Categories
Our Work

ลาลีกา สนุกกว่าเดิม!! ต้อนรับฤดูกาลใหม่ นัดมีตติ้งสื่อ อินฟลูเอนเซอร์ สไตล์นั่งชิล สวนหลังบ้านเพื่อน เปิดตัว LALIGA+ แพลตฟอร์มชมบอลสเปน สด ครบ 380 แมตช์ พร้อมโลโก้ใหม่ สโลแกนใหม่ สปอนเซอร์ใหม่ เข้าถึงแฟนบอลมากขึ้น

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ลาลีกาได้พยายามปรับปรุง เพื่อสร้างประสบการณ์ให้แฟนฟุตบอลสเปนจากพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก และแน่นอนว่า ตลาดอาเซียนนำโดยประเทศไทย คือ ตลาดหลักที่ลาลีกาให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง

สืบเนื่องจากปีที่แล้ว เปิดตัวแอพพลิเคชั่น “LaLiga Pass” ไปหมาด ๆ ล่าสุด “ลาลีกา” จัดเต็มซีซั่น 2023/24 ให้แฟนบอลไทยลุ้นสนุกมากกว่าเดิม ผ่านแอพพลิเคชั่น LALIGA+ แพลตฟอร์ม OTT ที่ปรับปรุงใหม่ สำหรับแฟนกีฬาทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ที่จะทำให้แฟนลูกหนังได้ใกล้ชิดลีกกระทิงดุ และคอนเทนท์อื่น ๆ ที่เตรียมไว้ได้มากยิ่งขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น ฤดูกาลนี้ยังมาพร้อมกับการเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ที่เป็นตัวอักษรย่อ LL ในสีแดงคอรัล (Coral Red) เริ่มใช้ในฤดูกาลนี้ แทนที่โลโก้เดิมที่ถูกใช้มายาวนานกว่า 30 ปี 

สำหรับในประเทศไทย ฤดูกาลนี้ เริ่มต้นที่การเปิดตัวโลโก้ใหม่ พร้อมสโลแกนใหม่ (รายละเอียดท้ายบทความ) ด้วยการร่วมบูรณะสนามฟุตซอล ภายใต้โปรเจคต์ Second Chance สำเร็จเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2556 ที่ผ่านมา ณ โรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส (แสนสวัสดิ์วิทยาคาร) เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยได้ศิลปินกราฟฟิติ-สตรีทอาร์ท ที่ได้รับการยอมรับสูงที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย “มวย” ปิยศักดิ์ เขียวสะอาด มารังสรรค์ผลงาน พร้อมต้อนรับโลโก้ใหม่ และประเดิมการใช้สนามด้วยฟุตบอลกระชับมิตรแมตช์พิเศษระหว่างครู นักเรียน และตัวแทนหน่วยงานราชการท้องถิ่น กับสื่อมวลชน หาเงินสมทบทุนปรับปรุงโรงอาหารโรงเรียนอีกด้วย

สนามฟุตซอลแห่งนี้ ได้รับการเพนท์ ด้วยลวดลายที่สวยงาม มีทั้งภาพช้าง สัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทย ลูกฟุตบอลที่พุ่งตรงเข้าไปในตาข่าย ภาพเจดีย์เอียง ที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะเกร็ด รวมไปถึงภาพลิง ที่เป็นเสมือนลายเส้นสำคัญของศิลปินอย่างคุณมวย ภายใต้สีหลัก แดง และฟ้า สอดคล้องไปกับสีของโลโก้ใหม่ลาลีกา แทรกด้วยสีอื่น ๆ ตามสไตล์ของศิลปิน และความสอดคล้องของพื้นผิวสนามประหนึ่งสายน้ำทอดต่อเนื่องไปถึงกำแพงซึ่งสามารถกลายเป็นจุดเช็คอิน และสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยี่ยมเยือนเกาะเกร็ด นอกเหนือจากการมาชมแหล่งที่ปั้นดินเผา เจดีย์เอียง แวะทานอาหารท้องถิ่น อย่าง ทอดมันหน่อกะลา  

และถัดมา เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 ณ ร้านอาหารสเปน El Tapeo Bangkok “ลาลีกา ประเทศไทย” ได้จัดกิจกรรมเปิดฤดูกาลใหม่ ลาลีกา 2023/24 พร้อมเชิญ 3 กูรูฟุตบอลสเปน เจมส์ ลาลีกา, ขวัญ ลามาเซีย และ เบน บาร์ซ่าเข้าเส้น มาร่วมทอล์คก่อนเริ่มเปิดศึกดวลแข้งนัดแรก พร้อมด้วยอินฟลูเอนเซอร์ และสื่อกีฬามากมาย นำโดย พีชชงพีชชี่, เดอะนัท ซัดหมดแม็กซ์, ดูบอลกับแนท, Top4Thailand, ต่อ ณ ระนอง, ผู้บริหาร Ari, มายด์ เปี๊ยกบางใหญ่, ต้นทางฟุตบอล, โฟนตุง, ทีมขอบสนามชุดใหญ่ นำโดย เกมส์เอง, เปี๊ยก บางใหญ่, ตัวแทนจาก SiamSport, เพจ Real Madrid Thailand Fanclub, เพจ Real Betis Thailand แฟนคลับ เพจ เรอัล เบติส, เพจ El Golazo : รู้ลึกบอลสเปน และสื่อหลัก อาทิ The Nations และมติชน

พร้อมด้วยตัวแทนจาก TikTok ประเทศไทย และอินฟลูเอนเซอร์สาย TikTok รุ่นใหม่มาแรง อย่าง Bluemoon, ตัวเทพฟุตบอล, Opalallin, caraunited, ผู้หญิงดูบอล, บ้าบอคอร์บอล, bonusachiraya และ footballmax.official รวมกว่า 50 คน ร่วมพบปะ พูดคุย ทานอาหารสเปนแบบเรียบง่าย และกันเอง ภายใต้อีเวนท์ “LALIGA SEASON KICK-OFF 2023/24” ธีมทานอาหารในสวนหลังบ้านเพื่อน

บรรยากาศในงานอบอุ่น เรียบง่าย สนุก เพราะมีโอกาสไม่มากนักที่เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ และสื่อ หลากหลายรุ่นจะได้โคจรมาพบปะ พูดคุย สังสรรค์กัน ในงานยังถือโอกาสถ่ายทำรายการLaLiga Plus Talk EP. 2 ไปด้วย ซึ่งเป็นรายการวิเคราะห์เจาะลึกลาลีกาในทุกสัปดาห์ โดยกูรูฟุตบอลสเปนชาวไทย รับชมได้ทางแอพพลิเคชั่น LALIGA+

เพิ่มเติมด้วยสายตรงจาก ผู้บริหาร LALIGA+ มร.อเลฮานโดร กวาดาลาฮารา สตรีมมิ่งมาร่วมพูดคุยถึงความโดดเด่น แตกต่าง และคอนเทนท์พิเศษที่จะรับชมได้จากแอพพลิเคชัน รวมถึงได้ดาวรุ่ง ฆาบี เกร์รา จากสโมสรบาเลนเซีย ต่อสายมาทักทายถึงในงานด้วยเช่นกัน

โดย มร.จอร์โจ ปอมปิลิ รอสซี ตัวแทน ลาลีกา ประเทศไทย กล่าวว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับ ลาลีกา EA SPORTS ที่เตรียมจะเปิดฉากฤดูกาลใหม่ที่เต็มไปด้วยความใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ลาลีกา เพราะเราจะมีโลโก้ใหม่, สโลแกนใหม่ และพาร์ตเนอร์ใหม่ EA Sports ที่จะเข้ามาขยับโลกฟุตบอลจริง กับดิจิตอล เข้ามาหากันเพื่อจะสร้างสรรค์ให้เกิดลีกที่จะเข้าถึงกลุ่มแฟน ๆ ได้มากกว่าเดิม”

ลาลีกา ในฤดูกาลนี้ ได้รับการคาดหมายว่า จะเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นที่สุดไม่แพ้ฤดูกาลที่ผ่าน ๆ มา นำโดย บาร์เซโลน่า ที่ตั้งเป้าจะป้องกันแชมป์ให้ได้อีกครั้ง และผู้ท้าชิงตลอดกาลอย่าง เรอัล มาดริด ของ อันเชลอตติ ที่มีความทะเยอทะยาน หวังทวงความยิ่งใหญ่กลับคืน รวมถึงแอตเลติโก มาดริด โซเซียดัด และ เบติส ที่พร้อมสอดแทรกลุ้นตำแหน่งเช่นเดียวกัน

ส่วนทีมระดับรองลงมา พวกเขาก็พร้อมที่จะยกระดับทีมให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อสู้กันให้สนุกที่สุด รวมถึง 3 ทีมน้องใหม่ ได้แก่ อลาเบส, กรานาดา และลาส พัลมาส ที่อาจสร้างเซอร์ไพรส์ชนิดที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้

และก่อนเริ่มต้นฤดูกาลนี้ ลาลีกายังได้มีผู้เล่นดาวดังเข้ามาใหม่หลายราย อาทิเช่น จู๊ด เบลลิ่งแฮม ของ เรอัล มาดริด, อิลคาย กุนโดกัน ของ บาร์เซโลน่า และ ชากลาร์ โซยุนซู ของ แอตฯ มาดริด เป็นต้น

ใครที่ไม่อยากพลาดการแข่งฟุตบอลลีกสเปน ซีซั่น 2023/24 ที่กำลังจะเริ่มขึ้น อย่าลืมดาวน์โหลด และสมัครแอพพลิเคชั่น LALIGA+ กันไว้ได้เลย แอพฯ นี้ จะถ่ายทอดสดครบทั้ง 380 แมตช์ สำหรับ LALIGA EA SPORTS นำทัพโดย บาร์เซโลนา (แชมป์เก่า), เรอัล มาดริด, แอตเลติโก มาดริด และลีกรองอย่าง LALIGA Hypermotion ที่มีทีมระดับตำนานทั้งเอสปันญอล, เรอัล บายาโดลิด, เลบันเต เป็นต้น พร้อมรวบรวมไฮไลท์การแข่งขัน, รายงานพิเศษ, บทสัมภาษณ์เอ๊กซ์คลูซีฟ, เนื้อหาพิเศษอื่น ๆ อาทิ สารคดีฟุตบอล เป็นต้น

สำหรับแพ็คเกจหลัก LALIGA EA แฟนบอลจะได้ชม ทุกแมตช์ LALIGA EA, ไฮไลท์ยาวทุกแมตช์, คอนเทนท์พิเศษ และสารคดีเกี่ยวกับ ลาลีกา เป็นต้นในราคาพิเศษลด 50% เพียง 399.50 บาทตลอดฤดูกาลจากราคาเต็ม 799 บาท 

สนใจสมัคร LALIGA+ คลิกที่นี่ได้เลย https://bit.ly/3OBEpNP

สำหรับงานเปิดนี้ และทุกกิจกรรมของ ลาลีกา ในประเทศไทย ทาง KMD ในส่วน Sport Services ต้องขอขอบคุณ ลาลีกา ที่ไว้ใจให้เป็นตัวกลางจัดงาน และได้มีโอกาสเชื่อมโยงเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ในวงการสื่อกีฬา, ฟุตบอล และไลฟ์สไตล์ เข้ามารวมกันซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทุก ๆ คน ทุก ๆ องค์กร ไว้ ณ ที่นี้

เรียบเรียง : ภาวินีย์ สูญสิ้นภัย

—————————

เกี่ยวกับลาลีกา

ลาลีกา เป็นองค์กรระดับโลกแห่งนวัตกรรม ซึ่งเป็นผู้นำในด้านกีฬาและสันทนาการ ประกอบด้วยสโมสรในลีกระดับดิวิชั่น 1 (LALIGA EA SPORTS) 20 สโมสร และสโมสรในลีกระดับดิวิชั่น 2 (LALIGA HYPERMOTION) 22 สโมสร มีหน้าที่จัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพในประเทศสเปน

ลาลีกา เป็นลีกฟุตบอลที่มีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียมากที่สุดในโลก โดยมีผู้ติดตามมากกว่า 200 ล้านคนทั่วโลก จาก 16 แพลตฟอร์ม ใน 20 ภาษาที่แตกต่างกัน มีสำนักงานใหญ่ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน และสำนักงานย่อย 11 แห่ง ปัจจุบันมีเครือข่ายใน 41 ประเทศ และตัวแทน 44 คน

ลาลีกา ยังเป็นองค์กรที่ดำเนินงานภายใต้ความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นพื้นฐาน โดยเป็นลีกฟุตบอลอาชีพแห่งแรกของโลก ที่จัดตั้งลีกฟุตบอลสำหรับผู้พิการทางด้านสติปัญญา (LaLiga Genuine)

—————————

เกี่ยวกับโลโก้ใหม่ ลาลีกา

โลโก้ใหม่ของลาลีกา จะเป็นตัวอักษรย่อ LL โดยมีสีแดงคอรัล ที่เป็นสัญลักษณ์ของความหลงใหล พลังงาน และความตื่นเต้นของฟุตบอล ที่ทันสมัยแต่ลึกลับ ซึ่งมาภายใต้สโลแกนใหม่ “THE POWER OF OUR FÚTBOL” เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงการแข่งขันฟุตบอลที่จะส่งแรงบันดาลใจที่ดีไปให้กับสังคม

Categories
Our Work

ลาลีกา ร่วมบูรณะสนามฟุตซอล โรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส เกาะเกร็ด เตะบอลกระชับมิตร พร้อมเปิดตัวโลโก้ใหม่ และหาเงินสมทบทุนปรับปรุงโรงอาหารโรงเรียน

“เกาะเกร็ด” หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดนนทบุรี เป็นชุมชนคนมอญที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเครื่องปั้นดินเผา และยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งวัฒนธรรมแบบพื้นบ้านดั้งเดิม

การท่องเที่ยวในเกาะเกร็ด จะครึกครื้นช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์ รวมถึงวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพราะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย ร้านค้า ร้านอาหาร ขนมไทยต่าง ๆ ของคนในพื้นที่ มีร้านกาแฟให้นักท่องเที่ยวได้แวะพักผ่อน รวมไปถึงก็การนั่งเรือชมรอบเกาะ ก็ยังมีอีกเช่นกัน

แต่อีกหนึ่งเรื่องน่าสนใจคือ บนเกาะเกร็ด จะมีสนามฟุตซอลที่ค่อนข้างมาตรฐานที่สุด เพียงสนามเดียว ซึ่งอยู่ในโรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส เดิมทีเกาะเกร็ด และสนามแห่งนี้ เมื่อถึงเวลาหน้าฝน หรือช่วงที่มีน้ำท่วมนาน ๆ สนามก็จะทรุดโทรมไปตามสภาพ และจากเหตุอุทกภัยจากน้ำท่วมเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ทำให้สภาพสนามแห่งนี้ ได้รับความเสียหายอย่างมาก นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทางเราทีม ไข่มุกดำ และ ลาลีกา เร่งเห็น จึงติดต่อทางผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อบูรณะสนาม ภายใต้โปรเจคต์ Second Chance นี้

โดยเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2556 ที่ผ่านมา “ลาลีกา ประเทศไทย” นำโดย มร.จอร์โจ ปอมปิลิ รอสซี ตัวแทน ลาลีกา ได้จัดกิจกรรมส่งมอบงานบูรณะสนามฟุตซอล โรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส (แสนสวัสดิ์วิทยาคาร) เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยได้ศิลปินกราฟฟิติ-สตรีทอาร์ท ที่ได้รับการยอมรับสูงที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย “มวย” ปิยศักดิ์ เขียวสะอาด มารังสรรค์ผลงาน พร้อมต้อนรับโลโก้ใหม่ ลาลีกา และประเดิมการใช้สนามด้วยแมตช์พิเศษ หาเงินสมทบทุนปรับปรุงโรงอาหารโรงเรียน 

โดย มร.จอร์โจ ปอมปิลิ รอสซี กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำโปรเจคต์ลักษณะนี้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประเทศไทย มันแสดงให้เห็นว่า ลาลีกา ไม่ได้นำแค่ฟุตบอลสเปนเข้ามาใกล้แฟนฟุตบอลไทย แต่เป็นประโยชน์ที่ทำให้แก่ชุมชนด้วยเช่นกัน ภายใต้รูปลักษณ์โลโก้ใหม่ ลาลีกาต้องการจะสร้างแรงบันดาลใจไปทั่วโลกผ่านคุณค่าของเกมฟุตบอล และหวังจะขยายโปรเจคต์ไปยังประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนด้วยเช่นกัน”

ขณะที่ นาย จิราปรัชญ์ ณ ป้อมเพชร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส (แสนสวัสดิ์วิทยาคาร) กล่าวว่า “ผมขอเป็นตัวแทนขอบคุณลาลีกาสำหรับการบูรณะสนามกีฬาของโรงเรียนในครั้งนี้ที่ไม่เพียงแต่เกิดประโยชน์ต่อเด็กนักเรียนเท่านั้น แต่ยังเกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อชุมชนให้ได้ใช้เป็นสถานที่ออกกำลัง สันทนาการ จัดงานพิธี และด้วยการออกแบบที่อิงกับชุมชน พื้นที่นี้ยังสามารถเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้คนจดจำเกาะเกร็ด และอยากแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนได้อีกด้วย”

สนามฟุตซอลแห่งนี้ ได้รับการเพนท์ ด้วยลวดลายที่สวยงาม มีทั้งภาพช้าง สัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทย ลูกฟุตบอลที่พุ่งตรงเข้าไปในตาข่าย ภาพเจดีย์เอียง ที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะเกร็ด รวมไปถึงภาพลิง ที่เป็นเสมือนลายเส้นสำคัญของศิลปินอย่างคุณมวย ภายใต้สีหลัก แดง และฟ้า สอดคล้องไปกับสีของโลโก้ใหม่ลาลีกา แทรกด้วยสีอื่น ๆ ตามสไตล์ของศิลปิน และความสอดคล้องของพื้นผิวสนาม ต่อเนื่องไปถึงกำแพงซึ่งสามารถกลายเป็นจุดเช็คอิน และสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่จะมาเยี่ยมเยือนเกาะ นอกเหนือจากการมาชมแหล่งที่ปั้นดินเผา เจดีย์เอียง แวะทานอาหารท้องถิ่น อย่าง ทอดมันหน่อกะลา  

บนสนามยังได้เห็นตัวหนังสือ #OneHumanity ซึ่งเป็นแคมเปญของลาลีกา และ UNAOCโปรโมตไปทั่วโลกเพื่อสนับสนุนความสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียว ความเคารพ ในโลกของกีฬา และมีสโลแกน THE POWER OF OUR FÚTBOL” อยู่บนสนาม 

สำหรับโลโก้ใหม่นี้ ตัวอักษรย่อ LL ในสีแดงคอรัล จะเริ่มใช้ในฤดูกาล 2023/24 นี้แทนที่โลโก้เดิมที่ถูกใช้มายาวนานกว่า 30 ปี โดยแฟนฟุตบอลชาวไทยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดครบทุกแมตช์ ผ่านทางแอพลิเคชั่น ‘LALIGA+’ และมีการบรรยายเป็นภาษาไทยด้วยในบางแมตช์ โดยสามารถสมัครสมาชิกแบบรายเดือน หรือทั้งฤดูกาล บนโทรศัพท์มือถือทั้งระบบ iOS และ Android” 

สำหรับคอนเทนท์ที่จะมีอยู่ใน LaLiga Plus มีทั้งรายการสั้น, สารคดี และแมตช์ลาลีกาสุดคลาสสิก ที่สามารถรับชมได้ฟรี นอกจากนี้ ยังมีคอนเทนท์ที่จัดทำขึ้นเฉพาะในประเทศไทย กับรายการใหม่ “LaLiga Pass Show” วิเคราะห์เจาะลึกลาลีกาในทุกสัปดาห์ โดยกูรูฟุตบอลสเปนชาวไทย นำโดย ขวัญ ลามาเซีย, เจมส์ ลาลีกา เบน บาร์ซ่าเข้าเส้น และท่านอื่น ๆ อีกมากมาย

ซึ่งก่อนเกมกระชับมิตรวันเสาร์ที่ 22 ก.ค.จะมีการพาสื่อมวลชนเดินเที่ยวชมเกาะเกร็ด นำโดย ขวัญ ลามาเซีย, เบน บาร์ซ่าเข้าเส้น, อาย Poprock On Field, เบน ฟรีคิ๊ก (เบน Soccer Suck), ต่อ ณ ระนอง และท่านอื่น ๆ อีกมากมาย โดยมีมัคคุเทศก์น้อย ที่เป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส พาเดินเที่ยว ไปไหว้พระที่วัดปรมัยยิกาวาส ชมเจดีย์เอียง แล้วเดินตลาด ทานอาหารขึ้นชื่อของเกาะเกร็ด อย่าง ทอดมันหน่อกะลา รวมทั้งขนม หรือ อาหาร อื่น ๆ อีกด้วย

และเดิมทีตามแพลน น้อง ๆ มัคคุเทศก์ตั้งใจจะพาสื่อมวลชนไปชมและลองปั้นเครื่องปั้นดินเผา ที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ประจำเกาะเกร็ดด้วย แต่ด้วยสถานการณ์ฝนฟ้าที่เราไม่อาจควบคุมได้ไม่เป็นใจนัก บวกกับเวลาที่มีจำกัด จึงเป็นที่น่าเสียดายที่ไม่ได้แวะเข้าไปทำกิจกรรมส่วนนี้กัน

ส่วนช่วงเย็นจะเป็นการเตะบอลกระชับมิตรการกุศล ระหว่างทีมสื่อมวลชน กับ ทีมของคุณครู นักเรียน และตัวแทนหน่วยงานของท้องถิ่น ร่วมกับชาวบ้าน ภายใต้บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ จากความสุขของการได้ทำกิจกรรม และได้การร่วมกันสมทบกองทุนทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา และปรับปรุงโรงอาหารให้กับนักเรียน เนื่องจากที่ผ่านมา ไม่ได้มีโรงอาหารเป็นสัดเป็นส่วนให้นักเรียน และเมื่อถึงเวลาหน้าฝน หรือช่วงที่มีน้ำท่วม นักเรียนจะไม่มีพื้นที่สำหรับนั่งทานอาหารกัน ทางโรงเรียนจึงเห็นสมควร และอยากสร้างโรงอาหารให้แก่นักเรียน

✍️ ภาวินีย์ สูญสิ้นภัย (แนน)

Categories
Our Work

เปิดศึกดวลแข้งแฟนบอล “BDMS presents THAI LEAGUE FANS’ CUP 2023” ชิงเงินรางวัลกว่า 2 แสนบาท

ครั้งแรก! กับการเปิดโอกาสให้แฟนบอลไทยลีกได้เข้าร่วมฟาดแข้งกันในฐานะของตัวแทนสโมสรที่ตัวเองรัก ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท นอกจากนี้ ยังได้ร่วมอบรมทักษะพื้นฐานฟุตบอลโดยโค้ชมืออาชีพ และมีรางวัลพิเศษมากมายสำหรับกองเชียร์และแฟน ๆ ที่มาร่วมสนุก งานเดียวคุ้ม! ลุ้นมัน สะใจ เชียร์สนุกได้ยกแก๊ง 

การแข่งขันฟุตบอล 7 คน รายการ “BDMS presents THAI LEAGUE FANS’ CUP 2023” เป็นการแข่งขันแบบพบกันหมด โดยจะมีการกำหนดอายุผู้เล่นตัวจริงแต่ละทีมที่จะลงแข่งขันเพื่อความเท่าเทียม แบ่งเป็น อายุไม่เกิน 30 ปี ไม่เกิน 2 คน, อายุ 30 – 40 ปี อย่างน้อย 3 คน และ อายุ 41 ปี ขึ้นไป อย่างน้อย 2 คน การแข่งขันจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ต่อเนื่องกัน 4 สัปดาห์ ตลอดเดือนมิถุนายนนี้ ณ สนามฟุตบอลในร่ม Super Star Arena ซอยลาดพร้าว 80 เริ่มคิกออฟแมตช์แรก 4 มิถุนายน 2566 

การแข่งขัน BDMS Presents Thai League Fans’ Cup 2023 รอบแรก มีเหล่าแฟนคลับไทยลีกรวม 16 ทีม เข้าร่วมดวลแข้ง โดยแบ่งสายเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่ม A : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด / การท่าเรือ เอฟซี (ทีมเอ) / บีจี ปทุม ยูไนเต็ด / ขอนแก่น ยูไนเต็ด

กลุ่ม B : แบงค็อก ยูไนเต็ด (ทีมบี) / ชลบุรี เอฟซี / ลำพูน วอริเอร์ / นครปฐม ยูไนเต็ด

กลุ่ม C : การท่าเรือ เอฟซี (ทีมบี) / โปลิส เทโร / แบงค็อก ยูไนเต็ด (ทีมเอ) / ตราด เอฟซี

กลุ่ม D : เมืองทอง ยูไนเต็ด / ราชบุรี เอฟซี / เชียงราย ยูไนเต็ด / สุโขทัย เอฟซี

นอกจากนั้น ในการเปิดสนามวันแรกยังมีแมตซ์กระชับมิตร ระหว่าง ทีม PPTV นำโดย คุณพลากร สมสุวรรณ กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการผลิตและรายการ ร่วมด้วย ป๊อป วีระพล, ซีน อาณัติ ฯลฯ พร้อมนักเตะรับเชิญพิเศษ โค้ชจุ่น อนุรักษ์ ปะทะแข้งกับ ทีมสื่อมวลชนสายกีฬา นำโดย คุณโอฬาร เชื้อบาง ผู้บริหารหนังสือพิมพ์สยามกีฬา ที่มาพร้อมเหล่า Influencer กีฬาฟุตบอล ได้แก่ จอม บอบู๋, เม้ง ซัมเมอร์ฮิลล์, กุ่ย ตังกุย, ฟ่าง พาสต้า, ท็อป ไข่มุกดำ, จอน เพจจอน, เบน ฟรีคิก ซ็อคเกอร์ซัค, โฟน โฟนตุง, เบน ฟรีคิก, ต่อ ณ ระนอง, อ๊อฟ สปิโนซ่า โดยจบสกอร์มิตรภาพ เสมอ 2-2

รางวัลพิเศษที่คึกคักไม่แพ้นักเตะในสนามก็คือ “กองเชียร์ยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์” ซึ่งทีมเชียร์ของ เชียงราย ยูไนเต็ด คว้ารางวัลนี้ไปครองได้แบบที่ไม่มีใครคัดค้าน เพราะมาทั้งกลอง แบนเนอร์ เรียกว่าจัดเต็มจริง ๆ

การแข่งขันสัปดาห์ที่สอง เป็นรอบ 12 ทีม แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม แต่ละทีมลงแข่งทั้งหมด 3 นัด ทีมที่เก็บคะแนนได้มากที่สุด 4 อันดับแรกในแต่ละกลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

โดยคู่ที่น่าสนใจเป็นการเจอกันระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบ ชลบุรี เอฟซี ผลการแข่งขันฝั่งแฟนคลับ “ฉลามชล” จบที่สกอร์คมกว่า ชนะไป 3-1 ทำให้ ชลบุรี เอฟซี มี 6 แต้ม จากการลงเล่น 3 นัด ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมต่อไป ส่วน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แม้จะแพ้ แต่หลังแข่งครบ 3 นัด มี 3 แต้มเพียงพอที่จะผ่านเข้ารอบตามไปด้วยเช่นกัน ขณะที่อีก 6 ทีมที่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ประกอบด้วยทีมแฟนคลับ การท่าเรือ เอฟซี A นครปฐม ยูไนเต็ด ตราด เอฟซี การท่าเรือ เอฟซี B สุโขทัย เอฟซี และ เมืองทอง ยูไนเต็ด

ส่วนรางวัลกองเชียร์ยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ที่สอง คือเชียงราย ยูไนเต็ด อีกเช่นเคย ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท ด้านรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมตกเป็นของ นายกิตติชัย ลี้สุวัฒนา จาก ตราด เอฟซี ซึ่งมีผลงานยิงไปทั้งหมด 5 ประตู ได้รับเงินรางวัล คอมแพค เบรก ไปครอง

สำหรับการแข่งขันในรอบ 8 ทีม จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน ซึ่งตั้งแต่รอบนี้ จะมีถ่ายทอดสดทาง Facebook และ YouTube LIVE ช่อง PPTV HD 36

และสัปดาห์สุดท้าย ปิดฉากสุดมันส์! รอบ 4 ทีมสุดท้าย นำโดย นครปฐม ยูไนเต็ด, สุโขทัย เอฟซี ตราด เอฟซีและ การท่าเรือ เอฟซีทีมเอ ร่วมฟาดแข้งลุ้นแชมป์ชิงเงินรางวัลรวมกว่า1 แสนบาท

โดยก่อนเปิดแมตซ์ชิงแชมป์ ได้มีการจัดฟุตบอลนัดพิเศษ BDMS All Star Friendly Match ระหว่าง ทีมสีแดง นำโดย เก้า – จิรายุ ละอองมณี, เดอะตุ๊ก – ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, โค้ชเตี้ย – สะสม พบประเสริฐ เจอกับ ทีมสีน้ำเงิน นำทีมโดย เป๊ก – เปรมณัช สุวรรณานนท์, ลีซอ – ธีรเทพ วิโนทัย, โค้ชจุ่น – อนุรักษ์ ศรีเกิด ร่วมด้วยเหล่า Influencer กีฬาฟุตบอลชื่อดังคับคั่ง อาทิ เจมส์ ลาลีกา, โจ้ เต็มข้อ, ปาล์ม 3 บาท 5 บาท, ท็อป ไข่มุกดา, ต่อ ณ ระนอง ฯลฯ แม้จะเป็นเพียงแมตช์กระชับมิตร แต่ละคนมีฝีเท้าจัดจ้านแบบไม่มีใครยอมใคร เปิดศึกดวลฝีเท้าแบบสนุก สูสี แถมได้รับเสียงเชียร์ทั้งสนาม โดยเสมอกันไป 4-4 ในเวลาปกติ ก่อนที่ทีมสีแดงจะเอาชนะไปได้จากการดวลจุดโทษตัดสิน ด้วยผลสกอร์รวม 9-8 ประตู 

ส่วนเกมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเป็นการเจอกันของทีมแฟนคลับ ทีมการท่าเรือ เอฟซี ทีมเอ พบ นครปฐม ยูไนเต็ด โดยในการพบกันในรอบเก็บแต้ม การท่าเรือ เอฟซีทีมเอ ถล่ม นครปฐม ยูไนเต็ด ขาดลอย 7-0 แต่ว่าในรอบชิงฯ แฟนคลับเสือป่าราชา ก็ล้างตาได้สำเร็จ เอาชนะแฟนคลับสิงห์เจ้าท่า ไปได้ 2-0 ทำให้ทีมนครปฐม ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ BDMS Presents THAI LEAGUE FANS CUP 2023 ครั้งนี้ไปครอง รับเงินรางวัล 1 แสนบาท

ส่วน การท่าเรือ เอฟซีทีมเอ รองแชมป์ รับเงินรางวัล 40,000 บาท และอันดับ 3 ได้แก่ ตราด เอฟซี รับเงินรางวัล 20,000 บาท นอกจากนี้ยังมีรางวัลให้กับนักเตะยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ ได้แก่ นายทรงโปรด เวสกิจ จาก นครปฐม ยูไนเต็ด ส่วนแชมป์การแข่งขันรายการพิเศษ ยิงฟรีคิกประเภทบุคคล ได้แก่ นายอำนาจ รอบแคว้น ของ นครปฐม ยูไนเต็ด และประเภททีม ได้แก่ทีมสุโขทัย เอฟซีปิดท้ายด้วยรางวัลกองเชียร์ยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์สุดท้าย โดยกองเชียร์การท่าเรือ เอฟซี และ นครปฐม ยูไนเต็ด รับรางวัลร่วมกัน 5,000 บาท

Categories
Our Work

Recap “เตะล่าฝัน” ภารกิจเฟ้นหา 17 แข้งเยาวชนไทย บินลัดฟ้าฝึกบอลที่เยอรมัน โดยความร่วมมือกันของ บุนเดสลีกา, กกท. และ PPTV

โครงการ “BDMS Presents Bundesliga Dream เตะ ล่า ฝัน” เกิดจากความร่วมมือระหว่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย, บุนเดสลีกา, และ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด (PPTV) ร่วมด้วยผู้สนับสนุนอย่าง บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS, แบรนด์กีฬา IMANE, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไวไว, ขนมปังกรอบ ตราโฮมมี่ และผลิตภัณฑ์ Compact Brakes

โดยจะนำแข้งเยาวชน U16 ที่ผ่านการคัดเลือกทั้ง 17 คน บินลัดฟ้าไล่ล่าความฝันสู่เส้นทางการเป็นนักเตะอาชีพ กับโปรแกรมฝึกซ้อมสุดเข้นข้น พร้อมดวลแข้งกับอคาเดมีระดับแถวหน้าของเยอรมัน อันได้แก่ ไอน์ทรัคต์ แฟรงค์เฟิร์ต, โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ และเอฟซี บาเยิร์น มิวนิคเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ในเดือนพฤษภาคมนี้ ณ ประเทศเยอรมนี หลังจากนั้นจะมีการคัดให้เหลือเพียง 2 นักเตะไทยที่ดีที่สุด เพื่อแยกกันเดินทางไปเก็บประสบการณ์ต่อแบบนักเตะอาชีพ กับทั้งแฟรงค์เฟิร์ต และ ดอร์ตมุนด์ต่ออีก 1 สัปดาห์  ซึ่งตอนนี้ทั้ง 17 คน ได้เดินทางสู่เยอรมันและกำลังร่วมฝึกซ้อมแล้ว

โครงการนี้ นอกจากจะสานฝันและพัฒนานักเตะเยาวชนไทยให้ได้บินลัดฟ้าไปฝึกฟุตบอลที่ประเทศเยอรมันแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสให้ทีมสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทยได้เห็นแววของช้างเผือกจากทั่วประเทศที่จะคัดเข้าสู่รั้วทีมชาติอีกด้วย และแน่นอนว่า ปรากฏการณ์ของฟุตบอลไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีกระแสและเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย นับว่าเป็นส่วนสำคัญของวงการฟุตบอลไทย ในการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และทำให้จากเกมกีฬากลายเป็นเกมธุรกิจที่หลายคนต่างจับตามอง 

ซึ่งสอดคล้องไปกับการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย และหลักพื้นฐานของการตลาด เมื่อฟุตบอลมีความนิยมเพิ่มมากขึ้น องค์กรที่เกี่ยวข้อง สปอนเซอร์ และหลากหลายธุรกิจก็เดินหน้าเข้าหาฟุตบอลกัน เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด และมันอาจไม่ใช่แค่การทำ Sport Marketing ที่หลายคนมองแต่นี่คือ Community ขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้น

ในบทความนี้จะขออนุญาต Recap ถึงโครงการนี้ให้ได้อ่านกันสักเล็กน้อย โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วงหลัก ๆ คือ 

1) วันที่ 8 มีนาคม 2566 : งานแถลงข่าวเปิดโครงการ หรือ พิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU)จัดขึ้น ณ ชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ การกีฬาแห่งประเทศไทย 

2) วันที่ 25-26 มีนาคม 2566 : วันคัดเลือก 17 แข้งเยาวชน ด้วยการปิดพื้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ปฏิบัติภารกิจเฟ้นหาแข้งอนาคตไทย บรรยากาศภายในงานตั้งแต่เช้ามีบรรดานักเตะเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี จำนวน 120 คน พกความมุ่งมั่นมาพร้อมผู้ปกครองที่ตามมาให้กำลังใจติดขอบสนาม ซึ่งต้องเกริ่นก่อนว่า แข้งเยาวชนทั้ง120 คนนี้ ผ่านการคัดเลือกด้วย Data Base ของ Talent ID มาจากทั่วประเทศ

สำหรับการคัดเลือกนักเตะจัดขึ้นแบบเข้มข้นทั้ง 2 วัน โดยแบ่งนักกีฬาเป็น 6 ทีม ทีมละ 20 คน และได้ลงทีมแข่งขันคนละ 5 แมตช์ โดยมีคณะโค้ชทีมชาติไทยจาก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และทีมสตาฟฟ์โค้ชจากเยอรมัน เป็นผู้ให้คะแนนนักเตะที่มีผลงานเข้าตา และทำคะแนนได้ดีที่สุด

โปรแกรมวันแรก ช่วงเช้าจะเป็น Physical Training การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ก่อนที่ช่วงบ่ายจะเป็นการลงทีม ซึ่งนักกีฬา จะได้เล่นคนละ 3 แมตช์ ส่วนโปรแกรมวันที่สอง นักกีฬา 120 คน จะถูกคละทีมไม่ซ้ำกับวันแรก แล้วลงทีมแข่งขัน และประกาศผลช่วงบ่าย โดยรายชื่อ 17 คนที่จะได้บินลัดฟ้าไปเยอรมนี จะประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 เมษายน ต่อไป

สำหรับเกณฑ์การคัดเลือก ออกแบบโดย การ์เลส โรมาโกซา ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคชาวสเปน ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยมีโค้ชจากบุนเดสลีกา กำกับดูแลอีกขั้น เพื่อให้มั่นใจว่าการคัดเลือกครั้งนี้ เป็นไปตามมาตรฐานสากล ที่ยึดหลักเดียวกันทั่วโลก ดังนี้

หลักการคัดเลือกคือ T+MASC (ที+แมส)
T = Talent : ความสามารถพิเศษ ยกตัวอย่างนักเตะไทย “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กับสัญชาตญาณจบสกอร์ หรือ การเคลื่อนที่หนีตัวประกอบของ “เนย์มาร์”
M = Motricity : ผู้เล่นที่มีการทำงานประสานกันของร่างกาย สามารถแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องในสถานการณ์ต่างกัน เช่น สุภโชค สารชาติ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
A = Availability : ผู้เล่นที่มีทักษะสามารถสัมพันธ์กับลูกฟุตบอลได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่าง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ลิโอเนล เมสซี่
S = Smart : ผู้เล่นที่มีรอบรู้แท็กติกและความฉลาดในเชิงจิตวิทยา นักเตะตัวอย่าง ธีราทร บุญมาทัน และ ลูก้า โมดริช
C = Commitment : ผู้เล่นที่มีศักยภาพด้านจิตวิทยาและทัศนคติที่ดี ทีมเวิร์คดี อุทิศตนเพื่อทีม เช่น สารัช อยู่เย็น และ กฤษดา กาแมน 

3) วันที่ 03 เมษายน 2566 : วันแถลงข่าวเปิดตัว 17 แข้งเยาวชนไทยอย่างเป็นทางการ ณ ลานอีเดน ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติจากสถานเอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย ตัวแทนจากสโมสรฟุตบอลในบุนเดสลีกา ผู้สนับสนุน และสื่อมวลชน รวมถึง “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล อดีตนักเตะไทยคนแรกที่เคยไปร่วมทีมสโมสรบุนเดสลีกา และ “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นักเตะไทย ที่เคยไปค้าแข้งในลีกสโมรยุโรป ร่วมเป็นสักขีพยานในการประกาศผล

รายชื่อ 17 เยาวชนไทยที่ได้รับเลือกเดินทางไปฝึกฟุตบอลที่ประเทศเยอรมัน ได้แก่

1) นายพิจักษณ์ ดอนวิไทย จากสโมสรเจแฟม ยูไนเต็ด 
2) นาย นภัทร สกุลจันทร์ จากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี 
3) นายพิชชากร จันทร์เจียม จากคลองโคน-โปลิศเทโร อคาเดมี 
4) นายมิราโก้ อินอร่าม จากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี
5) นายสิรภพ นิลแสง จากสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด 
6) นายชัยรัตน์ พุ่มรอด จากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี 
7) นายรังสรรค์ กากแก้ว จากคลองโคน-โปลิศเทโร อคาเดมี 
8) นายชนสรณ์ โชคลาภ จากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี 
9) นายนที ตามประดับ จากคลองโคน-โปลิศเทโร อคาเดมี 
10) นายธีรภัทร น้อยลา จากสโมสรอุดร ยูไนเต็ด 
11) นายจิรภาส ด้วงเผือก จากโรงเรียนดรุณาราชบุรี  12) นายกฤตกานต์ รุ่งโรจน์เบญจพล จากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี 
13) นายทาวิน อาจจินดา จากโรงเรียนดรุณาราชบุรี 
14) นายชนมภูมิ ชูพยัคฆ์ จากสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด 
15) นายณัฐวุฒิ แสงอุทัย จากสโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด 
16) นายสุรชัย ชาภักดี จากสโมสรเจแฟม ยูไนเต็ด 

17) นายธนทัต คมสัน จากสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด

โดยทั้ง 17 คนเดินทาง ไปฝึกซ้อมที่ประเทศเยอรมนี ภายใต้ชื่อทีม U17 Thailand Dream Team และแน่นอนว่า โครงการนี้ทาง PPTVHD36 ได้ตามไปเก็บภาพบรรยากาศการฝึกซ้อมสุดเข้มข้นคลิดทั้งโครงการอย่างใกล้ชิด พร้อมนำเสนอเรียลิตี้ซีรีย์ BUNDESLIGA DREAM “เตะ ล่า ฝัน” เส้นทางความฝันของแข้งเยาวชนไทย จากจุดเริ่มต้นที่ประเทศไทย ไปจนถึงการฝึกฝนฝีเท้าที่ประเทศเยอรมัน

โดยรายการจะออกอากาศให้ได้รับชมผ่านทางหน้าทางพีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 จำนวน 12 ตอน ทุกวันเสาร์ เวลา 12.45 – 13.15 น. ซึ่งเทปแรกได้ออนแอร์ไปแล้วเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา รับชมย้อนหลังที่นี่ได้เลยค่ะ http://pptv36.tv/1a29

Categories
Our Work

รวมกิจกรรม ความสนุกสนาน ประทับใจ และโมเมนท์แห่งความสุขจาก ครีเอทีพ อีเวนท์ในปี 2565 โดย KMD

ตลอดปี 2565 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะหากนับย้อนไปถึงช่วงต้นปี สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง และตระหนักอย่างหนักหน่วงอยู่ คือ เรื่องของโควิด-19 และมาตรการรับมืออันทำให้การจะสร้างสรรค์งานออกมาแต่ละชิ้น แต่ละกิจกรรมจะต้องสอดคล้องล้อไปกับสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยให้มากที่สุด แต่นั้นไม่ใช่ปัญหา ตรงกันข้าม กับเป็นช่องว่างที่ทำให้เรา “ไข่มุกดำ” หรือ KMD ได้มีโอกาสสร้างสรรค์งานออกมาในรูปแบบธีมต่าง ๆ ร่วมกับพาร์ตเนอร์จนเกิดอีเวนท์อันเป็นกิจกรรมการตลาดที่ตื่นเต้น มันส์ เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข สนุกสนาม ลงตัว win-win กันถ้วนหน้า

ปีนี้ 2566 ก็เช่นกัน “KMD” พร้อมเสิร์ฟความสนุกให้เพื่อน ๆ อย่างต่อเนื่องแน่นอน แต่ก่อนจะเริ่มต้นระเบิดความมันส์ผ่านกิจกรรมแรกของปี 2566 หรือปีกระต่ายนี้ไปด้วยกัน เราขอรวบรวมงานในปีที่ผ่านมา มาให้ร่วมทบทวนภาพจำกันอีกครั้ง ตามนี้เลยค่ะ

1.เริ่มต้นกันที่ อีเวนท์ของ ลาลีกา กับการจัดงานขอบคุณพันธมิตรทางการค้า, สื่อมวลชนกีฬาสายฟุตบอล, อินฟลูเอนเซอร์ และยูทูปเบอร์ฟุตบอลชั้นนำในคอนเซปต์ “LaLiga Great Rivalries” โดยมีตัวแทนจากหอการค้าสเปนในประเทศไทยเข้าร่วมงานด้วย โดยครีเอตเป็นอีเวนต์เล็ก ๆ แบบอบอุ่น รักษาระยะห่าง Social Distancing ป้องกัน Covid-19 ตามมาตรการรัฐ

อ่านเพิ่มเติม คลิก https://khaimukdam.com/our-work/laliga-great-rivalries/

LaLiga Great Rivalries

2.“LaLiga Global Network” เป็นชื่อของโครงการสำหรับงานถัดมาที่จัดขึ้น เนื่องในโอกาสครบรอบ 5 ปี ลาลีกาเข้ามาปักฐานการทำงานในประเทศไทย ถือเป็นโอกาสอันดี ที่ ลาลีกา ได้เชิญสื่อมาร่วมร่วมฉลองความสำเร็จ โดยได้รับเกียรติ Conference Call สายตรงจากกรุงมาดริด โดย คุณออสการ์ มาโย กรรมการบริหารลาลีกา ร่วมกับคุณ จอร์โจ้ ปอมปิลี รอสซี ตัวแทนลาลีกาในประเทศไทย จัดงานที่ Pit8 Motorsport Cafe กรุงเทพฯ

อ่านเพิ่มเติม คลิก https://khaimukdam.com/our-work/laliga-global-network/

LaLiga Global Network

3.ถัดจากงานที่สื่อมวลชน หรืออินฟลูเอนเซอร์ได้พบปะกันไปแล้ว ขอขยับอีเวนต์ให้ใหญ่ขึ้นอีกนิด ด้วยการเปิดโอกาสให้แฟนฟุตบอลได้เข้ามาร่วมสนุกไปด้วยกัน บวกกับช่วงต้นปีกระแสแคมปิ้งกำลังมาแรง พอ ๆ กับสถานการณ์รับมือกับ โควิด-19 ทำให้เกิดความคิดจะนำกิจกรรมชมฟุตบอลมาผสมผสานกับการออกแคมป์ กางเต็นท์ขึ้นเพื่อให้กิจกรรม outdoor จนเกิดเป็นงานอีเวนต์เชียร์บอลสุดคูล LaLiga Football Camping ที่ APO Camp Life จังหวัดนครนายก ในรูปแบบแคมป์ริมน้ำเป็นครั้งแรก

อ่านเพิ่มเติม คลิก https://khaimukdam.com/our-work/laligafootballcamping/

LaLiga Football Camping

4.เมื่องานแคมป์ปิ้งที่ผ่านมามันเวิร์ก และได้รับการตอบรับที่ดี จึงทำให้เกิดอีเวนต์ครีเอท ๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดประสบการณ์ใหม่กับงานสุดพิเศษ ล่องเรือ ปาร์ตี้ จัดเต็มพรีวิว เกมคู่บิ๊กแมตช์ ในชื่อ “ElClásico Boat Party Exclusive Trip” ที่ถูกเนรมิตขึ้นร่วมกับพันธมิตร เจ้าเดิม ลาลีกา สร้างสรรค์การทำกิจกรรมร่วมกับแฟนบอลขึ้นในยุคสถานการณ์โควิด -19 ในรูปแบบที่ไม่ใช่แค่การชมฟุตบอลในสนามเท่านั้น 

อ่านเพิ่มเติม คลิก https://khaimukdam.com/our-work/elclasico-boat-party-exclusive-trip-2/

ElClásico Boat Party Exclusive Trip

5.อีเวนท์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี จนดำเนินมาถึงอีเวนท์สำหรับโค้งสุดท้ายของลาลีกาในฤดูกาล 2021/22 ไม่พลาดจัดกิจกรรมต่อยอดการสร้างประสบการณ์ให้กับแฟนฟุตบอล โดยครั้งนี้มาในคอนเซ็ปต์ “LaLiga Pool Party” กิจกรรม outdoor ดูบอล ฟังเพลง ริมสระน้ำ Rooftop bar ใจกลางกรุงเทพมหานคร พร้อมเป็นสักขีพยานชม “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยิงสลุต ฉลองแชมป์ลาลีกา 2021/22

อ่านเพิ่มเติม คลิก https://khaimukdam.com/our-work/laliga-pool-party-2/

LaLiga Pool Party

6.หลังจากเต็มอิ่มกับงานดูบอลไปแล้ว ก็พักเบรกเล็กน้อยกับงานเล็ก ๆ เรียบง่าย และอบอุ่น กับงาน เปิดตัว LaLiga Pass แอพพลิเคชั่นสำหรับแฟนฟุตบอลสเปน ที่มีฟุตบอลสดให้ดูครบทุกนัดทั้ง LaLiga Santander และ LaLiga Smartbank  นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์การแข่งขัน, ประตูสุดสวย, บทสัมภาษณ์สุดพิเศษ และเนื้อหาอื่น ๆ ที่มานำเสนอทุกวัน 

แต่หนึ่งจุดขายของ แอพพลิเคชั่นนี้ในประเทศไทย คือ รายการ LaLiga Pass Show ที่มีกูรูฟุตบอลสเปน สลับกันมาร่วมดำเนินรายการ พูดคุยเกี่ยวกับฟุตบอลสเปนแบบอัดแน่น เจาะลึกเบื้องหน้าเบื้องหลังกันแบบแตกต่าง นำโดย เจมส์ ลาลีกา, ขวัญ ลามาเซีย, ลูกชิ้น จากเพจ เสพติดบอลสเปน, เบน บาร์ซ่า เข้าเส้น by แฟนพันธุ์แท้บาร์ซ่า ฯลฯ

อ่านเพิ่มเติม คลิก https://khaimukdam.com/our-work/laliga-pass/

ลาลีกา เปิดตัว LaLiga Pass ใช้กลยุทธ์ PR แบบเรียบง่าย อบอุ่น และกันเอง เชิญสื่อกีฬาดินเนอร์ พูดคุย และออนไลน์มีตติ้งกับผู้บริหารจากสปน

7.และก่อนจะเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ของ ลาลีกา สเปน “ไข่มุกดำ” มีโอกาสได้ดูแลจัดอีเวนท์ ซึ่งประเทศไทยถูกเลือกเป็น 1 ใน 8 ประเทศทั่วโลก จัดงาน เปิดตัวลูกฟุตบอล “PUMA ORBITA LaLiga” ต้อนรับซีซั่นใหม่ 2022/23 ที่ Ari Football สยามสแควร์ ซอย 6

อ่านเพิ่มเติม คลิก https://khaimukdam.com/our-work/puma-orbita-laliga/

PUMA ORBITA LaLiga

8.อีเวนท์ถัดมา เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อแฟนฟุตบอลโดยเฉพาะ ก่อนเปิดฤดูกาล 2022/2023 ของลาลีกา ด้วยการระเบิดศึกความมันส์ กับศึกลูกหนังทัวร์นาเม้นท์พิเศษครั้งแรก!! ภายใต้งาน “LaLiga Futbol Cup by M88 2022” ที่สนาม kpc soccer km.9 เทพารักษ์ จ. สมุทรปราการ ชวนแฟนบอลมาเตะบอลกระชับมิตร เชื่อมความสัมพันธ์ ความสามัคคี ที่เต็มไปด้วยความสนุกเเละมิตรภาพเเบบครอบครัว ลาลีกา

อ่านเพิ่มเติม คลิก https://khaimukdam.com/our-work/laliga-futbol-cup-2022/

LaLiga Futbol Cup by M88 2022

9.อีเวนท์เปิดตัวฟุตบอล ลาลีกา สเปน ฤดูกาลใหม่ 2022-23 ผ่านเทคโนโลยีการถ่ายทอดสดอันทันสมัยที่สุดในโลก พร้อมเชิญสื่อกีฬาร่วมพูดคุยแบบเรียบง่ายและกันเอง ภายใต้อีเวนท์ “WHAT HAPPENS IN LALIGA STAYS WITH YOU” ณ ร้านอาหาร Reunion ชั้น 5 ตึก D.O.M. ปากซอยวิภาวดี 20

อ่านเพิ่มเติม คลิก https://khaimukdam.com/our-work/laliga-is-back-for-the-2022-23-season/

WHAT HAPPENS IN LALIGA STAYS WITH YOU

10.เดินทางมาถึง 2 งานสุดท้ายของปี ที่จัดต่อเนื่องกัน เพราะเป็นงานสำหรับศึก ElClasico โดยงานแรกจัดกิจกรรมสุดพิเศษ ภายใต้งาน “ElClasico Expo powered by LaLiga Pass” นำถ้วย ออฟฟิเชียล ลาลีกา โทรฟี ส่งตรงจากสเปน มาให้แฟนบอลได้ยลโฉมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ถึงประเทศไทย พร้อมโหมโรงก่อนศึกคู่บิ๊กแมตช์ ระหว่าง “เรอัล มาดริด” ปะทะ “บาร์เซโลน่า”

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะในช่วงเวลาพิเศษ ที่ได้พบกับ 4 กูรูเบอร์ต้นบอลสเปน เจมส์ ลาลีกา, ลูกชิ้น เสพติดบอลสเปน, ขวัญ ลามาเซีย และ เบน บาร์ซ่า เข้าเส้น by แฟนพันธุ์แท้บาร์ซ่า ที่มาพูดคุยถึงรวมถึงที่มาที่ไปของการก้าวเข้าสู่ความเป็นคอบอลสเปน รวมทั้งเกมคู่ดังกล่าว ที่จะทำศึกฟาดแข้งกันในวันที่ 16 ตุลาคม นี้ 

และไม่ใช่เพียงกูรูทั้ง 4 ท่านเท่านั้น ยังมี อันเดรส ตูเญซ ดาวเตะต่างชาติที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคนหนึ่งของไทยลีก (ปัจจุบันเล่นให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซึ่งให้ความอนุเคราะห์ตัวนักเตะมาร่วมงาน) และเป็นอดีตนักเตะเซลตา ในลีกลาลีกา สเปน มาร่วมพูดคุยประสบการณ์ส่วนตัวเกือบ 10 ปีในแดนกระทิงดุอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม คลิก https://khaimukdam.com/our-work/elclasico-expo-powered-by-laliga-pass/

ElClasico Expo powered by LaLiga Pass

11.ปิดท้ายกันที่อีเวนต์สุดพิเศษ “ElClasico VIP Party powered by beIN Sports” กิจกรรมที่ชวนมาพบกับประสบการณ์การดูบอล ฟังดนตรีสดจากศิลปิน ชีส เดอะ วอยซ์ วิเคราะห์เกมโดยสุดยอดกูรู กิน ดื่มสุดชิลล์ เอนจอยกิจกรรมพร้อมของรางวัลจัดเต็มสนุก ในโดมกลางกรุงเทพมหานคร Pearl Bangkok ชมบิ๊กแมตช์ ElClasico ไปด้วยกันกับแขก VIP, สื่อมวลชน, อินฟลูอินเซอร์ และแฟนบอลผู้โชคดี ซึ่งผลการแข่งขันเกมนี้ จบลงด้วยชัยชนะของ “เรอัล มาดริด” ที่เอาชนะ “บาร์เซโลน่า” ไปถึง 3-1

อ่านเพิ่มเติม คลิก https://khaimukdam.com/our-work/elclasico-vip-party-powered-by-bein-sports/

ElClasico VIP Party

กิจกรรมที่ผ่านมาเหล่านี้ น่าจะสร้างความสุข สนุกสนาน ความมันส์แบบเต็มเปี่ยมให้กับเพื่อน ๆ ได้เป็นอย่างดี เราพร้อมที่จะส่งต่อ มอบความสุขแบบนี้ให้ทุกคนรวมถึง “ผู้สนับสนุน” ที่สนใจอย่างต่อเนื่องในปีนี้ และปีถัด ๆ ไป สำหรับใครที่ไม่อยากพลาด อย่าลืมกดติดตามทุกช่องทางของ ไข่มุกดำ ไว้ได้เลย รับรองว่า เด็ดทุกงาน !!

รวมถึงผู้สนับสนุนที่สนใจให้เราได้ดูแลทุกขั้นตอนการทำกิจกรรมการตลาดเช่นนี้ แบบ ลาลีกา ก็สามารถติดต่อเราได้เช่นกันค่ะ

📝 ภาวินีย์ สูญสิ้นภัย

Categories
Football Tactics

ปิดซีรีส์แรก 10 Episodes : The Tactics รายการพูดคุยคอนเทนท์เชิงเทคนิค และแท็คติกส์ฟุตบอลทั้งพื้นฐาน และสมัยใหม่ เพื่อคนรักฟุตบอลขั้นลึกซึ้ง

รายการ The Tactics : รักฟุตบอล เข้าใจฟุตบอล ซีรีส์เริ่มต้น เดินทางมาครบ 10 Episodes แล้ว และขอมัดรวมทั้งหมดมาให้ได้ติดตามรับชมกัน หรือหากใครใคร่จะรับชมอีกครั้งแบบรวดเดียว 10 Episode สามารถรับชมที่นี่ได้เลย

แนะนำว่า ต้องชม ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น!

ก่อนอื่นใด ขอเท้าความสักเล็กน้อยว่า รายการนี้ ถูกต่อยอดมาจากเมนู Football Tactics >> https://khaimukdam.com/football-tactics/ ในเว็บไซต์ ไข่มุกดำ และอีกหลายโพสต์วิเคราะห์ฟุตบอลในเพจไข่มุกดำ ซึ่งได้ผลิตมุมมองฟุตบอลแบบเจาะลึก แตกต่าง แต่เข้าใจได้ง่าย และไม่มีถูกผิด ให้เกิดขึ้นเพื่อเพื่อน ๆ ได้นำองค์ความรู้ไปต่อยอดฟุตบอลของตนเองไม่ว่า รับชม, เตะกับเพื่อน, แข่งขัน หรือในเชิง Coaching

รายการนี้ ได้รับเกียรติจาก “โค้ชน้อย” อนันต์ อมรเกียรติ (ที่ปรึกษาด้านเทคนิคทีมชาติไทย ยู-23 ปี) ร่วมดำเนินรายการกับ “ท็อป ไข่มุกดำ” ณัฐวุฒิ ประเทืองศิลป์ มาพูดคุย และถ่ายทอดมุมมองฟุตบอล แยกเป็น 10 หัวข้อสำหรับซีรีส์เริ่มต้นนี้

The Tactics น่าจะเป็นหนึ่งในแหล่งความรู้ชั้นดีให้กับเพื่อน ๆ ได้ หวังว่าบรรดาเหล่าแฟนบอล คนรักฟุตบอล จะสามารถนำไปปรับใช้ได้ แม้กระทั่งโค้ช หรือตัวผู้เล่นเองก็สามารถศึกษาไว้ได้ เพราะเมื่อถึงเวลาจริง ๆ สิ่งเหล่านี้มันก็หนีไม่พ้นที่จะนำไปปรับใช้ในสนาม

สำหรับภาพรวมทั้ง 10 EP. มีอะไรให้ติดตาม นำไปใช้ได้บ้าง ตามนี้เลย

EP.1 หลักพื้นฐาน 4 ข้อในการจับประเด็นมองฟุตบอล

EP นี้เพื่อน ๆ จะได้สนุกไปกับ “พื้นฐาน” ในการติดตามฟุตบอลไม่ว่าจะในฐานะใด: โค้ช, ผู้เล่น, แฟนบอลทุกระดับ การรุก, การรับ, transition (รับเป็นรุก และรุกเป็นรับ) รวมถึง ลูกตั้งเตะ ผ่านสนามฟุตบอลที่แบ่งให้เป็น 4 โซนหลัก และ 18 โซนย่อย

เพื่อน ๆ จะได้เรียนรู้การเล่นเกมรุกว่า Direct หรือแบบ Indirect ต่างกันอย่างไร และสมัยนี้ฟุตบอลเล่นรับกันอย่างไร เรื่องทรานซิชั่นส์ไม่ต้องพูดถึง สนุกแน่ ๆ รวมถึงลูกตั้งเตะ เช่น คอร์เนอร์ ควรป้องกันด้วยผู้เล่นเฝ้า 2 เสาหรือไม่

EP.2 Positional Play คือ อะไร และมีความสำคัญอย่างไร

EP.2 จะพูดถึงหัวข้อสำคัญที่สุดของฟุตบอลยุคปัจจุบันหัวข้อหนึ่ง อย่าง Positional Play ซึ่งก็คือ การสร้างความได้เปรียบให้กับตัวเอง หรือการพยายามเข้าทำลายเกมรับของคู่ต่อสู้ทุกรูปแบบ ผ่าน 3หลักการเบื้องต้น ได้แก่

1. สร้างความได้เปรียบในเรื่องจำนวนผู้เล่นในพื้นที่แดนรุกระหว่างบุก และครอบครองบอล

2. เลือกพื้นที่ดังกล่าว ตามแผนการที่ตระเตรียม และซ้อมมา

3. ด้วยคุณภาพผู้เล่นที่เหนือกว่าจะทำให้การสร้างสถานการณ์ในข้อ 1 และ 2 เกิดขึ้น และเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด

ทั้งหมดนี้คือภาพรวมหลัก ๆ ของ Positional Play ในส่วนของรายละเอียดเจาะลึกลงไป ตามกันต่อในคลิปนี้ได้เลย

EP.3 False 9

นี่น่าจะเป็นอีก EP ที่ทุก ๆ คนรอคอย ซึ่งพูดถึงหัวข้อที่เป็นแท็คติกส์สำคัญ ที่สอดแทรกอยู่ในกลยุทธ์การเล่น Postional Play ที่ได้นำเสนอไปใน EP ที่ผ่านมา คือ False 9 และ False 10

สำหรับผู้เล่น False 9 นั้น มักจะเป็นผู้เล่นที่มีทักษะการครองบอลที่ดี มีความพริ้วในการเคลื่อนตัวหาพื้นที่ และมี vision ที่เฉียบขาดในการถ่ายบอลให้ผู้เล่นคนอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ในการดึงกองหลังออกจากลายเพื่อให้เกิดความสับสนในการเลือกตัวประกบและเกิดช่องว่างให้เพื่อนเข้าทำ

EP.4 INVERTED WINGERS / FULL BACK

แท็คติกส์สำคัญอีก 1 ชิ้นที่ถูกบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาในโลกลูกหนังเพื่อที่จะสร้างสมดุลย์ให้กับ shape การเล่น โดยเฉพาะเกมรุก (เพิ่มจำนวนผู้เล่น, ไลน์การเล่น) บริเวณแดนกลาง และแน่นอน หากทำได้สมบูรณ์ เกมรับก็จะง่าย ทรานซิชั่นส์ก็ดี เพราะจะ allow ให้ผู้เล่นสามารถช่วงชิงบอลคืนกลับมา (Counter Pressing) ได้ทันท่วงที เพราะแต่ละคนยืนไม่ห่างกัน และไลน์ในการเล่นก็มี “ระยะ” ที่เหมาะสม

Inverted ทั้งฟูลแบ็ค และปีก (Wingers) มีหลายตัวอย่างใน EP นี้ที่ไม่อยากให้พลาดเพื่อต่อยอดความเข้าใจจาก 3 EP ที่ผ่านมา

EP.5 รู้จัก PLAYMAKER สมัยใหม่ในโลกฟุตบอล

Playmaker หรือ ตัวทำเกม หรือนักเตะผู้สร้างสรรค์เกม ในช่วงเวลาหนึ่ง (ในอดีต) จะหมายถึงคนที่ใส่เสื้อเบอร์ 10 แต่อย่างที่ทราบกันว่า เบอร์ 10 มันมีได้แค่คนเดียว เพราะฉะนั้นในปัจจุบันนี้ ถ้าผู้เล่นคนอื่น ๆ สามารถยกระดับการเล่น และแนวทางการเล่นของตนเองขึ้นมา ทีมก็จะมี “เพลย์เมคเกอร์” ได้หลากหลายตำแหน่ง และมีความสามารถโดยรวมที่มากขึ้น ทำให้ทีมยิ่งได้เปรียบคู่แข่งขัน

เพราะฉะนั้น เวลาพูดถึง Playmaker ต่อไป ก็ไม่ใช่แค่ผู้เล่นเบอร์ 10 หรือมิดฟิลด์เพียงตำแหน่งเดียว แต่หมายถึง ทุกตำแหน่งที่มีความสามารถ เป็นได้ตั้งแต่ตำแหน่งผู้รักษาประตู, ฟูลแบ็ค, เซนเตอร์ฮาล์ฟ (คิดถึงใครกันบ้างครับ?), มิดฟิลด์ตัวรับ (แบบ deep lying playmaker) เรื่อยไปจนถึงกองหน้า (False 9) ที่เก่งฉกาจในการสร้างสรรค์โอกาส และการทำเกมได้อย่างยอดเยี่ยม

EP.6 มิดฟิลด์คู่ (Double Pivot) ทำหน้าที่อย่างไร?

Double Pivot หรือ มิดฟิลด์คู่ ซึ่งถูกพัฒนาและถูกใช้มาเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว เป็นต้นแบบต้นฉบับอย่างหนึ่งที่ทีมต่าง ๆ ได้ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่บาร์เซโลนาสมัยแรก ๆ จะมี บุสเกตส์ กับ ชาบี เอร์นานเดซ เป็นมิดฟิลด์คู่ ซึ่งบทบาทของทั้งสองคน ก็รับหน้าที่แตกต่างกันไปในเกม พูดง่าย ๆ ก็คือ หากคนหนึ่งเล่นเกมรับ 30% เกมรุก 70% อีกคนก็จะเล่นกลับกัน เป็นเกมรับ 70% เกมรุก 30%

แน่นอนว่า เราจะได้เห็นบทบาทของ Double Pivot มากขึ้น ในฟุตบอลปัจจุบันนี้ ซึ่งในความหลากหลายของฟอร์เมชั่นในแต่ละทีม อาจยังไม่สามารถจะกำหนดชัดได้ว่าจะต้องยืนด้วยระบบ 4-3-3 เนื่องจากทุกการเล่นจะต้องถูกปรับให้สอดคล้องกับคู่ต่อสู้เสมอ และผู้เล่นที่มักจะถูกเลือกใช้กันก็คือ ผู้เล่นที่เล่นได้หลายตำแหน่ง มีความหลากหลายในการเล่น ยกเว้นคู่เซ็นเตอร์ กับประตู 3 คนเท่านั้น ที่บทบาทนั้นควรจะไม่เปลี่ยนไปมาก นอกนั้นถูกเปลี่ยนได้หมดเลย มันถึงจะควบคุมคู่ต่อสู้ได้

EP.7 Lone Striker (กองหน้าตัวเป้า)

“Lone Striker” หรือ กองหน้าตัวเป้า หนึ่งในกุญแจสำคัญของการเล่น ซึ่งผู้เล่นที่ดีในตำแหน่งนี้ ควรจะต้องมีคุณสมบัติเพียบพร้อม ทั้งเรื่องรูปร่างที่ได้เปรียบ สูงใหญ่ มีความคล่องตัวและความเร็วสูง ยิงประตูที่เฉียบคม วิ่งเข้าไปทำประตูในพื้นที่ PTA หรือ วิ่งทะแยงตัดหลังไลน์ได้ มี first touch ที่ดี หรืออาจจะต้องมีจุดแข็งเรื่องลูกกลางอากาศ และที่สำคัญมาก ๆ คือต้องมีสัญชาติญาณในการยิงประตู ในทุกรูปแบบ

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วศูนย์หน้าตัวเป้า ที่มีความเพียบพร้อมนั้น มักจะมีค่าตัวแพงมาก ๆ ในปัจจุบัน ผู้เล่นตำแหน่งนี้ ที่มีประสิทธิภาพ ก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คาริม เบนเซม่า, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, แฮร์รี เคน, ​เออร์ลิ่ง ฮาลันด์, ดาร์วิน นูนเญซ, โรเมลู ลูกากู, อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ฯลฯ

EP.8 พื้นที่ PTA (Prime Target Area)

EP นี้ พูดถึงเรื่องของ “มิติ” การครอสส์บอล และจุดนัดพบที่เรียกว่า Prime Target Area (PTA) ตามนิยามของปรมาจารย์ลูกหนัง ชาร์ลส ฮิวจ์ส (Charles Huges) และที่โค้ชน้อย ร่วมทำสรุปมาคุยกันวันนี้ และคำอธิบายประกอบก็คือ พื้นที่เข้าไปในกรอบ 6 หลาประมาณ 2 หลา (1.8 เมตร) และลากออกมาจากเส้นกรอบ 6 หลาจนถึงจุดโทษ หรือคืออีกประมาณ 6 หลา (5.3 เมตร) รวมเป็นยาว 8 หลา และกว้างเท่ากับความยาวกรอบ 6 หลา

บริเวณ PTA คือ พื้นที่ที่ควรครอสส์ หรือทำเกมจากด้านข้างเข้าสู่กรอบเขตโทษ เพราะเป็นพื้นที่ระหว่างไลน์รับคู่แข่งกับผู้รักษาประตู

คำถาม คือ เทรนท์ หรือใคร ทีมใดก็แล้วแต่ โยนเข้าจุดดังกล่าวไหม? และหากเข้า ทำไมไม่เกิดประสิทธิภาพ

คำตอบมีได้หลากหลาย เช่น คู่แข่งรับต่ำ รับด้วยจำนวนมาก หรือนายทวารออกมากำกับจัดการได้ดี เฉพาะอย่างยิ่ง ลูกโยนจาก Deep area ที่ป้องกันได้ง่ายกว่า

EP.9 พื้นที่ Half Spaces

พื้นที่ Half Spaces ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อันตรายที่สุดในสนาม เป็นช่องลากยาวจะอยู่ระหว่างแนวฟูลแบ็คกับเซ็นเตอร์ฯ จึงเหมาะแก่การเข้าทำเมื่อทีมเป็นฝ่ายรุก

โดยในฟุตบอลสมัยใหม่ ทีมใหญ่ ๆ หลายทีมในต่างประเทศ มักจะให้นักเตะที่เป็นตัวทำเกมมาอยู่ในตำแหน่งนี้ และต้องเป็นนักเตะที่มีความสามารถมากพอที่จะเล่นในพื้นที่แคบ ๆ ได้ด้วย เหตุผลเพราะโซนนี้สามารถจ่ายบอลได้ทุกทิศทาง

EP.10 วิธีการเจาะแนวรับฝั่งตรงข้าม

วิธีการเจาะแนวรับฝั่งตรงข้าม ซึ่งก็หนีไม่พ้นในเรื่องของ Positional Play โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นPositional Play ในแดนคู่ต่อสู้ ในขณะที่เรากำลังเตรียมการใช้คน 8 คนทั้งหมดรุกเข้าไป

โดยการเคลื่อนที่ของผู้เล่นทั้งหมดนี้ จะทำให้คู่ต่อสู่แนวรับทั้งหมดไม่มั่นคง ซึ่งเราก็ใช้วิธีการต่าง ๆ ที่เคยพูดมาใน EP ก่อนหน้านี้ทั้งหมด คือ การเคลื่อนที่ของ Inverted Full-back เข้ามา 2 คน แล้วเอาผู้เล่น Inverted Winger เข้ามาอีก 2 คน แล้วให้มีคนวิ่ง False 9 ลงมาตรงกลาง ส่วนฝั่งซ้ายขวา ก็ให้คนวิ่ง False 10 และ False 8

ถ้าสมมติในกรณีนี้ เราเข้าไปสู่พื้นที่เกือบจะสุดท้าย แบบทะลุทะลวง เพราะฉะนั้นการทำในลักษณะนี้พร้อม ๆ กันหรือเกือบจะพร้อมกัน แนวรับฝั่งตรงข้ามแตกแน่นอน

อย่างไรก็ดี ทีมผู้จัดทำหวังว่ารายการนี้จะให้ประโยชน์กับทุก ๆ คนได้ไม่มากก็น้อย โดยไม่ได้มีผู้สนับสนุนรายการใด ๆ ก็จะมีเพียงเพื่อน ๆ นี่แหละ ที่เป็นกำลังใจ คอยติดตาม และพูดคุยกัน และในอนาคต รายการ The Tactics จะมีซีรีส์ภาคต่ออย่างไร รอติดตามกันได้เลย

📝 ภาวินีย์ สูญสิ้นภัย (แนน)

Categories
Our Work

ElClasico VIP Party : ครั้งแรก! ลาลีกา จัดกิจกรรมรับศึก “ElClasico” เต็มอิ่ม ประสบการณ์ และอรรถรสการรับชมแมตช์สุดยิ่งใหญ่ลีกสเปน จบเกม เรอัล มาดริด ถล่ม บาร์เซโลน่า 3-1

ผ่านไปแล้วกับงานสุดพิเศษ ที่ลาลีกา ประเทศไทย จัดให้ตามคำเรียกร้องของแฟนบอล “ElClasico VIP Party powered by beIN Sports” 16 ตุลาคม 2565 ในงานพบกับประสบการณ์การดูบอล ฟังดนตรีสดจากศิลปิน ชีส เดอะ วอยซ์ วิเคราะห์เกมโดยสุดยอดกูรู กิน ดื่มสุดชิลล์ เอนจอยกิจกรรมพร้อมของรางวัลจัดเต็มสนุก ในโดมกลางกรุงเทพมหานคร Pearl Bangkok ชมบิ๊กแมตช์ ElClasico ไปด้วยกันกับแขก VIP, สื่อมวลชน, อินฟลูอินเซอร์ และแฟนบอลผู้โชคดี ซึ่งผลการแข่งขันเกมนี้ จบลงด้วยชัยชนะของ “เรอัล มาดริด” ที่เอาชนะ “บาร์เซโลน่า” ไปถึง 3-1

บรรยากาศภายในงานสุดคึกคัก มีผู้คนเข้าร่วมงานถูกรับเชิญ และถูกเลือกผ่านกิจกรรมกว่า 200คน ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนจากสถานทูตสเปน, หอการค้าสเปน, อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง สื่อมวลชนสายกีฬา และแฟนฟุตบอลที่ร่วมสนุกลุ้นรับสิทธิ์เข้าร่วมงานจากกิจกรรมออนไลน์ นำโดย เจมส์ ลาลีกา, ขวัญ ลามาเซีย, เบน บาร์ซ่าเข้าเส้น by แฟนพันธุ์แท้บาร์ซ่า และ ลูกชิ้น เสพติดบอลสเปน 4 กูรูฟุตบอลสเปน ที่มาร่วมพูดคุยวิเคราะห์เกมการแข่งขัน ทั้งก่อนเกม ช่วงพักครึ่ง และหลังเกม

นอกจากนี้ยังมี ต่อ ณ ระนอง, เดอะนัทซัดหมดแมกซ์, มายด์เปี๊ยกบางใหญ่, แตง Top4Official, แม็ก3เม็ด, ซันนี่ ธัญญารัตน์ พร้อมทีม Ari, สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ นำมาโดยนายกสมาคมฯ วันกล้า ขวัญแก้ว และเหล่าพาร์ตเนอร์ของงาน ที่มาร่วมสนุก สร้างสีสัน และความมันส์ไปด้วยกัน

งานนี้ได้นั่งชิลล์ กิน ดื่ม ฟรี!! ผ่อนคลายไปกับดนตรีสดเพราะ ๆ จาก ชีส เดอะวอยซ์ ในช่วงหัวค่ำ พร้อมทานอาหารร่วมกัน ดื่มเครื่องดื่มอีกเล็กน้อย เข้ากับบรรยากาศภายในงาน และอากาศด้านนอกโดมในวันนี้ที่เย็นขึ้นมาเล็กน้อย ยิ่งทำให้ทุกอย่างดูลงตัวมาก

ภายในงานยังมีโซนโชว์เสื้อของ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด พร้อมลูกฟุตบอล PUMA ORBITA LaLiga ฤดูกาลนี้, โซนสตรอรี่ บอกเล่าเรื่องราวของ 2 เมืองที่ใหญ่ที่สุดของสเปน กับศึก เอล กลาซิโก้ เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โซนเล่นเกม เตะฟุตบอลกรง และอีกหนึ่งไฮไลท์เลยคือ โซนโชว์ถ้วย ออฟฟิเชียล ลาลีกา โทรฟี ส่งตรงจากสเปน

ก่อนจะถึงช่วงเวลาสำคัญชมฟุตบอล เวลา 21.15 น. ภาพการเชียร์บอลร่วมกันของกลุ่มแฟนบอล สร้างสีสันและความคึกคักให้กับงานเป็นอย่างมาก จังหวะสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ความรู้สึกต่อเกมการแข่งขัน ทุกคนแสดงออกมา อย่างชัดเจน และคำตอบรับจากงานนี้ ทำให้รู้เลยว่า ทุกคนเอนจอยกับกิจกรรมนี้มาก

หลังจบฟุตบอล และพูดคุยหลังเกมกับกูรูฟุตบอลสเปนทั้ง 4 ท่าน ก็ปิดท้ายงานด้วยการลุ้นรางวัล lucky draw มากมาย นำโดย ลูกฟุตบอล PUMA ORBITA LaLiga, กระเป๋าถุงผ้า กระบอกน้ำ ลูกฟุตบอล ส่งตรงจาก beIN Sports และเสื้อที่ระลึก ElClasico

กิจกรรมนี้ ถือเป็นการนำประสบการณ์ดี ๆ สร้างการรับรู้ถึงฟุตบอล ลาลีกา สเปน และสร้างสัมพันธ์กับแฟนบอลให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ จะเกิดขึ้นในประเทศไทยอีกแน่นอน โปรดติดตามกันต่อไป

📝 ภาวินีย์ สูญสิ้นภัย (แนน)

Categories
Our Work

โหมโรงก่อนศึกฟาดแข้ง “ElClásico” ยลโฉมถ้วยลาลีกา ส่งตรงจากสเปน พูดคุยกับกูรูฟุตบอลสเปน และ อันเดรส ตูเญซ อดีตนักเตะเซลตา ในลีกลาลีกา สเปน

เมื่อวันที่ 8-9 ตุลาคม 2565 : ลาลีกา ประเทศไทย จัดกิจกรรมสุดพิเศษ ภายใต้งาน “ElClasico Expo powered by LaLiga Pass” นำถ้วย ออฟฟิเชียล ลาลีกา โทรฟี ส่งตรงจากสเปน มาให้แฟนบอลได้ยลโฉมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ถึงประเทศไทย โหมโรงก่อนศึกคู่บิ๊กแมตช์ ระหว่าง “เรอัล มาดริด” ปะทะ “บาร์เซโลน่า”

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะในช่วงเวลาพิเศษ ที่ได้พบกับ 4 กูรูเบอร์ต้นบอลสเปน เจมส์ ลาลีกา, ลูกชิ้น เสพติดบอลสเปน, ขวัญ ลามาเซีย และ เบน บาร์ซ่า เข้าเส้น by แฟนพันธุ์แท้บาร์ซ่า ที่มาพูดคุยถึงรวมถึงที่มาที่ไปของการก้าวเข้าสู่ความเป็นคอบอลสเปน รวมทั้งเกมคู่ดังกล่าว ที่จะทำศึกฟาดแข้งกันในวันที่ 16 ตุลาคม นี้

และไม่ใช่เพียงกูรูทั้ง 4 ท่านเท่านั้น ยังมี อันเดรส ตูเญซ ดาวเตะต่างชาติที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคนหนึ่งของไทยลีก (ปัจจุบันเล่นให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซึ่งให้ความอนุเคราะห์ตัวนักเตะมาร่วมงาาน) และเป็นอดีตนักเตะเซลตา ในลีกลาลีกา สเปน มาร่วมพูดคุยประสบการณ์ส่วนตัวเกือบ 10 ปีในแดนกระทิงดุอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีอินฟลูเอนเซอร์ฟุตบอล สื่อมวลชน และแฟนฟุตบอล มาร่วมสนุกกันอีกมากมาย ภายในงานมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกกันด้วย ไม่ว่าจะเป็น โซนเล่นเกม EA Sports FIFA game, เกมนั่งเตะฟุตบอล, เกมยิงประตูประลองความแม่นยำ, พร้อมแจกเสื้อฟุตบอลพร้อมลายเซ็นตำนานระดับ อิเกร์ คาซิญาส เสื้อทีเชิ้ตที่ระลึกศึก ElClásico ร่วมไปถึงกิจกรรมลุ้นรางวัลอื่น ๆ อีกด้วย

และที่ขาดไม่ได้เลย กับแอพพลิเคชั่น  อย่าง LaLiga Pass Zone ที่ได้รับการตอบรับจากแฟน ๆ ฟุตบอลสเปน เป็นอย่างดี เพราะทุกคนได้ทำความรู้จักกับแอพพลิเคชั่น หนึ่งเดียวของลาลีกา สเปน ที่พร้อมให้ดาวน์โหลดฟรี เพื่อรับชมรายการ LaLiga Pass Thailand หรือสมัครสมาชิกเพื่อชมสดทุกแมตช์ ลาลีกา ได้ทุกที่ ทุกเวลา

สุดท้าย สามารถตามเข้ามารับชม LaLiga Pass ที่นี่ได้เลย https://watch.laliga.com

Categories
Football Business

โหมโรงศึก “ElClasico In Thailand 2022” เรอัล มาดริด ปะทะ บาร์เซโลน่า บันทึกความเป็นมา เหตุการณ์สำคัญ และเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับศึก “เอลกลาสซิโก้”

ศึกฟุตบอลนัดสำคัญที่สุดนัดหนึ่งของโลกประจำปฏิทินสโมสรลูกหนังในแต่ละซีซั่น “เอลกลาสซิโก้” เรอัล มาดริด ปะทะบาร์เซโลน่า นัดแรกฤดูกาล 2022/23 จะอุบัติขึ้น ณ เวลา 9.15 pm วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2022 จากซานดิอาโก้ เบอร์นาบิว 

นี่จะเป็น “ครั้งแรก” ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลเมืองไทยเช่นกันที่ ลาลีกา เตรียมจัดใหญ่ 2 อีเวนต์ติดต่อกัน: 1.กิจกรรม พรีแมตช์ 2 วัน 8-9 ต.ค.ที่จะมีไฮไลต์เป็น “ลาลีกา โทรฟี” ส่งตรงมาปรากฎโฉมถึงเมืองไทย ห้างยูเนียน มอลล์ และ 2.งานชมฟุตบอล ElClasico วันที่ 16 ต.ค.ในโดมกระจกยักษ์ Pearl Bangkok ใจกลางกรุงเทพมหานคร

ซึ่งใจความสำคัญของเกมฟุตบอลนัดนี้มีมากมาย และลึกหลายมิติ ควรค่าให้ศึกษา และสุดท้ายต่อยอดไปร่วมกิจกรรมทั้ง 2 งานกันได้ รับรองสตอรีทั้งใน และนอกสนาม น่าสนใจไม่แพ้กันเลยทีเดียว ติดตามเลย…

1.เรอัล มาดริด VS บาร์เซโลน่า 

2 เมืองที่ใหญ่ที่สุดของสเปน ซึ่งมีความแตกต่างทางด้านประวัติศาสตร์ การเมือง และอุดมการณ์ ถือเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้ของชาวคาตาลัน ที่ต้องการปลดปล่อยตัวเองจากเมืองหลวงมาอย่างยาวนาน

ความขัดแย้งของทั้ง 2 เมือง ก็ได้ส่งต่อไปยังกีฬาฟุตบอลด้วย การพบกันระหว่างเรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า สโมสรที่เป็นมหาอำนาจของแต่ละเมือง คือการพิสูจน์ว่า เมืองของตัวเองเหนือกว่าเมืองคู่ปรับ

การเกิดสงครามกลางเมืองในช่วงปลายทศวรรษที่ 1930s และการก้าวขึ้นสู่อำนาจของนายพลฟรานซิสโก้ ฟรังโก้ ผู้นำเผด็จการของสเปน ก็ยิ่งทำให้ทั้ง 2 สโมสร เพิ่มดีกรีความเกลียดชังมากขึ้นไปอีก

2.เราคือ “เอล กลาซิโก้”

สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า ก่อตั้งเมื่อปี 1899 และอีก 3 ปีให้หลัง สโมสรฟุตบอลเรอัล มาดริด ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา ทั้งคู่ได้พบกันเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 เมษายน 1902 จบลงด้วยชัยชนะ 3 – 1 ของบาร์เซโลน่า

นับตั้งแต่ลาลีกา ลีกสูงสุดของประเทศสเปน ก่อตั้งขึ้นในฤดูกาล 1928/29 จนถึงปัจจุบัน เรอัล มาดริด จบซีซั่นเหนือกว่าคู่ปรับ 47 ครั้ง ขณะที่บาร์เซโลน่า จบซีซั่นเหนือกว่ายักษ์ใหญ่จากเมืองหลวง 44 ครั้ง

“เอล กลาซิโก้” มักจะมีประตูเกือบทุกครั้งที่พบกันในลาลีกา เคยยิงประตูรวมกันสูงสุดถึง 10 ประตูในแมตช์เดียว เมื่อปี 1935 (เรอัล มาดริด ชนะ 8 – 2) และปี 1943 (เสมอ 5 – 5) มีเพียง 9 ครั้งเท่านั้น ที่ไม่มีประตูเกิดขึ้น

3. มอง 10 ลำดับเหตุการณ์ “เอล กลาซิโก้” ในความทรงจำ

1929 – ครั้งแรกที่บาร์เซโลน่า พบกับเรอัล มาดริดในลาลีกา ที่สนามคัมป์ เด เลส คอร์ทส (Camp de Les Corts) เป็นเรอัล มาดริด ที่บุกไปชนะ 2 – 1 แต่บาร์เซโลน่า คือทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของสเปน

1935 – เรอัล มาดริด สร้างสถิติชนะบาร์เซโลน่าขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์ลาลีกา ด้วยสกอร์ 8 – 2 และหลังจากนั้นไม่นาน ได้เกิดสงครามกลางเมืองในสเปน ทำให้ “เอล กลาซิโก้” เพิ่มความดุเดือดนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

1953 – เรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า มีประเด็นขัดแย้งในการคว้าตัวอัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ โดยบาร์เซโลน่าอ้างว่าได้เซ็นสัญญาล่วงหน้าไปแล้ว แต่เป็นเรอัล มาดริด ที่ได้ตัวไปร่วมทีมแบบช็อกวงการฟุตบอล

1974 – โยฮันน์ ครัฟฟ์ เลือกไปค้าแข้งให้กับบาร์เซโลน่า แทนที่จะเป็นเรอัล มาดริด และทำผลงานได้อย่างสุดยอด ยิง 1 ประตู จ่าย 3 แอสซิสต์ ในเกมลาลีกา ที่บุกไปถล่มถึงถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาเบว 5 – 0

1983 – ดิเอโก้ มาราโดน่า เป็นนักเตะบาร์เซโลน่าคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ได้รับเกียรติจากแฟนบอลเรอัล มาดริด สโมสรคู่ปรับอันดับ 1 ในการลุกขึ้นยืนปรบมือทั้งสนาม หลังจากได้เห็นฝีเท้าอันสุดยอดในเกม “เอล กลาซิโก้”

1994 – โยฮันน์ ครัฟฟ์ โค้ชผู้วางรากฐานความยิ่งใหญ่ให้กับบาร์เซโลน่า พาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา 4 สมัยติดต่อกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร แถมเอาชนะเรอัล มาดริด ใน “เอล กลาซิโก้” ได้ทั้ง 2 นัดที่พบกัน

2000 – เรอัล มาดริด สร้างปรากฏการณ์ช็อกวงการฟุตบอลอีกครั้ง ด้วยการคว้าตัว หลุยส์ ฟิโก้ นักเตะบาร์เซโลน่า สโมสรคู่ปรับตลอดกาลมาร่วมทีม และช่วยให้ราชันชุดขาวคว้าแชมป์ทั้งหมด 7 โทรฟี่

2009 – บาร์เซโลน่า เป็นสโมสรแรกของประเทศสเปน ที่คว้าแชมป์ 6 รายการ ภายในปีปฏิทินเดียวกัน ขณะที่เรอัล มาดริด เซ็นสัญญาคว้าตัวคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลกในเวลานั้น

2015 – บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ลาลีกา, โคปา เดล เรย์ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ภายในฤดูกาลเดียว เป็นรอบที่ 2 กับ 3 ประสานกองหน้าที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ และเนย์มาร์

2022 – สถิติการพบกันทั้งหมดเฉพาะในลาลีกา เรอัล มาดริด ชนะ 76 ครั้ง บาร์เซโลน่า ชนะ 73 ครั้ง และเสมอกัน 35 ครั้ง ส่วนจำนวนแชมป์ลีกสูงสุดของสเปน เรอัล มาดริด 35 สมัย และบาร์เซโลน่า 26 สมัย

4. ย้อน 5 เรื่องจริง “เอล กลาซิโก้” ที่คุณอาจไม่เคยรู้

4.1 สกอร์ 11-1 ชัยชนะขาดลอยที่สุดของราชันชุดขาว

เกม “เอล กลาซิโก้” ที่เอาชนะกันแบบขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์ เกิดขึ้นในเกมโคปา เดล เรย์ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง เมื่อปี 1943 เรอัล มาดริด เปิดบ้านถล่มบาร์เซโลน่าถึง 11 – 1 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แต่ชัยชนะในครั้งนี้ ถูกตั้งข้อสงสัยว่า มีอำนาจมืดจากนายพลฟรานซิสโก้ ฟรังโก้ ผู้นำเผด็จการในเวลานั้น อยู่เบื้องหลังหรือไม่

4.2 เลาดรู๊ปผู้พี่ กับชัยชนะประวัติศาสตร์ใน “เอล กลาซิโก้”

ไมเคิล เลาดรู๊ป พี่ชายของไบรอัน เลาดรู๊ป เป็นนักเตะบาร์เซโลน่า ชุดที่เปิดบ้านถล่มเรอัล มาดริด 5 – 0 ใน “เอล กลาซิโก้” ฤดูกาล 1993/94 แต่ในฤดูกาลถัดมา กลับย้ายไปซบทีมคู่ปรับอันดับ 1 อย่าง “ราชันชุดขาว” และพาทีมถล่ม “เจ้าบุญทุ่ม” 5 – 0 ในบ้านเช่นเดียวกัน ถือเป็นนักเตะเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่สร้างสถิติเช่นนี้ได้

4.3 โลเปเตกี ไม่เคยลงเล่นใน “เอล กลาซิโก้” เลย

ฆูเลน โลเปเตกี อดีตผู้รักษาประตูระดับตำนานของลาลีกา เคยค้าแข้งให้กับทั้งเรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า แต่ไม่เคยลงเฝ้าเสาในเกม “เอล กลาซิโก้” เลยแม้แต่นัดเดียว จนกระทั่งเข้ามาเป็นโค้ชให้กับ “ราชันชุดขาว” ก็ได้โอกาสคุมทีมดวลกับ “เจ้าบุญทุ่ม” เพียงครั้งเดียว ในนัดที่แพ้ 1 – 5 และถูกปลดจากตำแหน่งทันทีหลังจบเกมดังกล่าว

4.4 นักเตะ ยิงประตูให้ทั้ง 2 ทีมใน “เอล กลาซิโก้”

ในประวัติศาสตร์ของเรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า มีนักเตะเพียง 4 คนเท่านั้น ที่ทำประตูในเกม “เอล กลาซิโก้” ให้กับทั้ง 2 สโมสร ได้แก่ โจเซป ซามีเทียร์, หลุยส์ เอ็นริเก้, หลุยส์ ฟิโก้ โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีนักเตะที่เคยไปค้าแข้งให้กับทั้ง 2 ทีมคู่ปรับตลอดกาลของวงการฟุตบอลสเปน ทั้งหมด 37 คน

4.5 ลืมความเกลียดชังชั่วคราว ด้วยการชื่นชมนักเตะคู่แข่ง

ไม่ว่าทั้งเรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า จะเป็นคู่ปรับที่ดุเดือดมากขนาดไหน แต่ก็มีช่วงเวลาดีๆ ที่ให้ความเคารพ และให้เกียรตินักเตะฝ่ายตรงข้ามอยู่เสมอ โดยนักเตะที่ได้รับประสบการณ์แบบนี้ ได้แก่ ลอรี คันนิ่งแฮม อดีตดาวเตะ “ราชันชุดขาว” ยุค 1980s รวมถึงอดีตแข้ง “เจ้าบุญทุ่ม” ทั้งดิเอโก้ มาราโดน่า, โรนัลดินโญ่ และอันเดรียส อิเนียสต้า

5.คอบอลพร้อม! กิจกรรมพิเศษ โหมโรงก่อนเกม “ElClasico”

โชว์ถ้วย “ลาลีกา โทรฟี” 8-9 ต.ค. 2565 ชั้น G ศูนย์การค้า ยูเนี่ยน มอลล์ 

ลาลีกา ประเทศไทย จัดกิจกรรมพิเศษบนพื้นที่กว่า 300 ตร.ม ให้แฟนบอลสเปน เฉพาะอย่างยิ่ง เรอัล มาดริด และเอฟซี บาร์เซโลน่า โดยเฉพาะ ภายใต้ธีมงาน “ElClasico Expo powered by LaLiga Pass” นำถ้วย ออฟฟิเชียล ลาลีกา โทรฟี ส่งตรงจากสเปน มาให้แฟนบอลได้ยลโฉม ถ่ายรูป ไว้อวดโซเชียลถึงประเทศไทย พร้อมโอกาสสัมผัสประสบการณ์ LaLiga Pass แอพพลิเคชั่นที่จะทำให้คุณไม่พลาดทุกแมตช์บอลลีกสเปน รายการโชว์ประจำสัปดาห์ภาคภาษาไทย และคอนเทนท์พิเศษ เต็มอิ่ม 

พร้อมพบกับ 4 กูรูเบอร์ต้นบอลสเปน ประเทศไทย เจมส์ ลาลีกา, ลูกชิ้น เสพติดบอลสเปน, ขวัญ ลามาเซีย และ เบน บาร์ซ่า เข้าเส้น by แฟนพันธุ์แท้บาร์ซ่า ที่จะมาพูดคุยถึงเกมคู่บิ๊กแมตช์ หยุดโลก “บาร์เซโลน่า” ปะทะ “เรอัล มาดริด” รวมถึงที่มาที่ไปของการก้าวเข้าสู่ความเป็นคอบอลสเปน

เพิ่มเติมต้องขอขอบคุณสโมสรฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซึ่งส่งตัว อันเดรส ตูเญซ ดาวเตะต่างชาติที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคนหนึ่งของไทยลีก และเป็นอดีตนักเตะเซลตา ในลีกลาลีกา สเปน มาร่วมพูดคุยประสบการณ์ส่วนตัวเกือบ 10 ปีในแดนกระทิงดุ

ภายในงานยังมีกิจกรรมอีก ไม่ว่าจะเป็น โซนเล่นเกม EA Sports FIFA game, เกมนั่งเตะฟุตบอล, เกมยิงประตูประลองความแม่นยำ, พร้อมแจกเสื้อฟุตบอลพร้อมลายเซ็นตำนานระดับ อิเกร์ คาซิญาส เสื้อทีเชิ้ตที่ระลึกศึก ElClásico ร่วมไปถึงกิจกรรมลุ้นรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย

และพลาดไม่ได้! LaLiga Pass Zone ให้แฟน ๆ ได้ทำความรู้จักกับแอพพลิเคชั่น หนึ่งเดียวของลาลีกา สเปน ที่พร้อมให้ดาวน์โหลดฟรี เพื่อรับชมรายการ LaLiga Pass Thailand หรือสมัครสมาชิกเพื่อชมสดทุกแมตช์ ลาลีกา ได้ทุกที่ ทุกเวลา

แล้วพบกันวันที่ 8-9 ตุลาคม 2565 ณ Union Co-Event Space ชั้น G ศูนย์การค้า ยูเนี่ยน มอลล์ ตั้งแต่เวลา 12.00 เป็นต้นไป 

เช่นกัน แมตช์เดย์ “เอลกลาสซิโก้” 16 ตุลาคม 2565 ตั้งแต่ 17.30 น.เป็นต้นไป ณ Pearl Bangkok ชมสดระบบ HD บนจอ LED ยักษ์ และมันส์ไปด้วยกัน

อ้างอิง :

https://populartimelines.com/timeline/El-Cl%C3%A1sico

https://supersport.com/football/spain/news/210409_Ten_landmarks_in_the_history_of_El_Clasico

https://sportsbrowser.net/best-el-clasico-moments/

https://veebrant.com/facts-about-el-clasico/

https://www.foottheball.com/football-top-10/el-clasico-controversial-incidents-top-10-barcelona-real-madrid/

https://durofy.com/el-clasico-timeline-dwelling-sporos

https://en.wikipedia.org/wiki/El_Cl%C3%A1sico

https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_El_Cl%C3%A1sico_matches

https://en.as.com/en/2022/03/18/videos/1647616738_131452.html

https://www.sportskeeda.com/football/why-real-madrid-versus-fc-barcelona-is-known-as-el-clasico

https://www.sportskeeda.com/football/barcelona-real-madrid-5-most-controversial-moments-el-clasico-history

https://www.sportskeeda.com/slideshow/football-5-incredible-stories-real-madrid-barcelona-el-clasico

Categories
Special Content

ทำไมหงส์แดงฟอร์มร่วง! ส่อง 20 Top Comment แฟนบอลชาว KMD หลัง “ลิเวอร์พูล” ยอดทีมแดนผู้ดี ฟอร์มยังไม่เข้าที่ ล่าสุดถูกนาโปลีไล่ต้อน 4-1 ศึกแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม

ภาพการลงเล่นในสนามแบบดุดัน เร้าใจ ยืนกองหลังสูงแบบ high line และไล่บี้เล่นเพรสซิ่งหนักหน่วงกันตั้งแต่แดนบนของลิเวอร์พูลที่แฟนบอลคุ้นเคยตอนนี้ดูเหมือนกลายเป็นปัญหาเสียแล้ว โดยในเกมล่าสุด แชมเปียนส์ลีก คือ แมตช์ขยี้บาดแผลที่กำลังเจ็บให้ยิ่งเจ็บแบบไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น

สาเหตุของฟอร์มการเล่นอันน่าผิดหวัง คือ อะไร?

โลกโซเชียลยังคงประโคมโหมคำตอบกันไม่หยุด โดยทางเพจ KMD ได้เปิดโพสต์ตั้งประเด็น และได้คำตอบจากลูกเพจมากมายร่วม 100 คอมเมนต์ในเวลา 3-4 ชั่วโมงตอนบ่ายหลังเกม 8 ก.ย.ที่ผ่านมา

คอมเมนต์มองว่าอย่างไรกันบ้าง หลังทีมรักฟอร์มตก มาดูกันสัก 20 เมนท์ โดยที่เหลือก็คลิ๊กไปดูอัพเดทในโพสต์ได้เลยค่ะ https://bit.ly/3Bmapim หรือเราคัดมาให้ส่วนหนึ่ง 20 เมนท์ตามนี้:

1. ต่างคนต่างเล่น เหมือนจะเก่งกองหลังเรา ไม่ส่งน้องแนท ผมลงบ้าง เปิดบอลไม่เคยเข้าเป้าเลยสำหลับ ผม(กองหลัง) 

2. การปรับจูน ของผู้เล่นเก่ากับใหม่ยังไม่เข้าที่ แรงจูงใจของนักเตะเก่าที่ใกล้หมดสัญญา โดยรวมผมว่าสภาพจิตใจครับ

3. การลองยิงไกลนอกเขต นอกจากดิอาซกับคาร์วัลโญ่แล้ว แทบไม่เหนใครกล้าลองยิงเลย … จ่ายบอลเพื่อให้ยิงจ่อๆตลอด มันก้อไม่ง่ายแล้วอ่า

4. หมด Passion กันแล้วครับ แกนหลักผ่านจุดสูงสุดไปหมด น่าจะต้องทำใจโละยกทีม แล้วสร้างทีมใหม่มาแทน

5. สงสัยต้องให้วิ่ง 14 กม.แบบเทนฮาก หยอกๆๆ

6. สร้างมาตรฐานไว้สูงเกินไป ผู้คนเลยคาดหวังสูง พอมีปัญหาคนจะรับไม่ค่อยได้ ใจร้อน สรุปแก้ที่ตัวกองเชียร์เองก่อน ส่วนตัวผมก็เชียร์โง่ๆแบบเดิมไป ผมเชื่อว่าบอสแก้ได้ #YNWA

7. ระบบการเล่นที่เดิมๆ

8. ฝั่งขวาทั้งแถบบอดสนิท

9. แท็กติก แผนการเล่นเดิม ไม่เหมาะกับชุดนี้แล้ว ให้ดู รีลมาดริดเล่นจะช่วยได้ เหนียวแน่นและคม ครองบอลไม่เยอะ ร่างกายไม่ล้า

10. ใจ คับ ตอนนี้ ดูไม่มั่นใจอย่างชัดเจน

11. ความหลากหลายและแม่นยำของเกมส์รุกในพื้นที่ที่ 3

12. ฟูลแบ๊ค 2 ข้าง ไปไม่ถึงเส้นหลังครับ ไม่ว่าจะด้วยแผนที่เปลี่ยนไป หรือจากการเสียเซ็ตบอล

13. ความกระหายในการเล่น…ถึงผู้เล่นจะไม่พร้อมและส่งผลถึงระบบการเล่น แต่ถ้ายังมีความกระหาย มันจะต้องช่วยกันเล่นช่วยกันวิ่ง

14. ไม่ยอมเปลี่ยนวิธีการเล่น ทั้งที่คู่แข่งเริ่มจับทางได้ รู้วิธีที่จะเอาชนะลิเวอร์พูล

15. อายุเฉลี่ยนักเตะในทีมสูงเกินกว่าจะเล่นเพลสซิ่งทั้งเกมส์ได้แล้วค่ะ

16. อิ่มตัวครับ การแข่งขันแต่ละตำแหน่งไม่มี เลยเล่นไปเรื่อยๆ

17. อิ่มตัวครับ นักเตะชุดนี้อยู่ด้วยกันมานาน กวาดมาหมดทุกแชมป์ ความกระหายหรือที่เรียกว่าแพสชั่นก็ลดลงเป็นธรรมดา

18. คิดว่าอาการล้ามาจากฤดูกาลก่อนและนักเตะเจ็บเยอะเกินความสมดุลในทีมเลยขาดๆเกินๆ

19. แผนกลางที่ยังไม่ลงตัว ติอาโก้ ฟาบิญโญ่ เฮนเดอร์ซั่น คนอื่นยังทำแทนไม่ได้

20. สำหรับผมให้เป็น โม ซาลาห์ละกัน ตัวซาลาห์ดูดร็อบลงไปตั้งแต่ไปเตะแอฟฟิกันคัพออฟเนชั่นแล้ว และยังยื่นสัญญาให้ใหม่อีก ตอนนี้ผมมองว่าเป็น โอบาเมยอง โมเดลไปแล้ว ยิ่งดูการจับบอลโล่งๆ การอะไรเมื่อคืน และหลายต่อนัด มันยิ่งเห็นชัด

.

เรียบเรียง: ภาวินีย์ สูญสิ้นภัย (แนน)