สัปดาห์เดียวกับที่แมนฯซิตีแพ้บอร์นมัธ 1-2 และอาร์เซนอลแพ้นิวคาสเซิล 0-1 ส่งผลให้ทั้งสองตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล 2 และ 7 คะแนนตามลำดับ หลังจากพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024-24 แข่งขัดนัดที่ 10
ทีมที่แทรกอยู่เป็นอันดับ 3 ตามแมนฯซิตี 4 คะแนน และนำอาร์เซนอล 1 คะแนน ไม่ใช่ “บิ๊ก 6” อย่างแมนฯยูไนเต็ด, เชลซี หรือสเปอร์ส แม้กระทั่งทีมที่มาแรงอย่างวิลลาหรือไบรท์ตัน แต่เป็น “นอตติงแฮม ฟอเรสต์” ซึ่งหนีการตกชั้นได้ฉิวเฉียดเมื่อซีซันที่ผ่านมา
เริ่มมีคำถามว่า ฟอเรสต์ ซึ่งกลับขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดเป็นปีที่ 3 จะสร้างประวัติศาสตร์ได้เหมือน “เลสเตอร์ ซิตี” เมื่อปี 2016หรือไม่
ตอนนี้ ฟอเรสต์ยืนแป้นอันดับ 3 ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1998 หลังจากชนะพรีเมียร์ลีกติดต่อกัน 3 นัดเป็นครั้งแรกนับจากปี 1999 โดยชนะพาเลซ 1-0, ชนะเลสเตอร์ 3-1 และชนะเวสต์แฮม 3-0
การลงสนาม 10 นัดแรกของฟอเรสต์เป็นเสมือนภาพเลสเตอร์บนกระจกเงาเมื่อครั้ง “เดอะ ฟอกซ์” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก2015-16 ทั้งที่เคยถูกวางแต้มต่อ 5,000-1 โดยฟอเรสต์และเลสเตอร์ต่างออกสตาร์ทด้วยชัยชนะ 5 นัด, เสมอ 4 นัด และแพ้เพียง 1 นัด ต่างกันตรงที่ฟอเรสต์เก็บคลีนชีทได้มากกว่าทีมของเคลาดิโอ รานิเอรี ทำไว้เมื่อ 9 ปีที่แล้ว 3 นัด และมีผลต่างประตูได้เสียเหนือกว่า 7 ลูก
ขณะที่ คริส วูด กองหน้าวัย 32 ปี สวมร่างทรงของเจมี วาร์ดี ทำ 8 ประตูจาก 10 นัด รั้งอันดับ 2 ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกร่วมกับ ไบรอัน เอ็มเบอโม ของทีมเบรนท์ฟอร์ด เป็นรอง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ทีมแมนฯซิตี 3 ประตู อีกทั้งฟอเรสต์ยังเสียแค่ 7ประตู น้อยเป็นอันดับ 2 รองจากลิเวอร์พูล 1 ประตู
วูดและมิเลนโควิชสร้างอิมแพค 2 ฝั่งสนาม
พรีเมียร์ลีก 2023-24 วูดทำ 14 ประตู เป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสร นำอันดับ 2 คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย 6 ประตู ถึงกระนั้นฟอเรสต์ยังพยายามเสริมเขี้ยวเล็บในแดนหน้าในตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่พลาด 2 เป้าหมายสำคัญได้แก่ เอดดี เอนเคเทียห์ ซึ่งย้ายจากอาร์เซนอลไปอยู่พาเลซ และ ซานติอาโก ฆิเมเนซ ซึ่งตัดสินใจอยู่เฟเยนูร์ดต่อไป
นูโน เอสปิริโต ซานโต ผู้จัดการทีม เคยให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า “ในตลาดซื้อขาย เรามองหาหลายตัวเลือกที่สามารถช่วยทีมได้ หัวใจหลักคือมองหานักเตะที่สามารถพัฒนาทีม และคนนั้นต้องการเล่นให้ทีมเราด้วย เป็น 2ประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมาก”
แต่ฟอร์มต้นซีซันของวูดช่วยปัดเป่าความหวั่นวิตกของฟอเรสต์ให้หายไปได้ระดับหนึ่ง เพราะ 14 ประตูจากพรีเมียร์ลีก 10นัดแรก เป็นผลงานของสไตรเกอร์ทีมชาตินิวซีแลนด์ถึง 8 ประตู
นับตั้งแต่ย้ายจากนิวคาสเซิลมาร่วมทีมฟอเรสต์อย่างถาวรในเดือนมิถุนายน 2023 วูดทำ 22 ประตูจาก 30 นัดที่ลงตัวจริงในพรีเมียร์ลีก ซึ่ง 19 ประตูจากจำนวนดังกล่าวเกิดขึ้นนับจากกุนซือโปรตุกีสเข้ามาคุมทีมเจ้าป่าในเดือนธันวาคม 2023 และมีเพียงฮาลันด์คนเดียวที่ทำสกอร์ที่ไม่ใช่ลูกโทษมากกว่า 18 ประตูที่วูดทำได้นับตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2023
วูดยังมีสถิติ best conversion rate 32.8% สูงเป็นอันดับ 4 ในพรีเมียร์ลีกนับจากนูโนเข้าทำงานในซิตี กราวน์ และทำผลงานได้เหนือกว่าค่า xG หรือความเป็นไปได้ของประตูที่ควรเกิดขึ้น (14.04) เกือบ 5 ประตู
นอกจากให้นั่งเก้าอี้สำรองตลอดแมตช์ คาราบาว คัพ รอบ 2 ซึ่งแพ้จุดโทษต่อนิวคาสเซิล 4-5 นูโนส่งวูดลงเป็นตัวจริงทั้ง 10นัดแรกของพรีเมียร์ลีก แม้ยืนครบ 90 นาทีแค่ 2 นัด แต่มีเวลารวม 807 นาที หรืออยู่ในสนามเฉลี่ยนัดละ 80 นาที ถึงกระนั้นนูโนยังยืนกรานไม่ผ่อนปรนให้สตาร์วัย 32 ปีหลังกลับมาจากการเล่นให้ทีมชาติ เพราะมั่นใจวูดมีเลือดนักสู้และพร้อมเสมอที่จะลงสู้เพื่อสโมสร
ขณะที่วูดเป็นกำลังสำคัญของเกมบุก แต่ฝ่ายบริหารของฟอเรสต์มักเน้นย้ำเสมอในความเชื่อที่ว่า รากฐานของทีมต้องเริ่มต้นจากการป้องกัน
มัทซ์ เซลส์ นายทวารเบลเยียมวัย 32 ปี ซึ่งย้ายมาจากสตารส์บูร์กในตลาดฤดูหนาวที่ผ่านมา ทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม ทำคลีนชีทไปแล้ว 4 นัดในพรีเมียร์ลีกซีซันนี้ สูงเป็นอันดับ 1 ร่วมกับ อองเดร โอนานา ทีมแมนฯยูไนเต็ด และ อลีสซง เบคเกอร์ ทีมลิเวอร์พูล
แต่การเซ็นสัญญากับ นิโกลา มิเลนโควิช จากฟิออเรนตินาเมื่อกลางกรกฎาคม 2024 ด้วยราคาไม่ถึง 12 ล้านปอนด์ ถือเป็นการลงทุนที่เกินจุดคุ้มทุนไปแล้ว ด้วยการฟอร์มปราการหลังที่แข็งแกร่งคู่กับ มูริลโล เซ็นเตอร์แบ็คชาวบราซิล
เทียบกับซีซันที่แล้ว ซึ่งเสีย 23 ประตูจากลูกเซตพีซ มากกว่า 2 ทีมตกชั้น ลูตันและเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมละ 4 ประตู แต่ซีซันนี้ ฟอเรสต์เพิ่งเสียไปเพียงประตูเดียว
ซีซันที่แล้ว ฟอเรสต์มีค่า xG จากลูกเซตพีซของคู่แข่ง 12.25 นั่นหมายถึงเสียจริงมากกว่าความน่าจะเป็นเกือบ 2 เท่า จุดอ่อนหนีไม่พ้นการป้องกันลูกเตะมุมและฟรีคิก ซึ่งต่างกับซีซันนี้ที่ตัวเลข xG against จากการตั้งเตะของคู่แข่งเท่ากับ 1.23 เท่านั้น
นิค มาชิเตอร์ ผู้สื่อข่าว บีบีซี สปอร์ตส์ มองว่าเป็นเพราะ “บิ๊กแมน” ทั้งในแดนหน้าและแดนหลัง ช่วยให้ฟอเรสต์เริ่มต้นฤดูกาล 2024-25 ได้อย่างยอดเยี่ยม
การปฏิวัติทีมฟอเรสต์เริ่มขึ้นในฤดูร้อนของปี 2022
แม้ดูเหมือนฟอเรสต์สามารถวิวัฒนาการขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากทีมที่จบด้วยอันดับ 17 เมื่อซีซันที่แล้ว ซึ่งถูกลงโทษตัดแต้ม 4คะแนน (อุทธรณ์ไม่สำเร็จ) แต่มีผู้เล่น 7 คนที่เล่นนัดล่าสุด ชนะเวสต์แฮม 3-0 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2024 ลงเป็นตัวจริงในการแข่งขันนัดปิดฤดูกาล 2023-24 ที่บ้านของเบิร์นลีย์
อีกทั้งตลาดซัมเมอร์ปี 2024 ที่ผ่านมา ฟอเรสต์เสริมผู้เล่นแค่ 6 คนเท่านั้น รวมถึงมิเลนโควิชและ เอลเลียต แอนเดอร์สันมิดฟิลด์จากนิวคาสเซิล ซึ่งสามารถเพิ่มคุณภาพให้ทีมชุดใหญ่ได้ทันที ขณะที่ตลาดซัมเมอร์ปี 2022 มีการซื้อนักเตะใหม่ถึง 22 คนหลังจากเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่พรีเมียร์ลีกในฐานะทีมชนะเลิศแชมเปียนชิพ เพลย์ออฟ
นิค มาชิเตอร์ ให้ความเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้กับฟอเรสต์เป็นวิวัฒนาการไม่ใช่การปฏิบัติ แม้ทีมทำผลงานดีขึ้นผิดหูผิดตาในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่นูโนเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมแทน สตีฟ คูเปอร์ เนื่องจากการปฏิวัติได้เกิดขึ้นเมื่อกว่า 2 ปีที่แล้ว
มีข้อตกลงภายในซิตี กราวน์ ก่อนเริ่มซีซัน 2024-25 ไว้ว่า บอร์ดบริหารหวังให้ฟอเรสต์เป็นทีมที่ไม่มีตัวตน และขอเพียงจบฤดูกาลด้วยอันดับกลางตารางพรีเมียร์ลีก เพื่อไม่ให้ทีมตกเป็นเป้าสนใจของสื่อมวลชนหลังจาก 2 ซีซันที่ผ่านมาเต็มไปด้วยบรรยากาศการดิ้นรนหนีตกชั้น ข้อโต้แย้ง ความวุ่นวาย และข่าวฉาวโฉ
ซีซันที่แล้ว ฟอเรสต์โดนหัก 4 คะแนนในเดือนมีนาคม 2024 เนื่องจากละเมิด “กฎเพื่อการทำกำไรและความยั่งยืน” หรือ Profitability and Sustainability Rules (PSR) แต่แต้มสะสมยังเหลือมากกว่าทีมอันดับ 18 ลูตัน ทาวน์ 6 คะแนน และ 1เดือนต่อมา สโมสรได้โพสต์บนสื่อโซเชียล กล่าวหาผู้ตัดสินวีเออาร์ว่าลำเอียงในการแข่งขันกับเอฟเวอร์ตัน ส่งผลให้ถูกปรับ 750,000 ปอนด์
อย่างไรก็ตาม ฟอเรสต์ยังไม่มีช่วงเวลาเงียบสงบสมความตั้งใจเมื่อ เอวานเจลอส มารินาคิส เจ้าของสโมสรชาวกรีซวัย 57ปี ทำความผิดในข้อหาประพฤติตัวไม่เหมาะสมจากการถ่มน้ำลายลงบนพื้นบริเวณใกล้ผู้ตัดสินใจหลังจบแมตช์แพ้ฟูแลม 0-1 เมื่อปลายกันยายนที่ผ่านมา และยื่นอุทธรณ์ไม่สำเร็จ ถูกแบน 5 นัด
นอกจากนี้ ฟอเรสต์ยังตกเป็นเป้าสนใจของสื่อมวลชนเมื่อทะยานขึ้นมาอยู่อันดับ 3 หลังพรีเมียร์ลีกเตะ 10 นัด
การกลับมาฟื้นคืนชีพในพรีเมียร์ลีกของนูโน
นูโนกลับมาทำงานพรีเมียร์ลีกหลังไปคุมทีมในซาอุดิ อาระเบีย ท่ามกลางแฟนบอลบางส่วนของฟอเรสต์ที่ไม่มั่นใจกับการทำหน้าที่แทนคูเปอร์เมื่อเดือนธันวาคม 2023 แม้พา อัล อิติตฮัต ครองแชมป์ซาอุดิ โปรลีก และซูเปอร์คัพ เนื่องจากก่อนหน้าน นูโนล้มเหลวกับการคุมทีมทอตแนม ฮอตสเปอร์ เพียง 17 นัดเมื่อปี 2021
อดีตกุนซือบาเลนเซียและปอร์โตสร้างชื่อเสียงขึ้นมาระหว่างเข้ามาคุมทีมวูลฟ์แฮมป์ตันเป็นเวลา 4 ปี แต่ต้องอำลาโมลินิวซ์เมื่อไม่สามารถรักษาระดับความคาดหวังหลังจากเคยพาทีมขึ้นมาจากแชมเปียนชิพ และเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ยูโรปา ลีก ถึงกระนั้นนูโนสามารถพัฒนาทีมที่ดีขึ้นมาได้ รวมถึงปลุกปั้น รูเบน เนเวส ซึ่งเคยร่วมงานกันที่ปอร์โต
นิค มาชิเตอร์ มั่นใจว่านูโนกำลังทำงานลักษณะเดียวกันอย่างช้าๆที่ซิตี กราวน์ หลังจากได้นักเตะซีเนียร์เข้ามา 6 คน รวมถึงมิเลนโควิช ซึ่งช่วยให้แผงหลังฟอเรสต์แข็งแกร่งขึ้น เสียไปแค่ 7 ประตู มากกว่าลิเวอร์พูลทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกขณะนี้
นูโนได้รับการยกย่องด้านความสามารถในการวางแผนการเล่นอย่างพิถีพิถัน ซึ่งช่วยให้ผลงานของฟอเรสต์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ส่วนหนึ่งกุนซือวัย 50 ปี ได้รับประโยชน์จากรากฐานที่คูเปอร์สร้างและทิ้งไว้ให้
คูเปอร์มีส่วนสำคัญในการเซ็นสัญญากับ มอร์แกน กิบบ์ส-ไวท์ ซึ่งอยู่ในทีมชาติอังกฤษชุดแชมป์โลก ยู17 ขณะที่คูเปอร์เป็นผู้จัดการทีม และยังเป็นคนพาวูดเข้าสู่สโมสร และช่วยรักษาดาวยิงทีมชาตินิวซีแลนด์ให้ยังค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกต่อไป
ฟอเรสต์ตามรอยความสำเร็จของเลสเตอร์
แต่คำถามคือ ฟอเรสต์จะยังรักษาฟอร์มเก่งเพื่อกลายเป็น “ซินเดอเรลลา” เหมือนอย่างเลสเตอร์เมื่อปี 2016 หรือไม่ เพราะจาก 10 นัดแรก ทีมของนูโนแข่งขันกับกลุ่ม 7 อันดับท้ายตารางถึง 5 ทีม ขณะที่ 3 ทีมคู่แข่งล่าสุดคือ พาเลซ, เลสเตอร์ และเวสต์แฮม ต่างออกสตาร์ทซีซันไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม ฟอเรสต์เป็นทีมเดียวที่เอาชนะลิเวอร์พูลได้ รวมถึงเสมอในบ้านของเชลซีและไบรท์ตัน
หลังจบเบรกทีมชาติเดือนพฤศจิกายน ฟอเรสต์ต้องไปเยือนอาร์เซนอล, แมนฯซิตี และแมนฯยูไนเต็ด และต้องเปิดสนามซิตี กราวน์ ต้อนรับวิลลาและสเปอร์สช่วงท้ายปี
ข้อมูลจาก Opta ระบุว่า ฟอเรสต์เป็นทีมที่มีโปรแกรม 10 นัดแรกของพรีเมียร์ลีกซีซันนี้ง่ายที่สุดเป็นอันดับ 4 แต่ 10 นัดต่อไป โปรแกรมจะยกระดับเป็นความยากที่สุดอันดับ 4 เริ่มจากการไปเยือนบ้านของนิวคาสเซิล ซึ่งเคยชนะฟอเรสต์ที่ซิตี กราวน์ ในคาราบาว คัพ เมื่อเดือนสิงหาคม 2024
แน่นอนเมื่อพ้นเทศกาลคริสต์มาส ภาพของฟอเรสต์จะชัดเจนขึ้นว่า ยังเป็นทีมที่ดีพอต่อการเป็นม้ามืดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกหรือไม่
เรียบเรียง : ฐปน วันชูเพลา (Senior Football Writer)
Senior Football Editor