Categories
Column Special Content

ชาบีกับงานสร้าง “บาร์เซโลนา 2.0” ลงมือทันทีหลังคืนสู่บัลลังก์ ลา ลีกา

ชาบี เอร์นานเดซ เคยนิยามสโมสรบาร์เซโลนาไว้หลายวาระว่า เป็นทีมฟุตบอลที่อยู่ยากมากที่สุดในโลก ซึ่งตัวเขาเคยผ่านประสบการณ์มาแล้วทั้งสถานะหัวหน้าโค้ชในตอนนี้และนักฟุตบอลเมื่อครั้งอดีต (1998 – 2015) ก่อนย้ายไปแขวนสตั๊ดที่กาตาร์ (2015 – 2019) หรืออาจย้อนกลับไปขณะอายุเพียง 11 ขวบที่เขาเข้าไปอยู่ในศูนย์ฝึกเยาวชนลา มาเซีย

ตำนานมิดฟิลด์ทีมชาติสเปน ซึ่งปัจจุบันอายุ 43 ปี ขยายความว่า ชัยชนะอย่างเดียวยังไม่เพียงพอสำหรับบาร์เซโลนา แต่ต้องชนะด้วยจิตวิญญาณหรือดีเอ็นเอของสโมสร

แซม มาร์สเดน ผู้สื่อข่าวพิเศษของอีเอสพีเอ็น สื่อใหญ่ระดับโลก กล่าวว่าคงต้องถกเรื่องนี้กันหลายชั่วโมงและต้องย้อนกลับไปรื้อฟื้นวิวัฒนาการช่วง 35 ปีที่ผ่านมาผ่านยุคสมัยของโยฮัน ครัฟฟ์ และเป๊ป กวาร์ดิโอลา แต่สามารถสรุปลักษณะดีเอ็นเอของบาร์เซโลนาด้วย 3 P’s คือ positioning, possession และ pressure

กล่าวคือ บาร์เซโลนาเป็นทีมที่เน้นการบุกและสร้างความตื่นเต้นเร้าใจ บิลด์อัพเกมจากแบ็คไลน์ไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ, เพรสไฮ, อินเตอร์เพลย์น้อยจังหวะเพียง 1-2 ครั้ง จนทำให้แฟนบอลดูการแข่งขันแบบก้นแทบไม่ติดเก้าอี้ ทำประตูสวยๆที่เหลือเชื่อ แน่นอนต้องชนะแมตช์และคว้าถ้วยชนะเลิศ

ซีซันที่แล้ว (2022-23) ชาบีเพิ่งพาบาร์เซโลนาคว้าแชมป์ลา ลีกา สมัยแรกนับตั้งแต่ปี 2019 แต่ได้รับเสียงวิจารณ์มากมายว่า บาร์เซโลนาชุดนี้ไม่ผ่านครบทุกข้อของดัชนีชี้วัดผลงานหรือความสำเร็จของงาน (KPI : Key Performance Indicator) โดยเฉพาะโกปา เดล เรย์ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ในเดือนมีนาคม 2023 แม้ลูกทีมของชาบีบุกเฉือนเรอัล มาดริด 1-0 ที่ซานติอาโก เบร์นาเบว

นัดนั้น ชาบีจำเป็นต้องปรับรูปแบบการเล่นเพราะนักเตะบาดเจ็บหลายคน ส่งผลให้ทีมราชันชุดขาวครองบอลมากกว่า 60%แม้นัด 2 ที่สปอติฟาย คัมป์ นู บาร์ซาครองบอลเพิ่มขึ้นเป็น 53% แต่โดนทีมเยือนถลุงยับ 0-4

งานใหญ่ที่รอชาบีอยู่หลังจบซีซัน 2022-23 คือ การสร้างทีมบาร์เซโลนาขึ้นมาใหม่ในเวอร์ชัน 2.0 โดยแหล่งข่าวสโมสรเปิดเผยกับอีเอสพีเอ็นว่า ชาบีต้องการให้ทีมพัฒนาการครองบอลให้มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไปนับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมแทนโรนัลด์ คูมัน ในเดือนพฤศจิกายน 2021 แม้ซีซันแรก ชาบีสามารถขยับตำแหน่งบนตารางลา ลีกา จากอันดับ 9 ขณะนั้นขึ้นมาจบด้วยอันดับ 2 (แต่ตามหลังเรอัล มาดริด ถึง 13 คะแนน ส่วนซีซันที่ 2 บาร์ซาเข้าวินและอยู่ห่างคู่แข่งเอล กลาซิโก 10 คะแนน)

ชาบีเริ่มวางฐานรากให้ทีมด้วยเกมรับ

ย้อนกลับไปดูการยกเครื่องบาร์เซโลนาในตลาดซัมเมอร์ปีที่แล้ว ดูเหมือนชาบีเริ่มโฟกัสงานวางฐานรากของทีมกับแนวรับด้วยการซื้อ ฌูลส์ กุนเด และ อันเดรียส คริสเตนเซน เข้ามาเสริม ขณะที่ โรนัลด์ อาเราโฮ และ อเลฆานโดร บัลเด 2 ดาวรุ่งจากทีมสำรอง ได้กลายเป็นกำลังสำคัญของทีมชุดใหญ่ นี่เป็นโฉมหน้าใหม่ของแบ็คโฟร์ โดยผู้รักษาประตูยังเป็น มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเกน ซึ่งย้ายมาจากโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ตั้งแต่ปี 2014 ก่อนที่ อิญญิโก มาร์ติเนซ จะตามมาจากแอธเลติก บิลเบา ในตลาดซัมเมอร์ปีนี้

ซีซันที่ผ่านมา อาซูลกรานาเสียเพียง 20 ประตูในลา ลีกา ถือว่าต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรเมื่อนับเฉพาะฤดูที่เตะ 38 นัด โดยพวกเขาเฉือนชนะคู่แข่ง 1-0 ถึง 11 นัด บวกกับโชคเข้าข้างในบางนัด เกมรับพัฒนาอย่างเห็นได้ชัดเทียบกับ 3 ซีซันก่อนหน้าที่เสีย 38 ประตูต่อฤดูกาล โดยเฉพาะกุนเดที่เล่นแบ็คขวา หรืออาเราโฮในบางกรณี เอื้อประโยชน์ให้บาร์ซาปรับแผงหลังเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค 3 คนเมื่อจำเป็น

เกมรับดีขึ้นแต่เกมบุกกลับอ่อนลงแม้ได้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี และ ราฟินญา เข้ามาเสริม แต่บาร์เซโลนาทำได้เพียง 70 ประตูในเกมลีกซีซัน 2022-23 (น้อยกว่าเรอัล มาดริด 5 ประตู) นี่เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 15 ซีซันย้อนกลับไปซีซัน 2008-09 ที่กวาร์ดิโอลาคุมทีมปีแรก ที่พวกเขาทำสกอร์ต่ำกว่า 80 ประตู อีกครั้งคือซีซัน 2021-22 (68 ประตู) ซึ่งชาบีเพิ่งรับงานต่อจากคูมัน โดยช่วงดังกล่าว บาร์ซาถล่มตาข่ายทะลุหลัก 100 ถึง 7 ซีซัน

อย่างไรก็ตาม ชาบีได้ผลวิเคราะห์ออกมาว่า สิ่งที่จำเป็นต้องปรับปรุงในตลาดกลางปี 2023 คือ หาตัวแทนของ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาหลังสิ้นซีซัน 2022-23 และหาผู้เล่นที่มีความคิดสร้างสรรค์สูงสำหรับแดนกลาง แต่ด้วยข้อจำกัดทางการเงินและเงื่อนไขไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ ชาบีจำเป็นต้องลดขนาดทีมลง เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ส่งผลให้ซีซัน 2023-24 มีนักเตะเพียง 19 คนที่ลงทะเบียนในทีมชุดใหญ่ของบาร์เซโลนา แม้กระทั่ง ลามีน ยามาล (อายุ 16 ปี) และ เฟอร์มิน โลเปซ (อายุ 20 ปี) ยังถูกดึงมาใช้งาน

“กานเซโล” สร้างอิมแพ็คต่อรูปแบบการเล่น

แซม มาร์สเดน มองว่า การยืมตัว ชูเอา กานเซโล จากแมนเชสเตอร์ ซิตี ตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 เป็นตัวบ่งชี้ว่าชาบีต้องการให้รูปแบบการเล่นของบาร์ซาออกไปในรูปแบบไหน กานเซโลสามารถยืนตำแหน่งแบ็คขวา ส่วนกุนเดย้ายไปเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค 

ฟูลแบ็คโปรตุกีสสามารถเล่นริมสนามเหมือนเป็นปีก และยังตัดเข้าในเพื่อรับหน้าที่มิดฟิลด์ โดยซีซันนี้ กานเซโลพยายามเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งเฉลี่ย 3.94 ครั้งต่อ 90 นาที ประสบความสำเร็จ 68% ดีกว่ากุนโดที่ซีซันก่อนมีตัวเลข 1.11 ครั้ง และ 50% กานเซโลยังสร้างโอกาส 1.26 ครั้งต่อ 90 นาที ทำ 2 ประตู 1 แอสซิสต์จาก 7 นัด เทียบกับซีซันที่แล้วของกุนโดที่สร้างโอกาส 0.59 ครั้ง ทำ 1 ประตู 3 แอสซิสต์จาก 29 นัดบอลลีก แต่ยิ่งกว่านั้น กานเซโลส่งอิมแพ็คต่อทีมอย่างชัดเจนในพื้นที่ final third

แต่อีกด้านหนึ่งยังมีจุดที่ชาบีต้องหาสมดุลระหว่างเกมบุกและรับ บาร์เซโลนาเสียไปแล้ว 10 ประตูจาก 10 นัดในลา ลีลา ซีซันนี้ ขณะที่ซีซันที่แล้ว กว่าที่พวกเขาจะเสียประตูถึงตัวเลขนี้ต้องรอถึง 31 นัด

ยังมีข้อมูลอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ ซีซันที่แล้ว บาร์เซโลนามีค่า xGa (Expected goals against) หรือความเป็นไปได้ที่จะเสียประตูสูงถึง 33.61 แต่ที่เสียจริงเพียง 20 ประตู ส่วนหนึ่งมาจากความเหนียวของแทร์ ชเตเกน แต่ค่า xGa ซีซันนี้เพียง 9.88 เทียบกับเสียจริง 10 ประตู

“บุสเก็ตส์” อำลาสโมสรทำให้ชิ้นส่วนหายไป

ชาบีเปิดเผยว่า ตัวแปรสำคัญในตลาดซัมเมอร์คือ บาร์เซโลนาจะหาตัวแทนบุสเก็ตส์ ซึ่งตอนนี้ย้ายไปเล่นกับอินเตอร์ ไมอามี ได้ดีแค่ไหน แต่เพราะข้อจำกัดเรื่องเงิน ทีมจึงไม่สามารถซื้อเป้าหมายต้นๆอย่าง มาร์ติน ซูบิเมนดี (เรอัล โซเซียดัด) และ โจชัว คิมมิช (บาเยิร์น) แต่กลับต้องนำ โอริโอล โรเมว กลับมาหลังจากมิดฟิลด์ตัวรับวัย 31 ปี ตระเวนเล่นให้กับเชลซี, บาเลนเซีย, ซตุ๊ตการ์ท, เซาแธมป์ตัน และกีโรนา

โรเมวเริ่มซีซันได้ดีก่อนมีเครื่องหมายคำถามเมื่อการแข่งขันผ่านไปโดยเฉพาะเมื่อ เฟรงกี เดอ ยอง บาดเจ็บ โรเมวถุกมองว่าฝีเท้าต่างระดับจากมิดฟิลด์คนอื่นในทีม เดอ ยอง, เปดรี, กาบี และ อิลคาย กุนโดกัน นักวิจารณ์มองว่าบาร์เซโลนาดีขึ้นในจังหวะครองบอลเมื่อไม่มีโรเมว พิจารณาจากผลต่างประตู +17 รวมทุกรายการ เทียบกับ +1 ประตูเมื่อโรเมวลงสนาม

นั่นทำให้มีข่าวออกมาว่า ชาบีต้องการเสริม deep-lying midfielder ซึ่งการแก้ปัญหาระยะสั้น ถ้าเดอ ยอง และเปดรีกลับมาฟิตพร้อมลงสนาม สตาฟฟ์โค้ชยังต้องการให้โรเมวยืนหน้าแบ็คโฟร์ต่อไปหรือไม่

“กุนโดกัน” เผชิญงานท้าทาย creative midfielder

แม้ได้ อิลคาย กุนโดกัน ในวัย 33 ปีมาแบบฟรีๆ แต่นั่นไม่ได้ตอบโจทย์ชาบีที่ต้องการ creative midfielder แหล่งข่าววงในระบุว่า ชาบีรู้สึกถึงความจำเป็นที่ต้องมีตัวเชื่อมระหว่างแนวรับกับแนวรุกในลักษณะของ ซานติ กาซอร์ลา อดีตมิดฟิลด์อาร์เซนอล ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า แบร์นาโด ซิลวา ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงเป็นเป้าหมายของกุนซือวัย 43 ปี แต่คงยากในสภาพเงินกองคลังตอนนี้

กุนโดกันสามารถรับหน้าที่นั้นได้เช่นเดียวกับ เปดรี ซึ่งพลาดลงสนามเพราะบาดเจ็บไปแล้ว 25 นัดนับตั้งแต่ต้นซีซันที่แล้ว บาร์เซโลนาจึงต้องพึ่งพาผลงานสร้างสรรค์ในแดนกลางของกุนโดกัน เขามีสถิติ xA (expected assists) 2.35 ครั้ง อยู่อันดับ 7 ของลา ลีกา และมีจำนวน chances created 21 ครั้ง อยู่อันดับ 5 ซึ่งไม่มีเพื่อนร่วมทีมบาร์ซาคนไหนที่มีผลงานใกล้เคียงเขา เฟร์ราน ตอร์เรส และ กาบี ตามมาห่างๆที่ตัวเลข 10 ครั้งเท่ากัน ขณะที่ ชูเอา เฟลิกซ์, เลวานดอฟสกี และกานเซโล สร้างโอกาสได้คนละ 8 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม สตาฟฟ์โค้ชของชาบีมั่นใจว่า ถ้ากุนโดกันและเปดรีลงสนามด้วยกันนานขึ้น ผลงานน่าจะยกระดับเข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้

เกมรุกที่หลากหลายและเหนือการคาดเดา

แม้ปราศจาก เปดรี ดาวรุ่งวัย 20 ปี แต่การเข้ามาของ ชูเอา เฟลิกซ์ และกานเซโล ช่วยให้เกมบุกดีขึ้นผิดหูผิดตาถึงขั้นชาบียกให้เป็นฟอร์มที่ดีที่สุดของบาร์เซโลนานับตั้งแต่คุมทีม ซึ่งเขาหมายถึงการลงตัวจริง 2 นัดแรกของ 2 นักเตะโปรตุกีส ในเกมที่ชนะ 5-0 ติดต่อกันในเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบเรอัล เบตีส และรอยัล อันท์เวิร์ป

ชัยชนะดังกล่าวบ่งชี้ถึงสิ่งที่ชาบีพยายามเพิ่มเติมให้ทีมในซีซันนี้ได้แก่ ความหลากหลายและความสร้างสรรค์จากตำแหน่งแบ็คขวาของกานเซโล, การเปิดเกมรุกที่คาดเดาได้ยากของเฟลิกซ์ และความเฉลียวฉลาดของกุนโดกัน แม้ยังขาดความสม่ำเสมอแต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีของทีม

โชคร้ายที่เลวานดอฟสกีและราฟินญาบาดเจ็บ แต่กลับทำให้ชาบีค้นพบ “ความกล้าหาญ” จากนักเตะอะคาเดมี ซึ่งตรงกับคุณลักษณะของลูกทีมที่เขาต้องการคือ พร้อมเสี่ยงไปกับลูกฟุตบอล, ไม่ลังเลที่จะวิ่งเข้าหาฝ่ายตรงข้าม, พยายามผ่านบอลเข้าไประหว่างไลน์ และเล่นโดยปราศจากความกลัว

หนึ่งในตัวอย่างที่ชาบีออกปากเองคือ มาร์ก กุย ซึ่งอายุเพียง 17 ปี ลงสนามให้ชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเพียง 30 วินาที กลายเป็นคนทำประตูชัยนาทีที่ 80 ให้บาร์เซโลนาชนะแอธเลติก บิลเบา 1-0 ในบอลลีกนัดที่ 10 ของซีซัน

กุยเป็นผลผลิตล่าสุดที่ได้รับการปลูกฝังดีเอ็นเอจากศูนย์ฝึกลา มาเซีย ก่อนหน้านี้ก็คือ ยามาล ซึ่งเป็นผู้เล่นสำคัญที่ทำให้ทีมกลับมาในแมตช์กับกรานาดา และโลเปซ ซึ่งลุกจากเก้าอี้ข้างสนามเพื่อช่วยทีมในเกมกับมายอร์กา ขณะที่ กาบี (อายุ 19 ปี) และ บัลเด (อายุ 20 ปี) ต่างเป็นตัวจริงขาประจำของทีมไปแล้ว

เฟลิกซ์ ซึ่งยืมตัวจากแอตเลติโก มาดริด ตลอดซีซันนี้ มีบทบาทสำคัญอีกคนหนึ่งโดยเฉพาะในสภาวะที่บาร์เซโลนาไม่มีเลวานดอฟสกีและราฟินญาที่บาดเจ็บ ขณะที่ฟอร์มตอร์เรสยังไม่คงเส้นคงวา รวมถึง อุสมาน เดมเบเล และ อันซู ฟาติ ซึ่งย้ายออกจากสโมสร เฟลิกซ์สามารถถอยลงไปในแดนกลาง สร้างสรรค์พื้นที่ว่างและเกมรุก แม้เพิ่งทำได้ 1 ประตูจาก 7 นัดแต่มีค่า xG ถึง 3.07 กระนั้นเชื่อได้ว่าบาร์ซาสามารถคาดหวังจากแนวรุกวัย 23 ปี ได้มากกว่านี้แน่นอน

ชาบีคุมทีมบาร์เซโลนาลงสนามเกิน 100 นัดแล้ว และกำลังจะทำงานครบ 2 ปีเต็มในเดือนพฤศจิกายน 2023 แม้เพิ่งพาทีมกลับมาครองบัลลังก์ลีกสเปนได้หลังว่างเว้นมา 3 ปี แต่นั่นไม่ได้รับประกันได้เลยว่า เขาจะประสบความสำเร็จในซีซันนี้และซีซันต่อๆไป โดยเฉพาะเรอัล มาดริด ยังแสดงถึงความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการสร้างทีม “บาร์เซโลนา 2.0” จึงมีความสำคัญต่ออนาคตของสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นคาตาลูญญา

เรียบเรียง : ฐปน วันชูเพลา (Senior Football Writer) 

Categories
Column

ย้อนอดีต มองอนาคต : 5 ประเด็นที่น่าจับตา ก่อนลาลีกา รีสตาร์ท

ในช่วงที่ฟุตบอลลีกยุโรปพักเบรก แฟนฟุตบอลต่างจดจ่อกับ 64 นัดของฟุตบอลโลก ที่กาตาร์ อาจทำให้หลายคนลืมไปแล้วว่า 14 นัดแรกของลาลีกา สเปน อันดับในตารางเป็นอย่างไร

ศึกลูกหนังลีกกระทิงดุ จะกลับมาทำการแข่งขันอีกครั้งในช่วงส่งท้ายปีเก่า เริ่มตั้งแต่ 29 ธันวาคม หลังจากห่างหายไป 7 สัปดาห์ เพราะต้องหลีกทางให้เวิลด์ คัพ เช่นเดียวกับลีกอื่น ๆ ในยุโรป

เมื่อทัวร์นาเมนท์เวิลด์ คัพ สิ้นสุดลง แฟน ๆ จะได้กลับสู่การติดตามความตื่นเต้นของลีกกระทิงดุ และนี่คือ 5 ประเด็นสำคัญ จาก 14 นัดที่ผ่านมา และช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้

⚽️ “บาร์ซ่า-ชุดขาว” ผู้ท้าชิงแชมป์ในซีซั่นนี้

บาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด ถูกมองว่าเป็น 2 ทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้มากที่สุด ตอนนี้ทั้งคู่แพ้แค่ทีมละ 1 นัด และมีคะแนนห่างกันแค่ 2 แต้มเท่านั้น (บาร์เซโลน่า 37, เรอัล มาดริด 35)

บาร์ซ่า เปิดซีซั่นด้วยการเสมอราโย บาเยกาโน่ 0 – 0 หลังจากนั้นชนะ 7 นัดรวด ก่อนจะแพ้นัดสำคัญในเกม “เอล กลาซิโก้” กับเรอัล มาดริด 1 – 3 แต่ก็กลับมาชนะ 5 นัดติดต่อกัน ก่อนลีกหยุดพัก

ด้านราชันชุดขาว เริ่มต้นได้สวยงาม ชนะ 10 จาก 11 นัดแรกของซีซั่น แต่อีก 3 นัดหลังจากนั้น เก็บคะแนนเพิ่มได้แค่ 4 แต้ม หนึ่งในนั้นคือการบุกไปแพ้ทีมฟอร์มแรงอย่างราโย บาเยกาโน่ 2 – 3

บาร์เซโลน่า หวังจะกลับมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดให้ได้ นับจากปี 2019 แนวรับของพวกเขาทำได้ดีขึ้นมาก เสียไปเพียง 5 ประตู และเก็บคลีนชีตถึง 11 จาก 14 นัดแรก ส่วนแนวรุกได้อาวุธหนักอย่างโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ยิงไปแล้ว 13 ลูก

อย่างไรก็ตาม เรอัล มาดริด ก็ตั้งเป้าที่จะป้องกันแชมป์ให้ได้อีกครั้ง ความน่าสนใจอยู่ที่ขุมกำลังเชิงลึก นักเตะอย่างเฟเดริโก บัลเบร์เด้ และโรดริโก้ สามารถก้าวขึ้นมาทดแทนการขาดหายไปของคาริม เบนเซม่า ที่ลงเล่นไปแค่ 7 นัดเท่านั้น

⚽️ 2 คู่ปรับแคว้นบาสก์ ขึ้นมาอยู่ในพื้นที่ UCL

ขอบคุณภาพ https://www.facebook.com/RealSociedadFutbol

เรอัล โซเซียดัด และแอธเลติก บิลเบา 2 สโมสรร่วมแคว้นบาสก์ ลุ้นโควตาแชมเปี้ยนส์ ลีก เต็มตัว อยู่ในอันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ และมีคะแนนห่างกันเพียง 2 แต้ม (โซเซียดัด 26, บิลเบา 24)

อิมานอล อัลกูอาซิล ที่เพิ่งต่อสัญญาคุมทีมโซเซียดัดออกไปจนถึงปี 2025 ทำผลงานได้ดีอย่างเหลือเชื่อ แม้จะไม่มี 2 ดาวยิงตัวเก่ง มิเกล โอยาซาบัล และอูมาร์ ซาดิค ที่ต่างได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นไขว้เข่า (ACL) ฉีกขาด ต้องพักยาวทั้งคู่

ขณะที่เอร์เนสโต บัลเบร์เด้ ที่กลับมาคุมบิลเบาเป็นรอบที่ 3 ออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ได้ดีที่สุด นับตั้งแต่ฤดูกาล 2013/14 ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม ส่วนหนึ่งมาจาก 2 พี่น้อง อินากิ และนิโก้ วิลเลี่ยมส์ ที่ยิงรวมกัน 8 ประตู กับ 5 แอสซิสต์

และด้วยคะแนนของทั้งคู่ที่ห่างกันเพียง 2 แต้ม ทำให้เกม “บาสก์ ดาร์บี้” นัดแรกของซีซั่น ที่บ้านของโซเซียดัด ในวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2023 ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

⚽️ “ราโยฯ” ผู้ไม่แพ้ยักษ์ใหญ่ในครึ่งซีซั่นแรก

อันโดนี่ อิราโอล่า กุนซือราโย บาเยกาโน่ ยังคงสร้างมาตรฐานช่วงเริ่มต้นฤดูกาลได้ดี เช่นเดียวกับเมื่อฤดูกาลที่แล้ว นักเตะอย่าง ฟลอร็อง เลอเฌอยูน, อัลบาโร่ การ์เซีย และอิซี่ ปาลาซอน ยิงไปแล้วคนละ 3 ประตู

จุดแข็งของบาเยกาโน่ในซีซั่นนี้ คือผลงานการพบกับทีมบิ๊ก 4 ที่ไม่แพ้ใครเลย บุกไปเยือนบาร์เซโลน่า, แอตเลติโก้ มาดริด และเซบีย่า เก็บได้ 5 คะแนน แถมยังเป็นทีมเดียวที่ชนะเรอัล มาดริด แชมป์เก่าจากซีซั่นที่แล้ว

ผลงานยามเล่นในบ้าน ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ช่วยให้บาเยกาโน่ มีแต้มตามหลังท็อปโฟร์แค่ 2 แต้มในเวลานี้ โดยมีสถิติชนะ 4 เสมอ 2 แพ้แค่นัดเดียว ให้กับเรอัล มายอร์ก้า ทีมที่ฟอร์มดีเช่นเดียวกัน

และที่สำคัญ “เดอะ เรด แซซ” กำลังจะได้ตัวราอูล เด โทมัส กองหน้าตัวเก่งชาวสเปน วัย 28 ปี จากเอสปันญ่อล มาเสริมความคมในเดือนมกราคมนี้ เพื่อหวังพาทีมบรรลุเป้าหมายเมื่อจบซีซั่น

⚽️  “เซบีย่า” หวังคืนฟอร์มในช่วงที่เหลือของซีซั่น

14 เกมแรกของเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เซบีย่า มีแต้มตามหลังจ่าฝูงแค่ 4 แต้ม แต่ในช่วงเดียวกันของซีซั่นนี้ สถานการณ์กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เพราะพวกเขาอยู่ในโซนตกชั้น มีแค่ 11 คะแนนเท่านั้น

ด้วยผลงานการออกสตาร์ทซีซั่นที่ย่ำแย่ ทำให้กุนซือฆูเลน โลเปเตกี ถูกปลดออกจากตำแหน่ง จากนั้นได้แต่งตั้งฮอร์เก้ ซามเปาลี กลับมาคุมทีมอีกครั้ง นับตั้งแต่ปี 2017 เพื่อนำพาสโมสรพ้นจากวิกฤตให้ได้

อดีตเฮดโค้ชทีมชาติชิลี และอาร์เจนติน่า วัย 62 ปี มีงานให้ทำอีกมากในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้ ทั้งการหาผู้เล่นใหม่ในช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคม และการนำฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมกลับคืนมาให้เร็วที่สุด

⚽️ เอลเช่ เปลี่ยนโค้ชครั้งที่ 3 หวังหลุดอันดับบ๊วย

เอลเช่ ทีมอันดับสุดท้ายของตาราง มีการเปลี่ยนแปลงเฮดโค้ช โดยได้ปาโบล มาชิน ที่เข้ามารับตำแหน่งช่วงพักเบรกฟุตบอลโลก และเป็นกุนซือคนที่ 3 ในฤดูกาลนี้ ต่อจากฟรานซิสโก้ และฮอร์เก้ อัลมิรอน

ในเวลานี้ เอลเช่ เป็นทีมเดียวในลีกสูงสุดที่ยังไม่ชนะใคร มีแค่ 4 แต้ม ตามหลังโซนปลอดภัยถึง 8 คะแนน โดยมาชิน จะประเดิมคุมทีมในศึกลาลีกา เจองานหนักอย่างแอตเลติโก้ มาดริด วันที่ 29 ธันวาคมนี้

หลังผ่านไป 14 นัด นอกเหนือจากการลุ้นแชมป์ที่เข้มข้นแล้ว การลุ้นพื้นที่โควต้ายุโรป ก็สนุกไม่แพ้กัน เพราะคะแนนเบียดกันสูสีมาก รวมถึงการลุ้นหนีตกชั้น ทีมอันดับ 11 มีแต้มมากกว่าโซนสีแดงแค่ 8 แต้มเท่านั้น

ด้วยเส้นทางในฤดูกาลนี้ที่ยังเหลืออีกพอสมควร ทุกสถานการณ์บนตารางคะแนนล้วนน่าตื่นเต้นทั้งสิ้น ทำให้อันดับมีโอกาสเปลี่ยนแปลงแบบนัดต่อนัด หากพลาดติดกันหลาย ๆ เกม ก็มีสิทธิ์น้ำตาตกได้เช่นกัน

Categories
Column

10 นักเตะลาลีกา คว้าแชมป์โลก 2022 กับ “ฟ้า-ขาว”

นักฟุตบอลในลาลีกา สเปน 83 คน ที่มีชื่อติดทีมเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ต่างได้ร่วมกันสร้างสีสันให้กับแฟนบอลทั่วโลกตลอด 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงชนะเลิศ ที่เพิ่งจบลงไป ถือเป็นหนึ่งในแมตช์ที่น่าจดจำที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะเต็มไปด้วยคุณภาพ รวมถึงเหตุการณ์ดราม่าสุดระทึกตลอดทั้งเกม

ท้ายที่สุดเป็นทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่ดวลจุดโทษเอาชนะทีมชาติฝรั่งเศส 4 – 2 หลังเสมอกัน 3 – 3 ใน 120 นาที คว้าแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 3 ยุติการรอคอยโทรฟี่ฟุตบอลโลกไว้ที่ 36 ปี

⚽️ อาร์เจนติน่า กับ 10 ผู้เล่นจากลีกสเปน

ในบรรดาผู้เล่นอาร์เจนติน่า 10 คน ที่ค้าแข้งอยู่ในลาลีกา มีเพียง เกโรนิโม รุลลี ผู้รักษาประตูมือ 3 คนเดียวเท่านั้น ที่ไม่ได้ลงเล่นเลยในเวิลด์ คัพ ที่กาตาร์ ส่วนผู้เล่นคนอื่นๆ ต่างก็มีส่วนร่วมในความสำเร็จครั้งนี้

ยกตัวอย่างเช่น โรดริโก เด ปอล กองกลางจากแอตเลติโก มาดริด ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญในแผงมิดฟิลด์ โดยเป็นผู้เปิดทางให้ลิโอเนล เมสซี่ เล่นเกมรุกได้อย่างอิสระ ซึ่งในนัดชิงชนะเลิศ เขาเรียกฟาวล์ได้มากถึง 6 ครั้ง

นาฮูเอล โมลินา แบ็กขวาเพื่อนร่วมสโมสรเดียวกับเด ปอล ที่ลงเล่นครบทุกนัด และยิง 1 ประตู ในเกมที่พบกับเนเธอร์เลนด์ ส่วนกอนซาโล่ มอนเทียล จากเซบีย่า ที่ลงเล่นเป็นตัวสำรองของโมลินาในตำแหน่งเดียวกัน

สำหรับกอนซาโล่ มอนเทียล แบ็กขวาวัย 26 ปี เขาคือผู้ยิงจุดโทษคนที่ 4 ให้กับ “ฟ้า-ขาว” ซึ่งถ้าหากยิงเข้า เกมจบทันที และเจ้าตัวได้ยิงไปทางซ้ายมือของตัวเองเข้าประตูไป โดยที่อูโก้ โยริส พุ่งผิดทาง คว้าแชมป์ในที่สุด

⚽️ รายชื่อผู้เล่นจากลาลีกา ที่อยู่ในทีมชาติอาร์เจนติน่า ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

✅ แอตเลติโก้ มาดริด : นาฮูเอล โมลินา, โรดริโก เด ปอล, อังเคล กอร์เรอา

✅ เซบีย่า : กอนซาโล่ มอนเทรียล, มาร์กอส อาคูญา, อเลฮานโดร ปาปู โกเมซ

✅ เรอัล เบติส : เจอร์มัน เปซเซลล่า, กุยโด โรดริเกซ

✅ บียาร์เรอัล :  ฮวน ฟอยธ์, เกโรนิโม รุลลี

⚽️ 5 แข้งฝรั่งเศส รองแชมป์ที่น่าภาคภูมิใจ

น่าเสียดายสำหรับฝรั่งเศส ที่ไม่สามารถป้องกันแชมป์โลกได้สำเร็จ แต่อย่างน้อยที่สุดก็สู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ฌูลส์ กุนเด้, อองตวน กรีซมันน์ ออเรเลียง ชูอาเมนี่ รวมถึงอุสมาน เดมเบเล่ ต่างออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในนัดชิงชนะเลิศ และต้องไม่ลืมเอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า ตัวสำรองที่ช่วยพลิกเกมในช่วงครึ่งหลัง แม้จะได้ลงเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ไม่ถนัดก็ตาม

⚽️ “โมดริช” ที่ 3 กับโครเอเชีย และ Bronze Ball

นักเตะลาลีกา ชุดคว้าที่ 3 กับทีมชาติโครเอเชีย ในเวิลด์คัพ ครั้งนี้ นำโดย ลูก้า โมดริช กัปตันทีมวัย 37 ปี ที่คว้ารางวัล Bronze Ball หรือนักเตะยอดเยี่ยมอันดับ 3 ประจำการแข่งขัน ร่วมด้วยอิโว กรูบิช, และอันเต้ บูดิเมียร์

⚽️ “โบโน & เอ็น-เนซีรี” ช่วยสร้างตำนานให้โมร็อกโก

โมร็อกโก สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกจากทวีปแอฟริกา ที่คว้าอันดับ 4 เวิลด์ คัพ ต้องให้เครดิตยาสซีน บูนู ผู้รักษาประตูจอมหนึบ, ยูสเซฟ เอ็น-เนซีรี กับ 2 ประตูในทัวร์นาเมนท์นี้, จาวาด เอล-ยามิค และเอเซ อเบเด้

สรุปผลงานของผู้เล่นจากลาลีกา มีนักเตะที่อยู่ใน 3 อันดับแรก ของฟุตบอลโลก ครั้งล่าสุด รวมทั้งสิ้น 18 คน มาจาก 7 สโมสร ประกอบด้วย เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, แอตเลติโก้ มาดริด, เซบีย่า, เรอัล เบติส บียาร์เรอัล และโอซาซูน่า

เป็นอันว่า นักเตะทั้ง 83 คน จากลีกสูงสุดของสเปน ได้เสร็จสิ้นภารกิจในฟุตบอลโลก 2022 เป็นที่เรียบร้อย และจะกลับมาเตรียมความพร้อมสำหรับลาลีกา ที่จะกลับมารีสตาร์ทอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์หน้า

Categories
Column

5 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้ของ “เอ็นดริค” ว่าที่แข้งใหม่ราชันชุดขาว

ภาพจำในอดีตของเรอัล มาดริด คือการซื้อนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์มาร่วมทีม จนได้สมญานามว่า “กาลาติกอส” แต่ในระยะหลัง ๆ ได้เริ่มมองหานักเตะดาวรุ่งอายุน้อยฝีเท้าดีมากขึ้นเรื่อย ๆ

เรอัล มาดริด สโมสรในลาลีกา สเปน ประกาศคว้าตัว เอ็นดริค ดาวรุ่งชาวบราซิลวัย 16 ปี จากพัลไมรัส โดยเซ็นสัญญาล่วงหน้าเกือบ 2 ปี ก่อนย้ายทีมอย่างเป็นทางการในช่วงซัมเมอร์ปี 2024

ยักษ์ใหญ่จากเมืองหลวง มองเห็นถึงศักยภาพของเอ็นดริค จึงตัดสินใจลงทุนสำหรับดีลดังกล่าว และนี่คือ 5 เรื่องราวที่หลายคนอาจยังไม่รู้ ของว่าที่สตาร์คนใหม่ “ราชันชุดขาว” รายนี้

⚽️ ได้ย้ายมาอยู่พัลไมรัส เพราะยูทูบ

เอ็นดริค เฟลิเป้ โมไรร่า เด ซูซ่า ไม่ได้เป็นที่จับตามองของทีมยักษ์ใหญ่ในตอนแรก แต่เมื่อพ่อของเขาได้แชร์คลิปทักษะการเล่นฟุตบอลของลูกชายบนยูทูบ แล้วไปเข้าตาแมวมองของพัลไมรัส ทางสโมสรจึงได้เสนอที่อยู่ให้ครอบครัวของเอ็นดริค ได้อาศัยในเซา เปาโล และช่วยพ่อของเขาหางานทำ ด้วยการเป็นพนักงานทำความสะอาด

⚽️ เคยมีสปอนเซอร์เป็นบริษัททันตกรรม

เอ็นดริค เคยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทด้านทันตกรรมแห่งหนึ่ง เนื่องจากพ่อของเขาประสบอุบัติเหตุ สูญเสียฟันไปหลายซี่ ทำให้ไม่สามารถทานอาหารแข็งได้ ต้องทานอาหารเหลวเท่านั้น และบริษัทดังกล่าวได้จ่ายค่ารักษาทางทันตกรรมให้ทั้งหมด ทำให้ครอบครัวของเขารู้สึกยินดีสำหรับการช่วยเหลือในครั้งนั้น

⚽️ ทุบสถิติอายุน้อยสุดกับพัลไมรัส

นับตั้งแต่เอ็นดริค ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของพัลไมรัส เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เขาได้สร้างสถิติใหม่ให้กับสโมสร โดยเป็นนักเตะอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ ที่ประเดิมลงเล่นนัดแรกให้กับทีมซีเนียร์ ด้วยวัย 16 ปี 2 เดือน และยังเป็นนักเตะอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ ที่ยิงประตูแรกให้กับทีมซีเนียร์ ด้วยวัย 16 ปี 3 เดือน 4 วัน

⚽️ แบกอายุ 4 ปี ติดทีมชาติชุดยู-20

เอ็นดริค ถูกเรียกติดทีมชาติบราซิล ในการแข่งขันฟุตบอลโคปา อเมริกา รุ่น ยู-20 ที่ประเทศโคลอมเบีย ระหว่างวันที่ 19 มกราคม ถึง 12 กุมภาพันธ์ 2023 นั่นหมายความว่า ต้องแบกอายุถึง 4 ปี ในการลงเล่นทัวร์นาเมนท์ดังกล่าว โดยเขาเคยประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ฟุตบอลรุ่น ยู-16 และเป็นดาวซัลโวด้วย

⚽️ มี “คริสเตียโน่ โรนัลโด” เป็นไอดอล

เมื่อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายมาร่วมทีมเรอัล มาดริด ในปี 2009 เอ็นดริคมีอายุเพียง 3 ขวบเท่านั้น และเติบโตไปพร้อมกับการได้ชมความเก่งกาจของซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกส เขารู้สึกประทับใจกับผลงานของโรนัลโด้เป็นอย่างมาก จึงยกให้อดีตดาวเตะราชันชุดขาวรายนี้ เป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดในการเล่นฟุตบอล

การที่เรอัล มาดริด ตัดสินใจซื้ออนาคต ในการเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับเอ็นดริค ถือเป็นความเสี่ยงที่พวกเขาได้พิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ต้องรอดูว่าการเสี่ยงในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร

Categories
Column

“กาดิซ” อุ่นแข้งดวลทีมพรีเมียร์ลีก ก่อนลาลีการีสตาร์ท

กาดิซ สโมสรจากลาลีกา สเปน เปิดสนามเอสตาดิโอ นูเอโว มิรันดิลลา เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมพรีเมียร์ลีก 4 – 2 ในเกมอุ่นเครื่องช่วงฟุตบอลโลก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

นับตั้งแต่ปี 1955 จนถึงปัจจุบัน สนามเอสตาดิโอ นูเอโว มิรันดิลลา ได้ใช้จัดเกมอุ่นเครื่องพรี-ซีซั่น ในรายการ “ราม่อน เด การ์รันซ่า โทรฟี่” โดยเชิญสโมสรชื่อดังจากทั่วโลกมาแข่งขันด้วย

นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของทั้งกาดิซ และแมนฯ ยูไนเต็ด โดยก่อนหน้านี้ ผู้มาเยือนจากอังกฤษ เคยพบกับสโมสรจากสเปน ทั้งเกมกระชับมิตรช่วงซัมเมอร์นี้ 2 นัด และฟุตบอลถ้วยยุโรป อีก 2 นัด

เกมพรี-ซีซั่น 2022/23 ยูไนเต็ด แพ้แอตเลติโก้ มาดริด 0 – 1 และเสมอราโย บาเยกาโน่ 1 – 1 นอกจากนี้ พวกเขายังพบกับเรอัล โซเซียดัด ในยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ต่างฝ่ายต่างเอาชนะในเกมเยือนด้วยสกอร์ 1 – 0

เอริค เทน ฮาก กุนซือ “ปิศาจแดง” ลงคุมทีมเป็นนัดแรกโดยที่ไม่มีคริสเตียโน่ โรนัลโด้ อดีตดาวเตะเรอัล มาดริด แต่ยังมีนักเตะคนอื่น ๆ ได้แก่ มาร์ติน ดูบราฟก้า, อองโตนี่ มาร์กซิยาล, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เป็นต้น

ขณะที่กาดิซ นำโดย 2 อดีตกองหน้าพรีเมียร์ลีก ทั้งอัลบาโร่ เนเกรโด้ ที่เคยค้าแข้งให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมคู่ปรับร่วมเมือง รวมถึงลูคัส เปเรซ ที่เคยลงเล่นให้กับอาร์เซน่อล และเวสต์แฮม ยูไนเต็ด มีชื่อเป็นสำรอง

เจ้าถิ่นออกนำ 2 – 0 ภายใน 15 นาทีแรก จากคาร์ลอส การ์เซีย-ดาย และแอนโธนี่ โลซาโน่ ก่อนที่อองโตนี่ มาร์กซิยาล จะยิงตีไข่แตกให้แมนฯ ยูไนเต็ดไล่ตามมาเป็น 1 – 2 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

เริ่มครึ่งหลังได้เพียง 3 นาที แมนฯ ยูไนเต็ดตีเสมอเป็น 2 – 2 จากค็อบบี้ ไมนู มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 17 ปี อย่างไรก็ตาม กาดิช มายิงเพิ่มอีก 2 ประตู จากรูเบน โซบริโน่ และปิดท้ายด้วยผลงานของโทมัส อลาร์คอน

เกมอุ่นเครื่องนัดต่อไปของกาดิซ คือการพบกับวูล์ฟแฮมตัน อีกหนึ่งทีมจากอังกฤษ ในช่วงกลางสัปดาห์หน้า ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะพบกับเรอัล เบติส ในวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคมนี้

Categories
Column

สำรวจแข้งลาลีกา ที่ยังอยู่รอดใน “เวิลด์ คัพ 2022”

บรรดานักเตะที่มีโอกาสลงเล่นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ต่างพร้อมที่จะโชว์ฝีเท้าอันน่าตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนบอลทั่วโลกได้เห็น สมกับเป็นตัวแทนของทีมชาติ และลีกฟุตบอลของแต่ละประเทศด้วย

ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ได้ 8 ทีมสุดท้าย ที่ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์เป็นที่เรียบร้อย โดยลาลีกา สเปน เป็นลีกลูกหนังที่มีจำนวนผู้เล่นเหลืออยู่มากที่สุดเป็นอันดับ 2 จาก 5 ลีกใหญ่ยุโรป

จาก 83 คนในรอบแรก เหลืออีกเกือบ 60 คน ในรอบที่สอง และหลังจากการแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเสร็จสิ้นลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีนักเตะที่ยังอยู่ในการแข่งขันทั้งหมด 32 คน จาก 8 สโมสร

ลาลีกา เป็นลีกที่มีนักเตะเหลืออยู่ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเวิลด์ คัพ ปีนี้ มากสุดเป็นอันดับ 2 เป็นรองเพียงแค่พรีเมียร์ลีก (64 คน) และมากกว่าอีก 3 ลีกใหญ่ยุโรปที่เหลือ (เซเรีย อา, ลีกเอิง, บุนเดสลีกา)

และถ้ามองในด้านการถูกคัดออกจากทัวร์นาเมท์ ลีกสเปนก็ยังครองอันดับ 2 ที่สูญเสียนักเตะจากการตกรอบน้อยที่สุด โดยคิดเป็น -61.4 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนนักเตะเดิมทั้งหมดก่อนเริ่มการแข่งขัน

โดยลีกที่เสียนักเตะน้อยที่สุด คือ พรีเมียร์ลีก (-52.2 เปอร์เซ็นต์) ส่วนอีก 3 ลีกใหญ่ยุโรปที่เหลือ ได้แก่เซเรีย อา (-63.9 เปอร์เซ็นต์), ลีก เอิง (-64.8 เปอร์เซ็นต์) และบุนเดสลีกา (-76.3 เปอร์เซ็นต์)

“เราภูมิใจที่ผู้เล่นชั้นนำมากมายจากลีกของเรา ยังอยู่ในการแข่งขันฟุตบอลโลกจนถึงช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้ เรามั่นใจว่าสิ่งนี้จะคงอยู่ต่อไปจนจบการแข่งขัน” ฆาเบียร์ เตบาส ประธานลาลีกา กล่าว

สำหรับนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 จะมีขึ้นที่สนามลูเซล สเตเดี้ยม ในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม ต้องมาติดตามกันว่า จะมีนักเตะจากลาลีกา สเปน คว้าแชมป์กลับไปหรือไม่

⚽️ รายชื่อผู้เล่นจากลาลีกา ในฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย

👉 โครเอเชีย : อิโว เกอร์บิช (แอตเลติโก มาดริด), ลูก้า โมดริช (เรอัล มาดริด), อันเต้ บูดิเมียร์ (โอซาซูน่า)

👉 บราซิล : เอแดร์ มิลิเตา (เรอัล มาดริด), อเล็กซ์ เตลเลส (เซบีย่า), วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด), ราฟินญา (บาร์เซโลน่า), โรดริโก (เรอัล มาดริด)

👉 เนเธอร์แลนด์ : แฟรงกี้ เดอ ยอง (บาร์เซโลน่า), เมมฟิส เดปาย (บาร์เซโลน่า)

👉 อาร์เจนตินา : เกโรนิโม รุลลี (บียาร์เรอัล), นาฮูเอล โมลินา (แอตเลติโก มาดริด), กอนซาโล่ มอนเทรียล (เซบีย่า), เจอร์มัน เปซเซลล่า (เรอัล เบติส), มาร์กอส อาคูญา (เซบีย่า), ฮวน ฟอยธ์ (บียาร์เรอัล), โรดริโก เด ปอล (แอตเลติโก มาดริด), กุยโด โรดริเกซ (เรอัล เบติส), อเลฮานโดร ปาปู โกเมซ (เซบีย่า), อังเคล กอร์เรอา (แอตเลติโก มาดริด)

👉 โมร็อกโก : ยาสซีน โบโน่ (เซบีย่า), จาวาด เอล-ยามิค (เรอัล บายาโดลิด), ยูสเซฟ เอ็น-เนซีรี (เซบีย่า), เอเซ อเบเด้ (โอซาซูน่า)

👉 โปรตุเกส : วิลเลียม คาร์วัลโญ่ (เรอัล เบติส), เจา เฟลิกซ์ (แอตเลติโก มาดริด)

👉 ฝรั่งเศส : ฌูลส์ กุนเด้ (บาร์เซโลน่า), เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า (เรอัล มาดริด), ออเรเลียง ชูอาเมนี่ (เรอัล มาดริด), อุสมาน เดมเบเล่ (บาร์เซโลน่า), อองตวน กรีซมันน์ (แอตเลติโก มาดริด), คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด)

Categories
Column

อเลฮานโดร บัลเด้ : แข้งดาวรุ่ง “กระทิงดุ” ลุยเวิลด์ คัพ 2022

ศูนย์ฝึกฟุตบอล “ลา มาเซีย” ตำนานอคาเดมี่ผู้สร้างสุดยอดนักเตะพรสวรรค์ให้กับบาร์เซโลน่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และล่าสุดได้ค้นพบดาวรุ่งดวงใหม่อีกดวงแล้ว นั่นคือ อเลฮานโดร บัลเด้

แบ็กซ้ายดาวรุ่งพุ่งแรงวัย 19 ปี ถูกเรียกติดทีมชาติสเปน ชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ แทนที่ของโฆเซ่ กาย่า แบ็กซ้ายกัปตันทีมบาเลนเซีย วัย 27 ปี ที่ถอนตัวออกไป เนื่องจากเจ็บที่ข้อเท้า

ถือเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง หลังได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้นในยุคของกุนซือซาบี้ เอร์นานเดซ จนก้าวสู่การได้รับโอกาสสำคัญของชีวิต ในการติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก

บัลเด้ เป็นชาวคาตาลันโดยกำเนิด และได้เข้ามาเรียนรู้วิชาลูกหนังกับศูนย์ฝึก “ลา มาเซีย” ของบาร์เซโลน่า ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ บ่มเพาะฝีเท้าจนได้เลื่อนขึ้นมาอยู่ทีมสำรองของสโมสร ในปี 2020

ช่วงต้นฤดูกาล 2021/22 บัลเด้ได้โอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่ของบาร์ซ่า ภายใต้การคุมทีมของโรนัลด์ คูมันอยู่ 3 นัด แต่เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอด ทำให้สภาพความฟิตไม่เต็มที่

จนกระทั่งเข้าสู่ยุคของซาบี้ เอร์นานเดซ เทรนเนอร์คนปัจจุบัน บัลเด้ยังได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า พักยาว 2 เดือน ทำให้ตลอดซีซั่นที่แล้ว เขาได้ลงสนามกับทีมชุดใหญ่รวมทุกรายการแค่ 7 นัดเท่านั้น

ก่อนเปิดฤดูกาล 2022/23 ซาบี้ ให้สัมภาษณ์ว่า “บัลเด้คือส่วนหนึ่งในแผนการทำทีม เพราะมีช่วงพรี-ซีซั่นที่ดีมาก แม้ตอนนี้อายุจะยังน้อย แต่เขาจะเป็นตัวแทนของฆอร์ดี้ อัลบาในอนาคตอย่างแน่นอน”

ขอบคุณภาพ https://www.facebook.com/fcbarcelona

เกมลาลีกา นัดที่ 2 ของซีซั่นใหม่ บาร์เซโลน่า บุกไปเยือนเรอัล โซเซียดัด ซาบี้ตัดสินใจส่งบัลเด้ ลงเป็น 11 ตัวจริง ถึงแม้ว่าฆอร์ดี้ อัลบา แบ็กซ้ายตัวจริง จะฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามก็ตาม

และเหตุการณ์สำคัญของเกมดังกล่าว เกิดขึ้นหลังเริ่มเกมแค่ 45 วินาทีแรก บัลเด้วิ่งตะลุยเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายบอลให้โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ สังหารเป็นประตูขึ้นนำ 1 – 0 ก่อนที่บาร์ซ่าจะชนะ 4 – 1

ต่อจากนั้น ในเกมนัดล่าสุด ที่ “เจ้าบุญทุ่ม” เปิดบ้านถล่มเรอัล บายาโดลิด 4 – 0 บัลเด้ได้ลงสนามครบ 90 นาทีเต็มเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนครึ่ง หรือนับตั้งแต่นัดที่พบกับเกตาเฟ่ เมื่อช่วงปลายซีซั่นที่แล้ว

ถึงแม้ว่าบัลเด้จะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนมาตลอดฤดูกาล 2021/22 แต่อย่างน้อยที่สุด เจ้าตัวก็มีรายชื่อติด 60 คนสุดท้าย ที่ได้รับการเสนอชื่อลุ้นรางวัล “โกลเด้น บอย อวอร์ด” ในปีนี้

สำหรับรางวัลโกลเด้น บอย อวอร์ด จัดโดย “ตุ๊ดโต้สปอร์ต” สื่อกีฬาของอิตาลี เป็นรางวัลที่มอบให้กับนักฟุตบอลอายุไม่เกิน 21 ปี ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในลีกสูงสุดของยุโรป ในหนึ่งรอบปีปฏิทิน

และล่าสุด ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของกลุ่ม E ที่สเปน ถล่มคอสตาริกา 7 – 0 เมื่อวันพุธที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บัลเด้ ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนฆอร์ดี้ อัลบา ในนาทีที่ 64

เวลานี้ อเลฮานโดร บัลเด้ ยังคงเป็นตัวสำรองของฆอร์ดี้ อัลบา ไปก่อน และต้องทำงานหนักอีกมาก เพื่อเก็บประสบการณ์สำหรับการขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่อย่างสม่ำเสมอในอนาคต

Categories
Column

“มายอร์ก้า – บาเยกาโน่” แจ็คผู้ฆ่ายักษ์แห่งลาลีกา

ความคลาสสิกอย่างหนึ่งในการแข่งขันฟุตบอล คือ ทีมที่เป็นรอง สามารถพลิกล็อกเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่ หรือทีมบิ๊กเนมได้ และในทุก ๆ ฤดูกาลของฟุตบอลลีก ก็จะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอยู่เสมอ

สำหรับลูกหนังลีกกระทิงดุ ในช่วงไม่กี่ปีหลัง มีความสูสีกันมากขึ้น ทีมขนาดกลางสามารถยกระดับสู้กับทีมกลุ่มบนได้ไม่เป็นรอง และมีโอกาสจะเกิดเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายได้ทุกเมื่อ

ฟุตบอลลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2022/23 ผ่านไปแล้ว 14 นัด ก่อนหยุดพักเพื่อหลีกทางให้ฟุตบอลโลก ที่ประเทศกาตาร์ ประมาณ 1 เดือนครึ่ง และกลับมาแข่งขันอีกครั้งในช่วงส่งท้ายปี

นับตั้งแต่เปิดซีซั่น มีทีมที่อยู่นอกสายตาแต่ทำผลงานได้ดี นั่นคือราโย บาเยกาโน่ และเรอัล มายอร์ก้า ที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในช่วงหลัง ๆ จนมีแต้มขยับเข้าใกล้โซนลุ้นพื้นที่โควตายุโรป

เมื่อพิจารณาผลงานในช่วง 1 เดือนสุดท้าย ที่ลงเล่นทั้งหมด 6 นัด ก่อนพักเบรกช่วงเวิลด์ คัพ จะพบว่า บาเยกาโน่ กับมายอร์ก้า ได้สร้างเซอร์ไพรส์ เอาชนะทีมที่ชื่อชั้นเหนือกว่าอยู่หลายนัด

เริ่มจาก 6 นัดหลังสุดของราโย บาเยกาโน่ ชนะ 3 เสมอ 3 เก็บได้ 12 คะแนน ในจำนวนนี้คือการลัมยักษ์อย่างเรอัล มาดริด ด้วยสกอร์ 3 – 2, บุกไปชนะเซบีย่า 1 – 0 และบุกไปตีเสมอแอตเลติโก้ มาดริด 1 – 1

ก่อนหน้านี้ในนัดเปิดซีซั่น บุกไปยันเสมอบาร์เซโลน่า ถึงสปอติฟาย คัมป์ นู 0 – 0 นั่นหมายความว่าในครึ่งซีซั่นแรก บาเยกาโน่ ไม่แพ้ทีม “บิ๊ก 4” และเป็นทีมเดียวที่เอาชนะ “แชมป์เก่า” เมื่อซีซั่นที่แล้วได้

ผลงานยามเล่นในบ้าน ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ช่วยให้ “เดอะ เรด แซซ” มีแต้มตามหลังท็อปโฟร์แค่ 2 แต้มในเวลานี้ โดยมีสถิติชนะ 4 เสมอ 2 แพ้แค่นัดเดียว ให้กับเรอัล มายอร์ก้า ทีมที่ฟอร์มดีเช่นเดียวกัน

ทีมของกุนซืออันโดนี่ อิราโอล่า มีนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดีหลายคน อาทิเช่น ฟลอร็อง เลอเฌอยูน เซ็นเตอร์แบ็กฝรั่งเศส, อัลบาโร่ การ์เซีย และอิซี่ ปาลาซอน 2 ปีกตัวเก่ง ทั้ง 3 คนนี้ ยิงไปแล้วคนละ 3 ประตู

ขณะที่ 6 นัดหลังสุดของเรอัล มายอร์ก้า เริ่มจากแพ้เซบีย่า กับเรอัล โซเซียดัด แต่อีก 4 นัดหลังจากนั้นไม่แพ้ใคร แถมโค่นทีมดังอย่างบาเลนเซีย ด้วยสกอร์ 2 – 1, ชนะบียาร์เรอัล 2 – 0 และชนะแอตฯ มาดริด 1 – 0

ปัจจัยที่ทำให้ “เดอะ เวอร์มิลเลียน” เก็บแต้มได้มาก จนขึ้นมาอยู่กลางตาราง คือแท็กติกของกุนซือฮาเวียร์ อากีร์เร่ ที่เล่นเกมรับเหนียวไว้ก่อน จนเสียไปเพียงแค่ 13 ประตู น้อยสุดเป็นอันดับที่ 4 ของลีก

นอกจากนี้ เกมรุกยังได้ทีเด็ดของเวดัด มูริกี ดาวยิงชาวโคโซโว วัย 28 ปี ที่ย้ายมาจากลาซิโอ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ยิงประตูติดต่อกันใน 5 นัดหลังสุด ซึ่งยอดรวมในเวลานี้ เขาทำได้ 8 ประตู

ราโย บาเยกาโน่ และเรอัล มายอร์ก้า หวังที่จะรักษาโมเมนตัมที่กำลังดีแบบนี้ไปเรื่อยๆ น่าสนใจว่า หลังจากหยุดพักเบรกฟุตบอลโลก ทั้ง 2 ทีมนี้ จะยังทำได้ยอดเยี่ยมเหมือนช่วงต้นฤดูกาลหรือไม่

Categories
Column

เคราร์ด ปิเก้ : 14 ปี แห่งความยิ่งใหญ่กับบาร์เซโลน่า

#SSxLaLiga | เคราร์ด ปิเก้ ถือเป็นหนึ่งในปราการหลังที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุคทองของบาร์เซโลน่า และทีมชาติสเปน ช่วยทีมคว้าแชมป์มามากมาย อีกทั้งพร้อมที่จะทำทุกอย่าง เพื่อสโมสรที่อยู่ในหัวใจมาตั้งแต่เกิด

แต่วันเวลาก็ไม่เคยโกหกปิเก้ สภาพร่างกายพร้อมกับฟอร์มการเล่นเริ่มที่จะถดถอยลง ทำให้ต้องจำใจ ยอมรับการเป็นตัวสำรอง และในที่สุดก็ถึงเวลาที่เจ้าตัวประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อดีตเซ็นเตอร์แบ็กชาวสเปนวัย 35 ปี ลงเล่นในถิ่นสปอติฟาย คัมป์ นู เป็นนัดสุดท้าย ในเกมที่บาร์เซโลน่า เปิดบ้านเอาชนะอัลเมเรีย 2 – 0 อำลาทีมด้วยคลีนชีต และชัยชนะ

แฟนบอลบาร์เซโลน่าในสปอติฟาย คัมป์ นู ต่างลุกขึ้นยืนปรบมือ และตะโกนเรียกชื่อปิเก้แบบสุดเสียง หลังถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 85 ปิดฉากการค้าแข้ง 14 ปี กับ “เจ้าบุญทุ่ม” อย่างยิ่งใหญ่

ความจริงแล้ว ปิเก้มีชื่อเป็นสำรอง ในนัดที่บุกไปเยือนโอซาซูน่า เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา แต่เขาถูกไล่ออกจากข้างสนาม กลายเป็นว่า นัดสุดท้ายในอาชีพนักเตะ ก็คือนัดที่พบกับอัลเมเรียนั่นเอง

ปิเก้ เริ่มต้นฝึกวิชาลูกหนังกับอคาเดมี่ของบาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่ในบ้านเกิดตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ก่อนที่ในปี 2004 จะย้ายไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากนัก

หลังจากชีวิตการค้าแข้ง 4 ปีในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่สวยงามดังหวัง ในปี 2008 ปิเก้จึงกลับมาอยู่ที่บาร์เซโลน่าอีกครั้ง ตำแหน่งการเล่นคือเซ็นเตอร์แบ็ก ซึ่งคู่หูคนแรกของเขาคือ คาร์เลส ปูโยล

คู่หูคนต่อมาคือ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ที่เปลี่ยนจากมิดฟิลด์ตัวรับ ลงมาเล่นปราการหลังตัวกลาง แต่หลังจากที่ดาวเตะอาร์เจนไตน์ย้ายออกไป ก็เปลี่ยนคู่หูมาเป็นซามูเอล อุมติตี้, เกลม็องต์ ลองเล่ต์ หรือโรนัลด์ อเราโฆ่

อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่าในฤดูกาลนี้ ได้ตัดสินใจมองเป้าหมายในระยะยาว ด้วยการเซ็นสัญญากองหลังดาวรุ่งมาร่วมทีม ทำให้ปิเก้ต้องยอมรับบทบาทที่เขาไม่คุ้นเคย คือการนั่งเป็นตัวสำรอง

แม้ว่าปิเก้จะต่อสู้เพื่อกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงจนสุดความสามารถ แต่ในที่สุดเขาก็ยืนยันว่า เวลาแห่งการอำลามาถึงแล้วจริง ๆ จึงตัดสินใจประกาศเลิกเล่นฟุตบอล ก่อนเกมกับอัลเมเรีย เพียง 2 วัน

ในพิธีอำลาอาชีพค้าแข้งเมื่อวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปิเก้ กล่าวกับแฟน ๆ อาซุลกราน่าทั้งน้ำตาว่า “ในบางครั้ง ความรักคือการปล่อยวาง ผมคิดว่ามันถึงเวลาที่จะเปิดพื้นที่ส่วนตัวของผมแล้ว”

“คุณปู่ให้ผมเป็นสมาชิกของสโมสรตั้งแต่วันที่ผมเกิด ผมเกิดที่นี่ และผมจะตายที่นี่ พวกคุณรู้จักผมดี มันไม่ใช่การอำลาเสียทีเดียว เพราะในไม่ช้าก็เร็ว ผมจะกลับมาที่นี่แน่นอน บาร์ซ่าจงเจริญ”

ขณะที่ซาบี้ เอร์นานเดซ เฮดโค้ชบาร์เซโลน่า พูดถึงอดีตเพื่อนร่วมทีมคนนี้ว่า “เราต้องการคนอย่างเขาในทีม เขาได้ทิ้งมรดกอันยิ่งใหญ่ในความเป็นผู้นำและบุคลิกภาพ เขากลายเป็นตำนานเรียบร้อยแล้ว”

ตลอด 14 ปี ที่อยู่กับบาร์เซโลน่า ปิเก้คว้าแชมป์เมเจอร์ 18 โทรฟี่ ภายใต้ผู้จัดการทีมหลายคน นับตั้งแต่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, ติโต้ บิลาโนบา, หลุยส์ เอ็นริเก้, เออร์เนสโต้ บัลเบร์เด้, กิเก้ เซเตียน และโรนัลด์ คูมัน

ปราการหลังวัย 35 ปีรายนี้ ลงสนามให้กับบาร์ซ่ารวมทั้งสิ้น 616 นัด มากที่สุดเป็นเป็นอันดับ 5 ของสโมสร ส่วนการรับใช้ทีมชาติสเปน ลงเล่น 102 นัด พร้อมกับแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 และแชมป์ฟุตบอลยูโร 2012

แม้ว่าวันนี้ เคราร์ด ปิเก้จะไม่ได้เป็นนักเตะบาร์เซโลน่าแล้ว แต่ได้ฝากความทรงจำที่ดีให้กับแฟน ๆ ไว้มากมาย และสักวันหนึ่ง ชายคนนี้จะกลับมายังสโมสรที่เขาผูกพันอีกครั้ง กับบทบาทใหม่ที่เขาได้ใฝ่ฝันไว้

Categories
Column

5 ประเด็นที่ได้เรียนรู้หลังเกม “เอล แกรน ดาร์บี้”

เมืองเซบิลล์ เมืองใหญ่อันดับที่ 4 ของสเปน และเป็นเมืองหลวงของแคว้นอันดาลูเซีย การพบกันของเซบีย่า และเรอัล เบติส 2 สโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดประจำเมือง ถูกเรียกว่า “เอล แกรน ดาร์บี้”

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรอัล เบติส เปิดถิ่นเอสตาดิโอ เบนิโต บียามาริน เสมอกับเซบีย่า 1 – 1 ในการทำศึกเอล แกรน ดาร์บี้ หรือดาร์บี้แมตช์แห่งแคว้นอันดาลูเซีย ครั้งที่ 103 ในลาลีกา

การพบกันของ 2 ทีมนี้ หมายถึง “ดาร์บี้แมตช์ที่ยิ่งใหญ่” ที่ต่างผลัดกันแย่งชิงความเป็นที่ 1 ของเมืองกันอย่างจริงจังยิ่งกว่าดาร์บี้แมตช์ที่อื่น และนี่คือ 5 ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในเกมนี้

บรรยากาศดาร์บี้แมตช์ที่ไม่มีใครเทียบได้

“เอล แกรน ดาร์บี้” ครั้งล่าสุด เป็นดาร์บี้แมตช์ที่เปี่ยมไปด้วยสีสันไม่ต่างจากครั้งที่ผ่าน ๆ มา มีการเปิดเพลงปลุกใจตั้งแต่ก่อนเริ่มเกม และพลังเสียงเชียร์จากแฟนบอลในสนามระหว่างเกม จนกระทั่งจบเกม นี่คือบรรยากาศของเกมดาร์บี้แมตช์แห่งเมืองเซบิลล์ ที่หาไม่ได้จากดาร์บี้แมตช์เมืองอื่น ๆ ในโลก

กูเดลจ์ กับลูกยิงเสียบสามเหลี่ยมสุดสวย

โดยปกติแล้ว เนมันย่า กูเดลจ์ จะเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ แต่ในดาร์บี้แมตช์ครั้งล่าสุด เขาถูกจับไปเล่นเซ็นเตอร์แบ็ก อย่างไรก็ตาม ดาวเตะเซอร์เบียวัย 31 ปี ก็เป็นคนยิงตีเสมอให้เซบีย่า ในนาทีที่ 81 ด้วยลูกยิงไกลเสียบสามเหลี่ยมอย่างงดงาม คล้ายกับประตูที่ยิงใส่เรอัล มายอร์ก้า เมื่อเดือนที่แล้ว

เอ็ดการ์ ช่วยแนวรับเบติสได้เป็นอย่างดี

แม้เบติส จะต้องเล่นเพียง 9 คน เกือบตลอดทั้งครึ่งหลัง แต่พวกเขาก็รอดพ้นความปราชัยคาบ้านได้สำเร็จ ซึ่งต้องให้เครดิตเอ็ดการ์ กอนซาเลซ เซ็นเตอร์แบ็กเลือดคาตาลันวัย 25 ปี ที่ช่วยให้ทีมของมานูเอล เปเยกรินี่ ไม่เสียประตูอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะช็อตสกัดลูกยิงของราฟา เมียร์ ออกจากเส้นประตูในครึ่งแรก

นาบาส ทำเข้าประตูตัวเองในดาร์บี้แมตช์

เฆซุส นาบาส ลงเล่นดาร์บี้แมตช์แห่งอันดาลูเซีย เป็นครั้งที่ 22 ด้วยการทำเข้าประตูตัวเองในช่วงครึ่งแรก อย่างไรก็ตาม เขาเกือบแอสซิสต์ให้เนมันย่า กูเดลจ์ ยิงประตูชัยช่วงทดเจ็บครึ่งหลัง แต่ถูกเคลาดิโอ บราโว่ นายทวารเบติส ซึ่งเป็นอดีตเพื่อนร่วมทีมของนาบาสที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เซฟได้อย่างหวุดหวิด

ดาร์บี้แมตช์ที่เล่นใหญ่ทั้งในและนอกสนาม

เอล แกรน ดาร์บี้ ครั้งล่าสุด เรียกได้ว่าเล่นใหญ่สมชื่อ เพราะมีใบแดงถึง 3 ใบ พร้อมกับใบเหลืองอีก 10 ใบ ซึ่งฝั่งเบติสถูกไล่ออกไป 2 คน คือนาบิล เฟคีร์ และเซร์กิโอ กานาเลส ส่วนฝั่งเซบีย่า เป็นกอนซาโล่ มอนเตียล ที่ถูกเชิญออกจากสนาม

ศึกเอล แกรน ดาร์บี้ ยกแรกของฤดูกาลนี้ ไม่มีผู้ชนะ แต่ทั้ง 2 ทีมยังคงต้องต่อสู้ในเส้นทางของตัวเองต่อไป ก่อนจะพบกันอีกครั้ง ที่สนามรามอน ซานเชซ ปิซฆวน ในเดือนพฤษภาคม ปีหน้า