อสนามเหย้า 20 ทีมลาลีกา 2022/23

เหตุผลของการตั้งชื่อสนามฟุตบอลของแต่ละสโมสรนั้น ก็มีที่มาแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะมาจากชื่อสถานที่ตั้ง, ชื่อบุคคลสำคัญ หรือมีเหตุผลอื่นๆ ที่แปลกประหลาด ทำเอาหลายคนคาดไม่ถึง

อย่างเช่นเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บาร์เซโลน่า และอัลเมเรีย ได้เปลี่ยนแปลงชื่อสนามแข่งขัน เพื่อต้อนรับการแข่งขันลาลีกา 2022/23 ที่กำลังจะเริ่มขึ้น ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้

สังเวียนแข้งของบาร์ซ่า เปลี่ยนชื่อเป็น “สปอติฟาย คัมป์ นู” ส่วนชื่อรังเหย้าใหม่ของอัลเมเรีย คือ “เพาเวอร์ ฮอร์ส สเตเดี้ยม” ซึ่งทั้ง 2 สโมสร ต่างเปลี่ยนชื่อด้วยเหตุผลเดียวกันคือเรื่อง “ธุรกิจ”

ลาลีกา ได้นำเรื่องราวเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่ของชื่อสนามเหย้าทั้ง 20 สโมสร ในการแข่งขันซีซั่นใหม่มาฝากกัน เพื่อเป็นเกร็ดความรู้สำหรับแฟน ๆ ลูกหนังลีกสเปน

Descripcion de la juada

อัลเมเรีย – เพาเวอร์ ฮอร์ส สเตเดี้ยม

สนามเหย้าของอัลเมเรีย เดิมมีชื่อว่า “เอสตาดิโอ เด ลอส ฆูเอกอส เมดิเตร์ราเนออส” สร้างขึ้นเมื่อปี 2004 เพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติในปีต่อมา และตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 เป็นต้นไป ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เพาเวอร์ ฮอร์ส สเตเดี้ยม” โดยมาจากชื่อของ “Power Horse” แบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังจากประเทศออสเตรีย

แอธเลติก บิลเบา – ซาน มาเมส

“ซาน มาเมส” สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1913 ก่อนทุบทิ้งในปี 2010 จากนั้นได้สร้างสนามใหม่ทดแทน และเปิดใช้งานในปี 2013 หรือ 100 ปี หลังจากสร้างสนามแห่งแรก สำหรับชื่อของ “ซาน มาเมส” นั้น มีที่มาจากชื่อของ San Mamés (Saint Mammes) ซึ่งเป็นนักบุญไบแซนไทน์ และเป็นชื่อของโบสถ์ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับสนามเหย้าของบิลเบา

แอตเลติโก มาดริด – เอสตาดิโอ เมโทรโปลิตาโน่

“เอสตาดิโอ เมโทรโปลิตาโน่” สร้างขึ้นเมื่อปี 1990 แต่ได้ถูกใช้เป็นสนามเหย้าของแอต. มาดริด มาตั้งแต่ปี 2017 แทนที่ บิเซนเต้ กัลเดร่อน รังเหย้าแห่งเดิม พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น “ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่” ตามชื่อของ Wanda กลุ่มทุนจากประเทศจีนที่เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ ส่วนชื่อ “Metropolitano” คือชื่อสนามเหย้าแห่งแรกของสโมสร

บาร์เซโลน่า – สปอติฟาย คัมป์ นู

นี่คือครั้งแรกในรอบ 65 ปี ที่บาร์เซโลน่า ได้มีการเปลี่ยนชื่อสนามเหย้าจาก “คัมป์ นู” มาเป็น “สปอติฟาย คัมป์ นู” โดยชื่อ สปอติฟาย (Spotify) มาจากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชื่อดังของประเทศสวีเดน ที่เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ใหม่ให้กับสโมสร เพื่อนำเงินทุนไปดำเนินโครงการ Espai Barca ในการปรับปรุงสนามเหย้า และพื้นที่โดยรอบ

เรอัล เบติส – เอสตาดิโอ เบนิโต บียามาริน

ชื่อสนามเหย้าของเบติส มาจากชื่อของ “เบนิโต บียามาริน” อดีตประธานสโมสรที่ดำรงตำแหน่งในช่วงระหว่างปี 1955 – 1965 และเคยเปลี่ยนชื่อมาเป็น “เอสตาดิโอ มานูเอล รุยซ์ เด โลเปร่า” ตามชื่อของมานูเอล รุยซ์ เด โลเปร่า ที่เข้ามาเป็นประธานสโมสรในช่วงปี 1997 – 2010 แต่ในภายหลัง แฟนบอลของสโมสรได้ลงมติโหวตให้กลับไปใช้ชื่อเดิมอีกครั้ง

กาดิซ – เอสตาดิโอ นูเอโบ มิรันดิลย่า

เดิมมีชื่อว่า “เอสตาดิโอ ราม่อน เด การ์รันซ่า” เป็นชื่อของอดีตนายกเทศมนตรีเมืองกาดิซ ก่อนที่ในปี 2021 แฟนบอลของสโมสร ได้เสนอให้มีการเปลี่ยนชื่อสนามเหย้าใหม่ ผลปรากฏว่า ชื่อที่ได้รับการโหวตมากที่สุด คือ “เอสตาดิโอ นูเอโบ มิรันดิลย่า” ซึ่งมาจาก “Mirandilla” ชื่อสโมสรในอดีต ก่อนเปลี่ยนเป็นกาดิซในปัจจุบัน

เซลต้า บีโก้ – อาบังก้า บาลาอิโดส

สนามเหย้าของเซลต้า บีโก้ ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำลากาเรส (Lagares) สร้างขึ้นเมื่อปี 1924 โดยบริษัท Stadium de Balaídos ซึ่งกลายมาเป็นชื่อสนามของสโมสรในเวลาต่อมา จนกระทั่งในปี 2018 ABANCA สถาบันการเงินของประเทศสเปน ได้เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ ทำให้ชื่อสนามในปัจจุบัน มีชื่อว่า “อาบังก้า บาลาอิโดส”

เอลเช่ – เอสตาดิโอ มาร์ติเนซ บาเยโร่

สนาม “เอสตาดิโอ มาร์ติเนซ บาเยโร่” มาจากชื่อของ มานูเอล มาร์ติเนซ บาเยโร่ อดีตประธานสโมสรเอลเช่ (ผู้ล่วงลับ) สร้างขึ้นในปี 1976 และถูกใช้ในการแข่งขันรายการใหญ่อย่างฟุตบอลโลก 1982 มาแล้ว นอกจากนี้ ยังได้รับเลือกจากแฟนฟุตบอลลาลีกา ให้รับรางวัลสนามฟุตบอลที่ดีที่สุด ในฤดูกาล 2013/14

เอสปันญ่อล – อาร์ซีดีอี สเตเดี้ยม

สร้างขึ้นเมื่อปี 2009 เริ่มแรกใช้ชื่อว่า “เอสตาดี้ คอร์เนลล่า-เอล ปราต” เนื่องจากที่ตั้งของสนาม อยู่ระหว่างย่าน Cornellà  กับ El Prat ต่อมาเปลี่ยนเป็น “พาวเวอร์ เอท สเตเดี้ยม” (Power8 Stadium) จนกระทั่งในปี 2016 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “อาร์ซีดีอี สเตเดี้ยม” ซึ่งมาจากตัวอักษร 4 ตัวแรกของชื่อสโมสร “RCD Espanyol”

เกตาเฟ่ – โคลิเซียม อัลฟอนโซ เปเรซ

สนาม “โคลิเซียม อัลฟอนโซ เปเรซ” มาจากชื่อของ อัลฟอนโซ เปเรซ อดีตกองหน้าทีมชาติสเปน ยุค 1990s ที่เกิด และเติบโตในย่านเกตาเฟ่ ชานกรุงมาดริด เขาเริ่มต้นจากการเป็นนักเตะเยาวชนของเกตาเฟ่ ต่อมาได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของเรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และเรอัล เบติส แต่ไม่เคยลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของเกตาเฟ่เลยแม้แต่นัดเดียว

กิโรน่า – เอสตาดี้ มอนตีลีบี้

ที่ตั้งของสนาม อยู่ที่ย่าน Montilivi ในเมืองกิโรน่า ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้นคาตาลัน และได้กลายมาเป็นชื่อสนาม “เอสตาดี้ มอนตีลีบี้” ในเวลาต่อมา สร้างขึ้นเมื่อปี 1968 ก่อนที่อีก 2 ปีต่อมา สโมสรกิโรน่าได้ย้ายมาใช้สนามแห่งนี้ เป็นรังเหย้า แทนที่สนาม “เอสตาดิโอ วิสต้า อัลเอเกร” ที่ใช้งานมาเกือบ 50 ปี

เรอัล มายอร์ก้า – บิซิต มายอร์ก้า เอสตาดี้

สนามแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อปี 1999 เพื่อใช้จัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่ประเทศสเปน ภายใต้ชื่อ “เอสตาดิโอ เด ซอน โมอิกซ์” ก่อนที่สโมสรฟุตบอลเรอัล มายอร์ก้า จะมารับช่วงต่อ แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2020 จึงมีการเปลี่ยนชื่อสนามเป็น “บิซิต มายอร์ก้า เอสตาดี้” โดยความร่วมมือของสภาเมืองมายอร์ก้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

เรอัล มาดริด – เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว

“ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว” เป็นชื่อของอดีตผู้เล่น, อดีตผู้จัดการทีม และอดีตประธานสโมสรของเรอัล มาดริด ความสำเร็จในยุคที่เขาเป็นประธานสโมสรตั้งแต่ปี 1943 จนกระทั่งเสียชีวิตในปี 1978 คือแชมป์ลาลีกา 16 สมัย และแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 6 สมัย โดยชื่อของเขาได้ถูกนำไปตั้งเป็นชื่อสนามเหย้าของสโมสร ตั้งแต่ปี 1955 เป็นต้นมา

โอซาซูน่า – เอล ซาดาร์

สนาม “เอล ซาดาร์” ของโอซาซูน่า มาจากชื่อของแม่น้ำ “Sadar” ที่อยู่ใกล้กับที่ตั้งของสโมสร แต่ในช่วงระหว่างปี 2005 – 2011 เคยถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น “เรย์โน เด นาวาร์ร่า” (Reyno de Navarra) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นนาวาร์ (Navarre) ดินแดนปกครองตนเองที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศสเปน

ราโย บาเยกาโน่ – เอสตาดิโอ เด บัลเยกาส

ชื่อสนามเหย้าของราโย บาเยกาโน่ มาจากชื่อ “Vallecas” ซึ่งเป็นย่านที่อยู่ในกรุงมาดริด สร้างขึ้นเมื่อปี 1972 และเคยเป็นสถานที่ที่ใช้จัดแสดงคอนเสิร์ตของวง Queen วงดนตรีร็อกชื่อดังจากอังกฤษ ในปี 1986 อย่างไรก็ตาม ในปี 2018 สนามแห่งนี้เคยถูกระงับไม่ให้ใช้งานเป็นการชั่วคราว เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย

เรอัล โซเซียดัด – เรอาเล่ อารีน่า

ชื่อเดิมคือ “เอสตาดิโอ เด อาโนเอต้า” สร้างขึ้นเมื่อปี 1993 หลังจากทุบทิ้งสนามเหย้าเก่า ที่ใช้งานมานานกว่า 80 ปี จนกระทั่งในปี 2019 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “เรอาเล่ อารีน่า” ซึ่งมาจากชื่อของ เรอาเล่ เซกูรอส (Reale Seguros) บริษัทประกันภัยของสเปน ที่เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ให้กับโซเซียดัด

เซบีย่า – เอสตาดิโอ รามอน ซานเชซ ปิซฆวน

สนามแห่งนี้ มีที่มาจากชื่อของ “รามอน ซานเชซ ปิซฆวน” อดีตประธานสโมสรเซบีย่า ที่ดำรงตำแหน่งถึง 2 รอบ รอบแรกช่วงปี 1932 – 1941 และอีกรอบในปี 1948 – 1956 สนามแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1958 หรือ 2 ปีหลังจากรามอน ซานเชซ ปิซฆวน เสียชีวิต และได้นำชื่อของเขามาตั้งเป็นชื่อสนามเหย้า เพื่อเป็นเกียรติให้กับเขา

บาเลนเซีย – เมสตาย่า

ชื่อรังเหย้าของบาเลนเซีย มาจากชื่อคลองเมสตาย่า (Mestalla) ที่ติดอยู่ทางด้านทิศใต้ของสนาม ในสมัยก่อนแฟนบอลต้องกระโดดข้ามคลองเพื่อไปที่สนาม ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “หลยุส์ คาสโนว่า” ตามชื่อของประธานสโมสรที่เข้ามาบริหารในช่วงปี 1969 ถึง 1994 แต่หลังจากนั้นก็กลับไปใช้ชื่อ “เมสตาย่า” ตามเดิม

เรอัล บายาโดลิด – เอสตาดิโอ โฆเซ่ โซรีย่า

ชื่อสนามเหย้าของเรอัล บายาโดลิด มาจากชื่อของ โฆเซ่ โซรีย่า อี โมรัล (José Zorrilla y Moral) กวีชาวเมืองบายาโดลิด ผู้มีผลงานการประพันธ์ไว้มากมาย จนได้รับรางวัลระดับประเทศ และเหรียญเชิดชูเกียรติในช่วงบั้นปลายชีวิตของเขา สนามแห่งนี้ ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสังเวียนจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 1982 ที่สเปนเป็นเจ้าภาพ

บียาร์เรอัล – เอสตาดิโอ เด ลา เซรามิก้า

เดิมใช้ชื่อว่า “เอล มาดริกัล” และในปี 2017 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “เอสตาดิโอ เด ลา เซรามิก้า” สำหรับชื่อสนามในปัจจุบัน มีที่มาจากอุตสาหกรรมเซรามิค ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญของท้องถิ่น รวมทั้งสนามเหย้าของบียาร์เรอัล ถูกตกแต่งด้วยเซรามิคสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำสโมสร ดูโดดเด่นสะดุดตาอีกด้วย

บริบทของฟุตบอล ไม่ได้มีเพียงแค่การแข่งขันในสนามเท่านั้น แต่ผูกติดกับประวัติศาสตร์ ที่สะท้อนถึงตัวตนของสโมสรนั้นๆ ด้วย นี่คือสิ่งที่แฟนฟุตบอลต้องรู้จัก และเข้าใจความเป็นท้องถิ่นให้มากขึ้น

Categories
Special Content

อักเซล วิตเซล : มิดฟิลด์ใหม่วัยเก๋า “ตราหมี” กับ 5 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้

อักเซล วิตเซล เป็น 1 ในมิดฟิลด์ประสบการณ์สูง ที่ผ่านการค้าแข้งในหลายประเทศ แต่เขาตัดสินใจแยกทางกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หลังหมดสัญญา 4 ปี เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ในที่สุด แอตเลติโก มาดริด ก็ได้จัดการสอยตัววิตเซล กองกลางทีมชาติเบลเยียม มาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัว และกลายเป็นผู้เล่นใหม่คนแรกของ “ตราหมี” ในช่วงตลาดนักเตะซัมเมอร์ปีนี้

วิตเซล เริ่มต้นเส้นทางนักฟุตบอลตั้งแต่อายุ 6 ขวบ กับทีมเยาวชนของอาร์อาร์ซี ว็อตเท่ม, ซีเอส วิเซ่ จนได้เข้าสู่อคาเดมี่ของสตองดาร์ด ลีแอซ สโมสรชื่อดังในบ้านเกิดของเขา เมื่อปี 1999

หลังจากใช้เวลาอยู่กับอคาเดมี่ของลีแอชนานถึง 7 ปี วิตเซลก็ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของลีแอชได้สำเร็จ และระเบิดฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในตำแหน่งปีก ก่อนที่จะย้ายมาเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง

ตลอด 5 ปี ที่วิตเซลค้าแข้งกับลีแอช ลงเล่น 194 นัด ยิง 45 ประตู กับ 18 แอสซิสต์ พาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเบลเยียม 2 สมัยติดต่อกัน, แชมป์เบลเยียม คัพ 1 สมัย และแชมป์ซูเปอร์คัพ 2 สมัยติดต่อกัน

ต่อมาในปี 2011 วิตเซลได้หาประสบการณ์ค้าแข้งนอกประเทศบ้านเกิด เริ่มจากเบนฟิก้า ยักษ์ใหญ่ลีกโปรตุเกส, เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ทีมดังลีกรัสเซีย และเทียนจิน ฉวนเจียน สโมสรในประเทศจีน

จนกระทั่งในปี 2018 วิตเซลได้ย้ายมาค้าแข้งกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกา เยอรมัน เซ็นสัญญา 4 ปี ในช่วง 2 ฤดูกาลแรกกับ “เสือเหลือง” เจ้าตัวได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม ในเดือนมกราคม 2021 วิตเซลได้รับบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายฉีก ต้องพักยาวจนจบซีซั่น2020/21 และมีความกังวลว่า เขาอาจจะฟื้นตัวไม่ทันสำหรับการช่วยทีมชาติเบลเยียม สู้ศึกฟุตบอลยูโร 2020

ซึ่งเป็นความโชคดีของวิตเซล ที่สามารถเรียกความฟิตกลับมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ และได้ลงสนามในฟุตบอลยูโร เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว ทั้งหมด 4 นัด ช่วยให้ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย

สำหรับฤดูกาล 2021/22 ที่ผ่านมา วิตเซลก็กลับมาลงเล่นอย่างสม่ำเสมออีกครั้ง แต่หลังจากจบซีซั่น เขาตัดสินใจไม่อยู่กับดอร์ทมุนด์ต่อไป จึงเลือกที่จะย้ายไปหาความท้าทายใหม่ๆ กับ แอต. มาดริด ในที่สุด

ในส่วนของการรับใช้ทีมชาติเบลเยียมนั้น ดาวเตะวัย 33 ปี ลงสนามไปแล้วถึง 124 นัด มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากยาน แฟร์ตองเก้น (139 นัด) และเคยผ่านประสบการณ์ฟุตบอลโลก และฟุตบอลยูโร อย่างละ 2 สมัย

ด้วยคุณภาพ และประสบการณ์ที่ผ่านเกมระดับสูงมากว่า 600 นัด อักเซล วิตเซล อาจเป็นดีลที่ตอบโจทย์สำหรับแอต. มาดริด ก็เป็นได้ และนี่คือ 5 เรื่องราวของเขา ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

ในวัยเด็ก เคยเล่นฟุตซอลมาก่อน

ก่อนที่จะมาเล่นฟุตบอล วิตเซลในวัยเด็ก ได้ใช้เวลาไปกับการเล่นฟุตซอลโดยส่วนใหญ่ เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากเธียร์รี่ คุณพ่อของเขา ที่เคยเป็นอดีตนักฟุตซอลในระดับลีกดิวิชั่น 1 ของเบลเยียม แต่ท้ายที่สุดแล้ว คุณพ่อได้แนะนำให้ลูกชายเลือกฟุตบอล เพราะมองเห็นอนาคตที่ดีกว่า

มีออพชั่นเลือกเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศสได้

คุณพ่อเธียร์รี่ เป็นชาวเกาะมาร์ตินีก เกาะทางตะวันออกของทะเลแคริบเบียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในดินแดนของประเทศฝรั่งเศส ทำให้อักเซล สามารถเลือกเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศส ตามสัญชาติของคุณพ่อได้ แต่อักเซลตัดสินใจเลือกเล่นให้กับทีมชาติเบลเยียม ตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปัจจุบัน

สังหารจุดโทษ พาทีมคว้าแชมป์ลีก

ในนัดสุดท้ายของลีกสูงสุดเบลเยียม ฤดูกาล 2008/09 สตองดาร์ด ลีแอซ บุกไปชนะเกนท์ 1 – 0 จากจุดโทษของวิตเซล ทำให้มีแต้มเท่ากับอันเดอร์เลชท์ ต้องตัดสินทีมแชมป์ด้วยการเตะเพลย์ออฟแบบเหย้า-เยือน และเกมในเลกสองที่บ้านของลีแอซ วิตเซลก็เป็นฮีโร่อีกครั้ง ด้วยการสังหารลูกโทษเช่นเดิม พาทีมชนะ 1 – 0 และคว้าแชมป์ไปครอง ด้วยสกอร์รวม 2 – 1

เคยถูกขู่ฆ่า เพราะย่ำใส่คู่แข่งจนเจ็บหนัก

วันที่ 30 สิงหาคม 2009 วิตเซลในวัย 20 ปี ลงเล่นให้กับสตองดาร์ด ลีแอซ ในเกมที่บุกไปเยือนอันเดอร์เลชท์ คู่ปรับตลอดกาลของพวกเขา และถูกไล่ออกจากสนาม เพราะไปย่ำใส่ข้อเท้าของมาร์ซิน วาซิเลวสกี้ อดีตเซ็นเตอร์แบ็กทีมชาติโปแลนด์จนขาหัก ทำให้แฟนบอลเจ้าบ้าน และแฟนบอลชาวโปแลนด์โกรธแค้นเจ้าตัวอย่างหนัก ถึงขั้นขู่ฆ่าเอาชีวิตเลยทีเดียว

สวมเสื้อเบอร์ 28 กับทุกสโมสรที่เคยค้าแข้ง

ตลอดชีวิตการเป็นนักฟุตบอลระดับอาชีพ กับสตองดาร์ด ลีแอซ, เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก, เทียนจิน ฉวนเจียน และโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ วิตเซลได้สวมเสื้อหมายเลข 28 ครบทุกสโมสรที่เคยค้าแข้ง แต่สำหรับแอตเลติโก้ มาดริด คงจะเป็นเรื่องยากลำบากพอสมควร ในการสวมเสื้อเบอร์นี้

การเข้ามาของวิตเซล ทำให้ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ มีตัวเลือกเพิ่มในแดนกลางอีก 1 คน ซึ่งในตอนนี้มีทั้งเอคเตอร์ เอร์เรร่า, เชฟเฟ่ กงด็อกเบีย, โรดริโก้ เดอ ปอล, ซาอูล นีเกซ และโกเก้ ที่เป็นมิดฟิลด์ธรรมชาติ

อักเซล วิตเซล เป็นกองกลางจอมเทคนิค เล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแผงมิดฟิลด์ และรักษาสมดุลในแดนกลางเหมือนที่เคยทำไว้กับดอร์ทมุนด์ ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าจับตามอง ในซีซั่นใหม่ที่จะถึงนี้

Categories
Special Content

ส่องสถิติการครองบอลในลาลีกา ฤดูกาล 2021/22

การครองบอล คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่นอกเหนือจากการผ่านบอลและทีมเวิร์ก เพราะเป็นการสร้างทางเลือกเพื่อทำให้ฝั่งตัวเองได้เปรียบ ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ในการเอาชนะฝั่งตรงข้าม

และเมื่อพูดถึงสไตล์การเล่นที่เป็นจุดเด่นมาช้านานของลาลีกา สเปน คือการครองบอลให้มากที่สุด และเน้นความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ ในความพยายามที่จะหาช่องในการเข้าทำประตูให้ได้มากที่สุด

Mediacoach และ Microsoft ได้เปิดเผยข้อมูลการครองบอลของทีมและผู้เล่น ไล่ตั้งแต่แผงมิดฟิลด์ฝั่งตรงข้าม, แนวรับฝั่งตรงข้าม จนนำไปสู่การลุ้นยิงประตู ในการแข่งขันตลอดซีซั่น 2021/22 ที่ผ่านมา

ครองบอลเพื่อทำลายแผงมิดฟิลด์คู่แข่ง

อันดับแรก เริ่มที่การครองบอลในการหาทางเจาะแนวกองกลางฝ่ายตรงข้าม เพื่อขยายพื้นที่ในการพาบอลเข้าไปสู่แนวรับต่อไป โดยเรอัล มาดริด, เซลต้า บีโก้ และบาร์เซโลน่า คือ 3 ทีมที่มีสถิติในการครองบอลส่วนนี้ดีที่สุด

ขณะที่นักเตะที่มีสถิติครองบอลเพื่อเจาะมิดฟิลด์คู่แข่งดีที่สุด 5 อันดับแรก มีนักเตะเซลต้า บีโก้ ติดมา 2 คน คือ เนสตอร์ อเราโฆ่ กับฆาเวียร์ กาลัน ส่วนที่เหลือประกอบด้วยฟราน การ์เซ๊ย (ราโย บาเยกาโน่), เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ (เรอัล มาดริด) และโยฮัน โมจิก้า (เอลเช่)

ครองบอลเพื่อทำลายแนวรับคู่แข่ง

เมื่อฝ่ายบุกได้ทะลวงผ่านบริเวณกลางสนามไปแล้ว ก็ต้องหาทางเจาะกองหลังคู่แข่ง เพื่อเปิดพื้นที่ และพาบอลเข้ากรอบเขตโทษของฝ่ายรับให้มากขึ้น โดยทีมที่ทำได้ดีที่สุด 3 อันดับแรก คือบาร์เซโลน่า, กาดิซ และเอสปันญ่อล

ในส่วนของ 5 อันดับนักเตะที่ครองบอลเพื่อเจาะแนวรับได้ดีที่สุด ได้แก่ อาเดรีย เปโดรซ่า (เอสปันญ่อล), อีวาน อเลโฆ่ (กาดิซ), หลุยส์ ริโอฆา (อลาเบส), วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด) และโยฮัน โมจิก้า (เอลเช่) เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีนักเตะบาร์เซโลน่าคนใด ติดอยู่ในท็อป 5 เลย

ครองบอลที่นำไปสู่โอกาสการทำประตู

ปิดท้ายด้วยการครองบอลเพื่อสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมลุ้นยิงประตู อาจมีการผ่านบอลเพียง 1 – 2 จังหวะ ก่อนจบด้วยความพยายามที่จะส่งบอลเข้าไปในตาข่าย ซึ่งเรอัล มาดริด, เรอัล เบติส และบียาร์เรอัล คือทีมที่ติดท็อป 3 ในส่วนนี้

สำหรับนักเตะที่มีสถิติครองบอลเพื่อนำไปสู่โอกาสในการยิงประตูมากที่สุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด), นาบิล เฟคีร์ (เรอัล เบติส), หลุยส์ ริโอฆา (อลาเบส), อุสมาน เดมเบเล่ (บาร์เซโลน่า) และยาโก้ อัสปาส (เซลต้า บีโก้)

ความสำคัญของการครองบอล ไม่ได้มีแค่การควบคุมหรือบังคับบอล เพื่อไม่ให้ถูกคู่แข่งแย่งไปเท่านั้น แต่รวมถึงการสร้างโอกาสในการทำประตู ที่อาจจะเป็นตัวตัดสินผลการแข่งขันก็เป็นได้

ส่วนในฤดูกาล 2022/23 ที่กำลังจะมาถึงนี้ จะมีทีมใดหรือนักเตะคนไหน ติดอยู่ในลิสต์การครองบอลที่ดีที่สุดกันบ้าง หลังจบซีซั่นช่วงกลางปีหน้า คงจะได้ทราบกันอย่างแน่นอน

Categories
Our Work

สุดคึกคัก “LaLiga Futbol Cup 2022” ศึกฟุตบอลกระชับมิตร ครั้งแรก !! สนุก มันส์ ซ่า แบบครอบครัวลาลีกา

ห่างหายจากกิจกรรมสุดพิเศษจากลาลีกากันไปเดือนกว่า ๆ ก่อนเปิดฤดูกาล 2022/2023กลับมาครั้งนี้ ลาลีกาจัดเต็ม ระเบิดศึกความมันส์แบบไม่มีกัก กับศึกลูกหนังทัวร์นาเม้นท์พิเศษครั้งแรก!! ภายใต้งาน “LaLiga Futbol Cup by M88 2022” ที่สนาม kpc soccer km.9 เทพารักษ์ จ. สมุทรปราการ ชวนมาเตะบอลกระชับมิตร เชื่อมความสัมพันธ์ ความสามัคคี ที่เต็มไปด้วยความสนุกเเละมิตรภาพเเบบครอบครัว ลาลีกา โดยมี จอร์โจ้ ปอมปิลี รอสซี่ ตัวแทน ลาลีกา ประจำประเทศไทย เป็นประธานในพิธี

นี่ไม่ใช่กิจกรรมแรก ที่ทางลาลีกาได้ทำเพื่อสร้างสัมพันธ์กับแฟนบอล ก่อนหน้านี้ ทั้ง LaLiga Football Camping กางเต็นท์ ดูบอล จ. นครนายก ที่ได้ผลตอบรับดีเกินคาด ตามด้วยElClasico Boat Trip ล่องเรือดูบอล ชมวิวริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และล่าสุด LaLiga Pool Party ดูบอลมันส์ ดนตรีสด ริมสระน้ำบน Rooftop bar ย่านเอกมัย ที่ได้จัดมาแล้ว

ต่อเนื่องจากกิจกรรมดังกล่าว ครั้งนี้ถือเป็น activation การมอบประสบการณ์ร่วมกับฟุตบอลสเปนให้กับแฟนบอลชาวไทย ที่เพิ่มโอกาสให้แฟนบอล ได้ร่วมรับประสบการณ์ดี ๆ ที่มากขึ้น หลังจากการระบาดของโควิด-19 เบาบางลง และแทบจะเป็นเรื่องปกติในปัจจุบันแล้ว เนื่องจากครั้งนี้เป็นรูปแบบของการแข่งขันฟุตบอล จากครั้งแรก ๆ ที่ต้องจำกัดจำนวนตามมาตรการ มีแค่หลักสิบ หรือมากสุดไม่เกิน 70-80 คน

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนท์พิเศษนี้ เป็นแบบ 7 คน จะแข่งขันทั้งหมด 20 ทีม สามารถส่งชื่อเพื่อนร่วมทีมได้ทั้งหมด 10 คน ไม่จำกัดอายุ เพียงแค่คุณพร้อมที่จะลุย ก็มาสนุกกันได้เลย

งานนี้จัดกันทั้งวันแบบเต็มอิ่ม ตั้งแต่ 09.00 – 17.30 น. เริ่มต้นลงทะเบียน บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความคึกคัก แน่นอนว่า งานนี้ยังคงจัดขึ้นและปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ อยู่เสมอ ผู้เข้าแข่งขันทุกคน ทำการตรวจ ATK มายื่นแสดงผลหน้างาน

จากนั้นแต่ละทีมจะส่งตัวแทนมาจับสลาก เพื่อลุ้นว่าจะได้เสื้อสกรีนโลโก้สโมสรอะไรในลาลีกา ซึ่งจะมีเสื้อฟุตบอลสกรีนโลโก้ทีมแจกให้ใส่เพื่อทำการแข่งขันฟรี! และมีน้ำดื่มให้ฟรี ทีมละ 2 แพ็ค 24 ขวด รวมไปถึงของที่ระลึกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แอลกอฮอล์ล้างมือ ปฏิทิน ผ้าเช็ดหน้า พัด หน้ากากอนามัย เป็นต้น

เวลา 10.30 เริ่มเปิดศึกการแข่งขันในรอบแรก จะแบ่งเป็น 4 สาย สายละ 5 ทีม ทำการแข่งขัน 2 สนาม เพื่อหาผู้ผ่านเข้ารอบต่อไป ซึ่งรอบแรกจะทำการแข่งขันคู่ละ 10 นาที ระหว่างการแข่งขันแม้อากาศจะร้อน แต่ทุกทีมก็เล่นกันอย่างสนุกสนาน วิ่งหาจังหวะส่องประตูทีมตรงข้ามแบบไม่มีกั๊ก

เวลาล่วงเลยมาจนถึงรอบไฟนอล ก็ได้คู่ชิงระหว่าง ทีม KTFC พบกับ ทีมเอื้อทาธร เอฟซี คู่นี้เล่นแบบไม่มีใครยอมใคร แต่ยังรักษาไว้ซึ่งกฎและมารยาทที่ดีต่อกัน เช่นเดียวกับ MC ข้างสนาม ก็พากย์บอลกันสุดมันส์ เติมเต็มบรรยากาศอันคึกคักให้ทั้งนักกีฬาและกองเชียร์ข้างสนามได้เป็นอย่างดี

โดยทัวร์นาเมนท์นี้ มีถ้วยรางวัลให้ พร้อมลูกฟุตบอลแท้ที่ใช้สำหรับการแข่งขันลาลีกา ซึ่งผลการแข่งขันมีดังนี้ ผู้ชนะเลิศอันดับ 1 คือ ทีม KTFC จับสลากได้สโมสร เรอัล มาดริด, รองชนะเลิศอันดับ 1 คือ ทีมเอื้อทาธร เอฟซี จับสลากได้สโมสร อาลาเบส, รางวัลทีมแฟร์เพลย์ อวอร์ด คือ ทีม Monkey จับสลากได้สโมสร เรอัล เบติส และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม ตกเป็นของ หมายเลข 8 “คุณท็อป” จากทีม KTFC

นอกจากนี้ในงาน มีอาหารให้ทานฟรีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวร้อน ๆ ทานคล่องคอ, ดับร้อนด้วยไอศกรีมโบราณ หวาน เย็นชื่นใจ แล้วไปเติมพลังความซ่าด้วยน้ำจรวด หรือน้ำอัดลมโบราณ และชุดแสน็ค เฟรนช์ฟราย แซนด์วิช

ไม่เพียงเท่านั้นยังมีบูธกิจกรรมจาก M88 ทั้งกิจกรรมเตะบอล ถ่ายภาพโพลารอยด์ ที่พร้อมจะมอบความสุขให้กับทุกท่าน และกองเชียร์ผู้ติดตามได้ร่วมมันส์กัน

ผลตอบรับสำหรับกิจกรรมนี้ ดีเกินคาด เพราะนอกจากแฟนบอลจะได้เตะบอล ออกกำลังกาย รวมทีมมาร่วมสนุกไปด้วยกันแล้วนั้น ยังถือเป็นการต่อยอดประสบการณ์ดี ๆ ให้กับคอบอลสเปนในประเทศไทย ได้ร่วมสนุกและสร้างสัมพันธ์อันดีกับแฟนบอลให้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้นอีกด้วย กิจกรรมดี ๆ แบบนี้ จะเกิดขึ้นในประเทศไทยอีกแน่นอน โปรดติดตามกันต่อไป

ดูภาพกิจกรรมเพิ่มเติม คลิก https://drive.google.com/drive/folders/1oZlO1WOA4o_F8W9j4NLk6uU22Ylpb5nR?usp=sharing

📝 ภาวินีย์ สูญสิ้นภัย (แนน)

Categories
Football Business

ระเบิดศึก ครั้งแรก! ฟุตบอลทัวร์นาเม้นท์พิเศษ “LaLiga Futbol Cup” ชวนเตะบอล 7 คน พร้อมรับความสนุกและมิตรภาพแบบครอบครัวลาลีกา

คอบอลอย่างเราพลาดได้อย่างไร หยิบสตั๊ด รวมเพื่อน มาเตะบอลกัน! กับกิจกรรมดีบอกต่อ ที่เปิดโอกาสให้ร่วมสนุกกับการแข่งขันฟุตบอล ภายใต้งาน “LaLiga Futbol Cup by M88 2022” งานที่จะชวนทุกท่าน ที่ชื่นชอบในการเตะบอล ออกกำลังกาย รวมทีมมาร่วมสนุกไปด้วยกัน กับการแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนท์พิเศษ ที่เต็มไปด้วยความสนุกเเละมิตรภาพเเบบครอบครัว ลาลีกา เตะบอลมันส์ Fun ให้สุด !

ฟุตบอลทัวร์นาเมนท์พิเศษ ครั้งแรก โดยลาลีกาครั้งนี้ เป็นการแข่งขันแบบ 7 คน ส่งชื่อเพื่อนร่วมทีมได้ทั้งหมด 10 คน ไม่จำกัดอายุ เพียงแค่คุณพร้อมที่จะลุย ก็สามารถสมัครเข้ามาได้เลย เปิดรับสมัครเพียง 20 ทีมเท่านั้น !! 

ภายในงานจะมีเสื้อฟุตบอลสกรีนโลโก้ทีมใน ลาลีกา สเปน 20 สโมสรแจกให้ใส่เพื่อทำการแข่งขันฟรี! โดยทำการจับสลากหน้างานว่า แต่ละทีมจะได้เสื้อสกรีนโลโก้สโมสรอะไร และมีน้ำดื่มให้ฟรี ทีมละ 2 แพ็ค 24 ขวด ซึ่งทัวร์นาเมนท์นี้ มีถ้วยรางวัลให้สำหรับผู้ชนะเลิศอันดับ 1, 2 และ 3 รวมถึงรางวัลทีมแฟร์เพลย์ อวอร์ด และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม

นอกจากนี้ในงานยังมีอาหารให้ทานฟรีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวร้อน ๆ ทานคล่องคอ หรือดับร้อนด้วยไอศกรีมโบราณ หอม หวาน เย็นชื่นใจ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีบูธกิจกรรมจาก M88 ที่พร้อมจะมอบความสุขให้กับทุกท่าน และกองเชียร์ผู้ติดตามได้ร่วมมันส์กันอีกด้วย

กติกาการสมัครเข้าร่วมกิจกรรม

1. สแกน QR Code หรือ คลิกที่ลิงนี้ https://bit.ly/3bcpubH แล้วกรอกข้อมูลตามขั้นตอน

2. แจ้งชื่อ-นามสกุล เบอร์ติดต่อ และ E-mail 

3. ส่งภาพถ่ายที่แสดงความเป็น “ทีม” ของคุณ กับลาลีกาเข้ามาในแบบฟอร์ม

สำหรับการประกาศผลว่าทีมไหนจะได้เข้าร่วมกิจกรรม จะทำการประกาศใน วันที่ 30 มิถุนายน 2565 (เวลา 15.00-16.00 น.)  ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อไป (หากไม่สามารถติดต่อได้เจ้าหน้าที่ขอสงวนสิทธิ์ให้กับผู้โชคดีทีมลำดับถัดไป)

หมายเหตุ : 

1. จำนวนทีมที่รับทั้งหมด 20 ทีม ทีมละ 10 คน

2. สมัครมาเป็นทีม โดยตัวแทนทีมลงทะเบียนครั้งเดียว แล้วใส่ชื่อสมาชิกในทีมได้เลย 10 คน

3. ค่ามัดจำทีม จำนวน  1,500 บาท สำหรับการลงทะเบียนเข้าร่วมทัวร์นาเมนท์ **

** หากไม่ได้รับการคัดเลือกจะโอนกลับในวันที่ 1 ก.ค.2565 สำหรับทีมที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมแข่งขัน และมารายงานตัวในวันที่จัดแข่งขัน จะได้รับเงินคืน โดยจะโอนเงินคืนให้กับหัวหน้า หรือตัวแทนทีมในวันถัดไปหลังจบงาน (กรณีที่โดนใบแดงทางผู้จัดขออนุญาตยึดมัดจำ)

4. สำหรับทีมที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมทัวร์นาเมนท์นี้ ต้องทำการถ่ายรูป ผลตรวจ ATK คู่กับบัตรประจำตัวประชาชน มายื่น ณ จุดลงทะเบียนหน้างาน 

.

*กรุณาทำตามทุกขั้นตอน*

– ผลตรวจจะต้องเป็นลบ (ไม่พบเชื้อ) 

– ผลตรวจจะต้องทำการตรวจไม่เกิน 24 ชั่วโมงก่อนเข้างาน

สถานที่ : สนามฟุตบอล kpc soccer km.9 (สนามฟุตบอลในร่ม)

พิกัด : https://goo.gl/maps/H4qY5sSs3s8bSDKu9

วันที่ : 2 กรกฏาคม 2565 

เวลา : 09.00 – 17.00 น.

สุดท้ายนี้ อย่าลืม ! แอดไลน์ @khaimukdam กันไว้นะคะ เพื่อไม่ให้พลาดกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ และสามารถเข้ามาพูดคุย สอบถามกันได้

แล้วเตรียมตัว เตรียมใจ ฟิตร่างกาย มาโชว์ฝีเท้ากับพวกเราได้เลย

Categories
Our Work

1 ใน 8 ประเทศทั่วโลก ประเทศไทย ถูกเลือก! ลาลีกา จับมือ พูม่า เปิดตัวลูกฟุตบอล “PUMA ORBITA LaLiga” ต้อนรับซีซั่นใหม่ 2022/23

จากการศึกษาจนเป็นที่ยอมรับจาก ลาลีกา ว่า ประเทศไทยมีฐานแฟนฟุตบอลจำนวนมาก และมีความสามารถเป็น 1 ในชาติหลักศูนย์กลางการสื่อสาร และทำกิจกรรมการตลาดของลีกฟุตบอลสเปนได้จนลาลีกาได้เข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทยเป็นเวลากว่า 5 ปี ล่าสุด ลาลีกา ได้จับมือกับ พูม่าแบรนด์กีฬาระดับโลก จัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ลูกฟุตบอลดีไซน์ใหม่  25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 โดยใช้ชื่อว่า “พูม่า ออร์บิต้า ลาลีกา” (PUMA ORBITA LaLiga) เพื่อเผยโฉมลูกหนังที่จะใช้ในการแข่งขันฟุตบอล LaLiga Santander และ LaLiga Smartbank สำหรับฤดูกาล 2022/23 โดย มร.ออสการ์ มาโย กรรมการบริหารลาลีกา และ มร. แดเนียล โมเรโน่ หัวหน้าฝ่ายการตลาดของพูม่า ได้เป็นตัวแทนงานเปิดตัวในประเทศสเปนพร้อมกับอีก 7 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ เกาหลีใต้, อียิปต์, ฟิลิปปินส์,เม็กซิโก, ไนจีเรีย, แอฟริกาใต้ และประเทศไทย ได้สิทธิ์ถูกเลือกเป็นหนึ่งในนั้นด้วย ณ Ari Football สยามสแควร์ ซอย 6 

การออกแบบครั้งนี้ มาในคอนเซปต์ลูกฟุตบอลที่สะท้อนให้เห็นถึงความหลงใหลในเกมฟุตบอล, ความมีเสน่ห์ และการหลอมรวมจิตวิญญาณระหว่างนักเตะและแฟนบอลให้เป็นหนึ่งเดียว ลักษณะของลูกบอล จะมีสีสันและเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับลาลีกา โดยมีลวดลายซิกแซก มีทั้งโทนสีขาวผสมกับสีบานเย็น และสีดำผสมด้วยสีฟ้ากับสีเหลือง โดยจะมีทั้งลูกบอลปกติ และลูกบอลสำหรับใช้ในการแข่งขันช่วงฤดูหนาว เพื่อให้ผู้เล่นสามารถมองเห็นลูกฟุตบอลได้ชัดเจนขึ้น

พูม่า ออร์บิต้า ลาลีกา ออกแบบด้วยรูปทรงขนาดใหญ่ที่เป็นเอกลักษณ์ 8 ชิ้นมาเชื่อมต่อกัน เพื่อลดจำนวนตะเข็บลง และให้ให้สามารถเชื่อมต่อกับลูกฟุตบอลได้ดีขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ลูกฟุตบอลคงยังคงมีรูปทรงกลม และการดูดซึมน้ำที่น้อยลง ขณะที่ลูกฟุตบอลรุ่นนี้ จะมีการเพิ่มหนังแบบ POE เพื่อให้นักเตะสามารถควบคุมลูกฟุตบอลได้ดีขึ้น มีการส่งและการยิงที่แม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ พื้นผิว PU 3D 1.2 มิลลิเมตร ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพการเคลื่อนที่ในอากาศ ทำให้มีความทนทานเพิ่มขึ้น ผ่านการรับรองมาตรฐานจากฟีฟ่า ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นการออกแบบให้อำนวยความสะดวกในการใช้งานเพื่อนักฟุตบอลได้อย่างแท้จริง

คำว่า “ORBITA” หมายถึง ศูนย์กลางแห่งเกมลูกหนัง ที่สามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ตลอดเวลา การเปิดตัวในครั้งนี้ มาพร้อมกับนักฟุตบอลชื่อดังของลาลีกา อาทิ แยน โอบลัค, อองตวน กรีซมันน์, เมมฟิส เดปาย, สเตฟาน ซาวิช และยูนุส มูซาห์

สำหรับในประเทศไทย เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Puma, LaLiga และ Ari ภายใต้ชื่อว่า “LAUNCH PUMA ORBITA THAILAND” จัดงาน เปิดตัวลูกฟุตบอลของ “Puma” ที่ร้าน Ari Football สาขา สยามสแควร์ ซอย 6 โดยมี นายธเนศ โฆษิตวุฒิโสภณ รองประธานฝ่ายการตลาด Ari Football เป็นตัวแทนในการเปิดงาน กล่าวว่า “ยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งสำหรับการเปิดตัวลูกฟุตบอลในครั้งนี้อันเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกกับลาลีกา ทั้งนี้ทาง Ari พร้อมที่จะสนับสนุน และร่วมกิจกรรมดี ๆ แบบนี้กับลาลีกาอีกอย่างแน่นอนในอนาคต”

ภายในงานมีเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ นักฟุตบอล และสื่อมวลชน มาร่วมเปิดตัวลูกฟุตบอลอย่างเป็นทางการ อาทิ “ซันนี่” ธัญญารัตน์ เนาวรัตน์พงษ์ แฟนบอลสาวสาวกหงส์แดง และ “วอร์มอัพ” ภาสวัฒน์ วงศ์ษา, “เอก” เอกชัย สำเหร่ แบ็คขวามากประสบการณ์จากสโมสร โปลิศ เทโร, “บอล” จักรพันธ์ พรใส ปีกตัวจี๊ดจากทีม ราชบุรี มิตรผล, “บอล” ชัยวัฒน์ บุราณ และ “เป้” นพพล พลคำ สองนักเตะแห่ง สมุทรปราการ ซิตี้ ฯลฯ จากทางฝั่ง Ari และครอบครัวสื่อฝั่งลาลีกาที่มาร่วมงานเป็นประจำ อย่างเช่น เจมส์ ลาลีกา, ขวัญ ลามาเซีย, พีชชงพีชชี่, ทีมงาน SoccerSuck, ทีมงาน Top4Official, ดูบอลกับแนท, เดอะนัทซัดหมดแมกซ์, ต่อ ณ ระนอง ฯลฯ

ช่วงเวลาก่อนการเปิดตัวลูกฟุตบอลได้มีการพูดคุยถึงเรื่องฟุตบอลกันเล็กน้อยอย่างอบอุ่น สนุกสนาน ระหว่าง พิธีกร “ท็อปไข่มุกดำ” ในฐานะตัวแทนคุณจอร์โจ ปอมปิลี่ รอสซี่ จากลาลีกา ซึ่งติดโควิด-19 ไม่สามารถมาร่วมงานได้, คุณธเนศ โฆษิตวุฒิโสภณ หรือ “ซันชิโร่” รองประธานฝ่ายการตลาด Ari Football และ “เอก” เอกชัย สำเหร่ พรีเซ็นเตอร์คนแรก ๆ ของ Ari ซึ่ง เอกชัย ได้พูดถึงลูกฟุตบอลที่ใช้ในการเล่นฟุตบอลอาชีพว่า “ส่วนตัวมองว่าคุณสมบัติของลูกฟุตบอล มีความสำคัญในการเล่น พื้นฐานเช่น ลูกฟุตบอลถ้าเกิดมีหนังหนาเกินไป หรืออุ้มน้ำ ช่วงฝนตก มันจะส่งผลเวลาเราเตะ ลูกบอลจะหนักมากขึ้น ส่วนเรื่องน้ำหนักของลูกบอลก็มีผล เพราะถ้าเบาเกินไปก็ไม่ดี หนักเกินไปก็เตะไม่ไหว”

นอกจากนี้ยังได้พบกับ 2 กูรู อย่าง เจมส์ ลาลีกา และ ขวัญ ลามาเซีย ที่มาร่วมพูดคุยถึงเรื่องราวบทสนทนาลูกหนังสเปนอย่างสนุกสนาน ทั้งเรื่องโค้ช นักฟุตบอล แผนการเล่น และปัจจัยการลุ้นแชมป์ต่าง ๆ รวมไปถึงภาพรวมเกมการแข่งขันในฤดูกาลนี้ และการเตรียมทีมสำหรับซีซั่นหน้าอีกด้วย

สามารถติดตามกิจกรรมแจกลูกฟุตบอล Puma Orbita Laliga ได้ทางช่องทางของ Ari, SoccerSuck และขวัญ ลามาเซีย รวมถึงเกาะติดทุกงานอีเวนต์ของลาลีกาได้แบบใกล้ชิดทางช่องทาง ไข่มุกดำ หรือไลน์แอด @khaimukdam นะคะ

📝 ภาวินีย์ สูญสิ้นภัย (แนน)

Categories
Our Work

ลาลีกา เปิดตัว LaLiga Pass ใช้กลยุทธ์ PR แบบเรียบง่าย อบอุ่น และกันเอง เชิญสื่อกีฬาดินเนอร์ พูดคุย และออนไลน์มีตติ้งกับผู้บริหารจากสเปน

ลาลีกา เปิดตัว LaLiga Pass เรียบร้อยแล้วด้วยกลยุทธ์ PR แบบเรียบง่าย โดยเชิญสื่อกีฬา, influencers และ KOLs สายฟุตบอลกลุ่มเล็ก ๆ ประมาณ 20 คนมาร่วมรับประทานอาหารเย็น พูดคุยกับตัวแทนลาลีกาในประเทศไทย และมีสายตรงออนไลน์จากสเปนทักทายโดยผู้บริหารลาลีกาเข้ามาตอบคำถามแบบเอ๊กซ์คลูซีฟพิเศษ โดยเฉพาะกับตลาดประเทศไทย ต่อยอดกิจกรรมการตลาดหลากหลายกิจกรรมที่ทำอย่างต่อเนื่องนับจากต้นปีที่ผ่านมา

กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดย ลาลีกา หนึ่งใน “ลีกหลัก” ยุโรปลีกเดียวที่มีตัวแทนมาประจำการในประเทศไทย และได้ริเริ่มโปรเจคต์หลากหลายตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ไล่จากงานกางเต็นท์ดูบอล จังหวัดนครนายก ต่อด้วยล่องเรือปาร์ตี้ พรีวิว ชมวิว ก่อนเกมเอลกลาซิโก และล่าสุด Pool Party ดูบอล ฟังเพลงฉลองแชมป์ให้กับ เรอัล มาดริด บน Rooftop bar ริมสระน้ำ ล้วนหวังจะมอบประสบการณ์ให้แฟนบอลไทยได้มีโอกาสใกล้ชิดกับลาลีกามากยิ่งขึ้นในมิติที่มากกว่าแค่การชมเกมฟุตบอล

ล่าสุด วันที่ 5 พ.ค. 2565 ลาลีกา ได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม OTT (Over-the-top) เป็นครั้งแรกในอาเซียน พิเศษเฉพาะประเทศไทย และอินโดนีเซีย เป็นแอพพลิเคชั่น ชื่อว่า “LaLiga Pass” ให้แฟนฟุตบอลสเปนได้เข้าถึง และเตรียมเปิดอีกประสบการณ์ใกล้ชิดลีกที่รัก ทีมที่โปรดได้มากกว่าเดิม พร้อมเต็มอิ่มด้วยฟุตบอลสดครบทุกนัดทั้ง LaLiga Santander และ LaLiga Smartbank รวมถึงคอนเทนท์พิเศษอื่น ๆ แบบ non-stop 24/7 อย่างจุใจ

LaLiga Pass จะรองรับการรับชมผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (บริการ OTT หรือ Over-The-Top) ได้ทุกแพลทฟอร์ม เช่น สมาร์ทโฟน และสมาร์ททีวี เปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่นี่! ประเทศไทย และอินโดนีเซีย 2 ชาติเท่านั้นในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล 2021/22 ก่อนจะดำเนินการเต็มรูปแบบในฤดูกาลใหม่ 2022/23 ต่อไป 

สำหรับการเปิดตัวในประเทศไทย ได้ความร่วมมือจากอินฟลูเอนเซอร์, KOLs และสื่อแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ช่วยกันประชาสัมพันธ์ มานั่งทานข้าว พูดคุยถึงเรื่องฟุตบอลสเปน (Media Dining Session) ร่วมกับคุณจอร์โจ้ ปอมปิลี่ รอสซี่ ตัวแทนลาลีกา ในประเทศไทย และทดลองดาวน์โหลดบริการ LaLiga Pass ร่วมกัน ที่ ร้านอาหาร Reunion (ชั้น 5 ตึก DOM : Delight Of Motorcyclist ) วิภาวดี 20

บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น พี่ ๆ เพื่อน ๆ สื่อได้มาเจอกัน หลังจากนั้นได้มีการวิดีโอคอลพูดคุยอย่างเป็นกันเอง กับผู้บริหารลาลีกาประเทศสเปน คุณอัลเฟรโด้ แบร์เมโจ้ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ดิจิทัลของลาลีกา ในช่วงเวลา 5 โมงเย็นในบ้านเรา (ตรงกับเวลาเที่ยงของสเปน)

คุณอัลเฟรโด้ กล่าวว่า “หนึ่งในกุญแจสำคัญ คือการนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับฟุตบอลสเปน ในภาษาท้องถิ่นของตัวเอง เพื่อให้สามารถเข้าถึงคอนเทนท์ที่มีคุณภาพ ที่ปรับให้เข้ากับรสนิยม และความต้องการของแฟนฟุตบอลในประเทศนั้น ๆ”

“เราเชื่อว่า LaLiga Pass และเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ถือเป็นก้าวสำคัญของเรา และจะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับแฟน ๆ ที่ต้องการจะเข้าถึงฟุตบอลลาลีกา และเนื้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง”

“การเลือกประเทศไทยก็เพราะ ฐานแฟนบอลที่มีจำนวนมาก และความสัมพันธ์อันดียาวนานกับพาร์ตเนอร์ในประเทศไทยโดยเฉพาะในส่วนการถ่ายทอดสด (เช่นกับ ทรู) และก็เพื่อจะเพิ่มออฟชั่นในการติดตามให้กับแฟน ๆ และให้แฟนบอลได้ใกล้ชิดกับลาลีกามากยิ่งขึ้น”

นี่น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี ที่บ่งบอกถึงการเติบโตของ ‘ลาลีกา’ เมื่อความนิยมฟุตบอลสเปนเพิ่มขึ้น การพัฒนาหรือเกิดขึ้นใหม่ของแพลตฟอร์มที่พร้อมเข้าถึง สร้างความสนุกสนานและอำนวยความสะดวกให้แฟนฟุตบอลถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้แฟนบอลใกล้ชิดกับลาลีกาได้มากขึ้น

โดย LaLiga Pass พัฒนาขึ้นโดย LaLiga Tech ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ลาลีกาตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะร่วมกับ LaLiga Digital แฟน ๆ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลทั้ง LaLiga Santander และ LaLiga Smartbank ครบทุกแมตช์ โดยเลือกรับชมได้ตามความต้องการของแต่ละคน

พิเศษสุดเฉพาะผู้ใช้งาน LaLiga Pass ในแต่ละแมตช์เดย์ จะมี 3 คู่ ที่มีการบรรยายการแข่งขันเป็นภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้น ๆ (เช่น ภาษาไทยสำหรับแฟนบอลไทย) นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์การแข่งขัน, ประตูสุดสวย, บทสัมภาษณ์สุดพิเศษ และเนื้อหาอื่น ๆ ที่มานำเสนอทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือ 24/7 กันเลยทีเดียว โดยรายการ Local Content ตรงกับความต้องการแฟนบอลไทยจะมีแน่นอนในอนาคต

สำหรับ LaLiga Pass ในช่วงแรกของการเปิดตัว จะนำเสนอเป็นภาษาท้องถิ่นทั้งภาษาบาซาฮา และภาษาไทย นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ และภาษาสเปน พร้อมใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ ทั้งระบบ iOS และ Android ไปจนถึงเว็บ และสมาร์ททีวี อีกทั้งจะขยายไปยังแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ใหม่ ๆ ในอนาคตอันใกล้

คุณออสการ์ มาโย กรรมการบริหารลาลีกา กล่าวว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้พยายามปรับปรุงประสบการณ์ของแฟน ๆ ที่ติดตามฟุตบอลสเปนจากพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก และตอนนี้เราต้องการก้าวไปอีกขั้น โดยให้แฟน ๆ สามารถรับชมคอนเทนท์ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ และบอกเล่าเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับลาลีกาและสโมสรต่าง ๆ ในประเทศเหล่านั้นด้วย”

นี่เป็นเพียงก้าวแรก ๆ สำหรับการเริ่มต้นของ “LaLiga Pass” ที่จะมาสร้างความสนุกสนานให้กับแฟน ๆ ทั่วโลกแบบเฉพาะเจาะจงตามวิถีวัฒนธรรมของแต่ละชาติ ผสมผสานกับคอนเทนท์ฟุตบอลสเปนจากลาลีกาอย่างกลมกล่อมโดยโชคดีที่ประเทศไทยได้ถูกเลือกเป็น 1 ในไม่กี่ชาติดังกล่าวนั้น

.

📝 ภาวินีย์ สูญสิ้นภัย

Categories
Our Work

LaLiga Pool Party กิจกรรม Outdoor ดูบอล ฟังเพลง บรรยากาศริมสระน้ำ วิว Rooftop bar ร่วมฉลองแชมป์ลาลีกา 2021/22 สมัยที่ 35! เรอัล มาดริด ถล่ม เอสปันญอล 4-0

โค้งสุดท้ายของฤดูกาลแบบนี้ ลาลีกา ประเทศไทย ไม่พลาดจัดกิจกรรมสุดชิค และชิลล์ ต่อยอดการสร้างประสบการณ์ให้กับแฟนฟุตบอล โดยครั้งนี้มาในคอนเซ็ปต์ “LaLiga Pool Party” กิจกรรม outdoor ดูบอล ฟังเพลง ริมสระน้ำ Rooftop bar ใจกลางกรุงเทพมหานคร พร้อมเป็นสักขีพยานชม “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยิงสลุต ฉลองแชมป์ลาลีกา 2021/22

กิจกรรมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจคต์การจัดอีเวนต์ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยเน้นสถานที่โปร่ง โล่ง สบาย และจำนวนผู้ร่วมแบบเหมาะสม ตรวจ ATK กันทุกคนก่อนย่างเท้าเข้างาน

อีเวนต์ลักษณะนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เริ่มจากงาน LaLiga Football Camping ที่จังหวัดนครนายก ครั้งแรก! กับการกางเต็นท์ ฟังเพลง ชมดาว ดูบอล เดือน ก.พ.ที่ผ่านมาที่ได้รับผลตอบรับเกินความคาดหมาย ต่อด้วยงาน ElClasico Boat Trip ในเดือนถัดมาที่มอบประสบการณ์ใหม่ให้คอบอลด้วยการ ล่องเรือคุยฟุตบอล พรีวิวเกมคู่บิ๊กแมตช์ “เอลกลาสซิโก” เรอัล มาดริด ปะทะ บาร์เซโลน่า ที่ได้รับความสนใจอย่างมากเช่นกัน

และล่าสุดที่ผ่านมา เมื่อวันเสาร์ ที่ 30 เม.ย.2565 สำหรับงานนี้ LaLiga Pool Party แน่นอนว่าเมื่อมีข่าวโปรโมทออกไป แฟนฟุตบอลทั้งหน้าใหม่ และหน้าเก่า ต่างให้ความสนใจ และสอบถามเข้ามากันมากมาย

ผู้เข้าร่วมงานกว่า 100 คน ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชน, อินฟลูเอนเซอร์ และแฟนบอลที่ถูกคัดเลือกเข้ามาจากกิจกรรมออนไลน์ให้แสดงความเป็นตัวตนคุณกับลาลีกา ทั้งหมดได้ผ่านการตรวจ ATK และลงทะเบียนก่อนเข้างาน ซึ่งใครที่ผ่านการลงทะเบียนในจุดนี้ ก็จะได้สิทธิ์ และโอกาสลุ้นชิงของรางวัลมากมาย นำโดยเสื้อแข่งขันของแท้ บาร์เซโลนา, เอสปันญอล, เรอัลมาดริด และเสื้อจั๊มเปอร์ใส่เท่ห์ รุ่นพิเศษ ElClásico รวมจำนวน 5 ตัว

คอนเซ็ปต์ของงานนี้ คือ เปลี่ยนบรรยากาศนั่งนอนดูบอลอยู่บ้าน แล้วออกมาสนุกไปกับการดูบอลมันส์ ฟังดนตรีร่วมกิจกรรมสนุก ริมสระน้ำบน Rooftop bar พร้อมผ่อนคลายไปกับเสียงดนตรีจากนักร้อง นักดนตรี มาบรรเลงเพลงเพราะ ๆ ขับกับเสียงแซคโซโฟนให้ฟังแบบลื่นหู ต่อด้วยการมิกซ์เพลงสุดมันส์จาก DJ สุดหล่อ และรับประทานดินเนอร์ กิน ดื่ม ฟรี! ท่ามกลางแสงไฟอบอุ่น และวิวเมืองหลวง 360 องศา สุดโรแมนติกยามค่ำคืน

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยสีสัน ความสนุกสนาน ความชื่นมื่น ที่ทุกคนแสดงออกมาให้เห็นทั้งจากสีหน้า รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ สาวกลูกหนังสเปนได้ร่วมสนุกไปกับ แขกรับเชิญพิเศษ , KOLs และอินฟลูเอนเซอร์ สายฟุตบอลเพียบ !! นำโดย เจมส์ ลาลีกา, และ ขวัญ ลามาเซีย 2 กูรูฟุตบอลสเปน ที่มาร่วมพูดคุยวิเคราะห์เกมระหว่าง “เรอัลมาดริด” ปะทะ “เอสปันญอล” ทั้งก่อนเกมและระหว่างพักครึ่ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุก มีจังหวะให้ลุ้น ให้เฮกันเป็นระยะ ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่า เรอัล มาดริด คว้าชัยเหนือเอสปันญอล 4-0คว้าแชมป์ลาลีกา สมัยที่ 35 ของสโมสรไปครอง

นอกจากนี้ยังมี เดอะนัทซัดหมดแมกซ์, มายด์เปี๊ยกบางใหญ่, เพจเสพติดบอลสเปน, เพจดูบอลกับแนท, ทีมงาน Top4Official  ฯลฯ ที่มาร่วมสนุกสร้างสีสันความมันส์ริมสระน้ำไปพร้อมกันอีกด้วย

“ขอบคุณทุก ๆ คนที่มาร่วมงานในวันนี้ และมีส่วนร่วมในประสบการณ์ดี ๆ มากกว่าแค่เกมฟุตบอลไปด้วยกัน ฟุตบอลลาลีกา แม้จะใกล้จบแล้ว แต่ยังมีลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรป และหนีตกชั้นกันอยู่ เพิ่มเติมจากวันนี้ คือ ลาลีกา เตรียมเปิดตัวแอพพลิเคชั่น LaLiga Pass เพื่อติดตามการถ่ายทอดสด และคอนเทนท์อื่น ๆ แบบเอ๊กซ์คลูซีฟ โดยตรงจากลาลีกาให้ทดลองดาวน์โหลดกันอีกด้วย ก็ฝากไว้ด้วยครับ”

จอร์โจ ปอมปิลิ รอสซี ตัวแทนลาลีกา ในประเทศไทย กล่าว

กิจกรรมนี้ เป็นการนำประสบการณ์ดี ๆ สร้างการรับรู้ถึงฟุตบอล ลาลีกา สเปน และสร้างสัมพันธ์กับแฟนบอลให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เนื่องจากฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมของคนไทย โดยลาลีกาเองได้ตระหนักถึงสิ่งนี้ และมีทั้งตัวแทน และออฟฟิศประจำอยู่ประเทศไทยมากกว่า 5 ปีแล้ว

สำหรับแฟนบอลลาลีกา และแฟนบอลทั่วไปที่หากสนใจข่าวสารกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ สามารถติดตามได้โดยการแอดเพิ่มเพื่อน LINE OA: @khaimukdam หรือผ่านทางทุกช่องทางของ “ไข่มุกดำ” เพื่อคุณจะไม่พลาดทุกกิจกรรมการร่วมสนุกดี ๆ ในอนาคตได้ต่อไป

📝 : ภาวินีย์ สูญสิ้นภัย (แนน)