หลังผ่าน 2 ตลาดแรกอย่างเงียบเชียบ ริชาร์ดส์ ฮิวจ์ส ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของลิเวอร์พูล สร้างความฮือฮา ทำลายสถิติสูงสุดของสหราชอาณาจักร 2 ครั้งในตลาดเดียว ทุ่มเงิน 116 ล้านซื้อฟลอเรียน เวียร์ตซ์ จากเลเวอร์คูเซน และจ่ายอีก 125 ล้านปอนด์ให้นิวคาสเซิลเพื่อแลกกับอเล็กซานเดอร์ อิซัค ส่งผลให้ยอดรายจ่ายในตลาดฤดูร้อน 2025 ของสโมสรพุ่งเป็น 446.5 ล้านปอนด์
ผู้บริหารชาวสกอตวัย 46 เป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนสำคัญที่จะสานต่อความสำเร็จของลิเวอร์พูลยุคหลังเยอร์เกน คลอปป์ ภารกิจสำคัญงานแรกของฮิวจ์สเกิดขึ้นเมื่อ 1 ปีที่แล้วคือ หาผู้สืบทอดตำแหน่งของยอดผู้จัดการทีมชาวดอยช์
ย้อนไปยังเดือนมีนาคม 2024 เมื่อไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ กลับมาทำงานกับลิเวอร์พูลด้วยตำแหน่งซีอีโอ ฟุตบอล ของเฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ปส์ สิ่งแรกๆ ที่เขาทำคือโทรศัพท์หาฮิวจ์ส ซึ่งกำลังพักผ่อนหลังลาออกจากบอร์นมัธในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค
ทั้งสองสนิทกันตั้งแต่ 20 ปีที่แล้วขณะฮิวจ์สเป็นกัปตันทีมและกองกลางของพอร์ตสมัธ ที่มีแฮร์รี เรดค์แนปป์ เป็นผู้จัดการทีม และเอ็ดเวิร์ดส์ทำหน้าที่วิเคราะห์ประสิทธิภาพผู้เล่น ฮิวจ์สกับเอ็ดเวิร์ดส์ต่างชอบคิดและสร้างความสัมพันธ์ผ่านการวิเคราะห์เกม
20 มีนาคม 2024 ลิเวอร์พูลประกาศแต่งตั้งฮิวจ์สเป็นผู้อำนวยการกีฬาโดยเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งระหว่างนี้ไม่มีข่าวการเคลื่อนไหวออกมาอย่างเป็นทางการ แต่รู้ดีว่า งานใหญ่ที่ฮิวจ์สต้องทำไม่ใช่เพียงต่อสัญญากับเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และโม ซาลาห์ แต่ต้องหากุนซือแทนคลอปป์ ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนกว่า
หาผู้สืบทอดตำแหน่งของคลอปป์
ฮิวจ์สได้รับข่าวว่า ชาบี อลอนโซ ตัวเลือกอันดับแรก ตัดสินใจคุมทีมเลเวอร์คูเซนต่อ รูเบน อโมริม โค้ชหนุ่มที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดคนหนึ่งในยุโรปหลังประสบความสำเร็จกับสปอร์ติง ลิสบอน ถูกเลื่อนขึ้นมาเป็นตัวเต็งแทน แต่ฮิวจ์สมีความคิดต่างออกไป
หลังพิจารณาข้อมูลที่วิลล์ สเปียร์แมน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย เสนอให้อย่างละเอียด ฮิวจ์สก็ตระหนักทันทีว่ามีเพียงตัวเลือกเดียวที่เขาอยากคุยด้วย และในเดือนเมษายน เขาจึงเดินทางไปยังเนเธอร์แลนด์เพื่อพบกับอาร์เนอ สลอต หัวหน้าโค้ชของเฟเยนูร์ด ที่บ้านในซโวลเลอ

ขอบคุณภาพจาก https://www.daveockop.com/editorial/arne-slot-revolution-liverpool-premier-league-year-one/
กุนซือดัตช์ทำผลงานยอดเยี่ยมในด้านพัฒนาผู้เล่นและรักษาความฟิตของร่างกายนักเตะ และที่สำคัญ จุดที่อาร์เนอต่างจากอโมริมคือ มีรูปแบบการเล่นและสไตล์ฟุตบอลแบบเดียวกับคลอปป์
อาร์เนอเล่าถึงการพบกันครั้งแรกว่า ฮิวจ์สมาพร้อมกับแฟ้มข้อมูลขนาดใหญ่ที่บรรจุรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับตัวเขาและทีม ทั้งแทคติกที่ใช้แต่ละนัด และได้เปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง อาร์เนอยังพูดติดตลกว่า ฮิวจ์สรู้เรื่องเขาดีมาก บางเรื่องตัวเขาเองยังไม่รู้
“ลิเวอร์พูลบอกชัดเจนมากว่าอยากได้ผม จูเลียน วอร์ด (ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของเฟนเวย์ฯ) แวะเยี่ยมสนามซ้อมของเฟเยนูร์ด ได้พูดคุยกับผู้คนมากมายเพื่อเก็บข้อมูลและทำความรู้จักให้มากที่สุดเกี่ยวกับสโมสรและวิธีการทำงานของผม ไม่มีอะไรถูกมองข้ามไปเลย”
สำหรับโลกภายนอก มองว่าการแต่งตั้งอาร์เนอเป็นความเสี่ยง เนื่องจากมีประสบการณ์แชมเปียนส์ ลีก ค่อนข้างน้อย และคว้าแชมป์เมเจอร์ในเนเธอร์แลนด์เพียง 2 รายการ แต่ฮิวจ์สยังมั่นใจการตัดสินใจของตนเองแม้มีความเห็นตรงข้ามมากมาย เหมือนตอนที่ “ไม่ไปต่อ” กับเพื่อนของเขา แกรี โอนีล ในฤดูร้อนปี 2023 แต่เลือกอันโดนี อิราโอลา กุนซือชาวบาสค์ที่ไม่เป็นที่รู้จัก ให้มาเป็นผู้จัดการทีมบอร์นมัธ
ตลาดซื้อขายนักเตะครั้งแรกที่เงียบเหงา
การทำงานของฮิวจ์สยังถูกตั้งคำถามในตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ปี 2024 ซึ่งไม่ดีนักในมุมมองกูรูลูกหนังและแฟนบอล โดยได้ผู้เล่นใหม่เพียง 2 คนคือ จอร์จี มาร์มาดาชวิลี ซึ่งส่งกลับไปให้บาเลนเซียยืมตัว และเฟเดริโก คิเอซา ซึ่งมีปัญหาความฟิต ได้ลงสนามเพียง 14 นัด 466 นาที
นอกจากนี้ ฮิวจ์สยังไม่สามารถคว้าเป้าหมายสำคัญ มาร์ติน ซูบิเมนดี มิดฟิลด์ตัวรับค่าตัว 51 ล้านปอนด์ ซึ่งยืนยันว่าต้องการย้ายมาอยู่แอนฟิลด์เมื่อฮิวจ์สเดินทางไปพูดคุยที่สเปน แต่ซูบิเมนดีกลับเปลี่ยนใจ เล่นให้โซเซียดัดต่อไป

ขอบคุณภาพจาก https://www.liverpoolfc.com/th/news/arne-slot-explains-what-federico-chiesa-will-bring-liverpool
ท่ามกลางแฟนบอลที่ไม่พอใจสโมสรที่ไม่เสริมผู้เล่นอย่างเข้มแข็งให้กับการเริ่มต้นคุมทีมของอาร์เนอ ฮิวจ์สยังคงใจเย็นเพราะรับรู้จากการฝึกซ้อมเตรียมทีมระหว่างพรีซีซันของโค้ชดัตช์ รวมถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญ ปรับไรอัน กราเฟนแบร์ก ลงมาทำหน้าที่มิดฟิลด์เบอร์ 6 ซึ่งต่อมากลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งให้ลิเวอร์พูลนำพรีเมียร์ลีกแบบม้วนเดียวจนคว้าแชมป์
ฮิวจ์สและอาร์เนอตกลงร่วมกันจะแข่งขันฤดูกาล 2024-25 ด้วยผู้เล่นของคลอปป์ ก่อนจะตัดสินใจแผนปรับปรุงขุมกำลังนักเตะเมื่อซีซันจบลง
อาร์เนอให้สัมภาษณ์ก่อนเปิดซีซันที่แล้วว่า “เยอร์เกนจากไปพร้อมทีมที่อยู่ในสถานะที่ดี เรากำลังพยายามสร้างทีมจากจุดนั้น เราไม่ได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่างหรอก จริงๆ แล้วเราไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก เพราะหลายสิ่งหลายอย่างดีอยู่แล้ว”
อย่างไรก็ตาม ทุกสายตาจับจ้องไปยังฮิวจ์สในช่วงสัปดาห์แรกๆ ของฤดูกาลเพื่อดูว่าลิเวอร์พูลจะทำผลงานอย่างไรเมื่อไม่มีคลอปป์อยู่ข้างสนาม
ทีมของอาร์เนอชนะ 8 นัด เสมอ 1 นัด แพ้ 1 นัด ยืนแป้นอันดับ 1 พรีเมียร์ลีกตั้งแต่นัดที่ 10 และไม่เคยก้าวลงมาอีกเลยจนปิดซีซัน อย่างไรก็ตาม สปอตไลท์ยังไม่หนีไปจากฮิวจ์ส ซึ่งต้องรักษา 3 ซูเปอร์สตาร์ที่กำลังเล่นด้วยสัญญาปีสุดท้าย ทั้งเทรนท์, ฟาน ไดค์ และซาลาห์ สามารถเจรจาย้ายทีมล่วงหน้ากับสโมสรต่างประเทศทันทีปฏิทินเปลี่ยนเป็นปี 2025
ภารกิจสุดหินต่อสัญญา 3 ซูเปอร์สตาร์
ฮิวจ์สเคยยอมรับว่า เขาหวังเพียงเก็บนักเตะคนใดคนหนึ่งให้ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความหวังค่อยๆ ริบหรี่ลง เทรนท์กับฟาน ไดค์ พากันเงียบกริบ ต่างกับซาลาห์ ซึ่งเปิดเผยกับ Sky Sports หลังชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 ในเดือนกันยายน 2024 ว่ายังไม่มีใครจากสโมสรเข้ามาคุยกับเขา บางทีอาจเป็นปีสุดท้ายของเขาก็ได้
ปีกซ้ายอียิปต์ ซึ่งกำลังผลิตผลงานดีที่สุดในแอนฟิลด์ ยังกดดันฮิวจ์สต่อไปด้วยการให้สัมภาษณ์หลังทำ 2 ประตูที่เซาแธมป์ตันในเดือนพฤศจิกายน ว่ายังไม่ได้ข้อเสนอสัญญาใหม่ และน่าจะ “ไป” มากกว่า “อยู่”

อดีตมิดฟิลด์จากกลาสโกว์มีชื่อเสียงในฐานะ “นักเจรจาผู้ดุดัน” ซึ่งสามารถเย็นชาแม้ในสถานการณ์กดดันที่สุด เอเยนต์คนหนึ่งเรียกฮิวจ์สว่า “หุ่นยนต์” ฮิวจ์สยังมีความรู้ฟุตบอลเชิงลึกที่ลึกซึ้ง ล้วนเป็นสินทรัพย์อันมีค่าที่จะทำให้การเจรจาสำเร็จ
ฮิวจ์สพูดได้ 4 ภาษาหลังจากเติบโตในมิลาน ซึ่งเควิน พ่อของเขา ทำงานให้กับสำนักพิมพ์เพนกวิน บุ๊คส์ และได้ไปรับลูกชายที่อะคาเดมีของอตาลันตา เดินทางไปยังซาน ซีโร เพื่อดูการแข่งขันของเอซี มิลาน ยอดทีมยุคปลาย 1980 ถึงต้น 1990ภายใต้การคุมทีมของอาร์ริโก ชาคคี
ด้วยทักษะและองค์ความรู้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่ช่วยให้ฮิวจ์สยังมีความก้าวหน้าในการเจรจากับตัวแทนของดาวเตะทั้ง 3คน รวมถึงเรมี แอบบาส ทนายความจอมเขี้ยวที่เป็นเอเยนต์ของซาลาห์
ในที่สุด ฟาน ไดค์และซาลาห์ตกลงขยายสัญญาออกไป 2 ปีในเดือนเมษายน 2025 ขณะที่ลิเวอร์พูลใกล้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ถึงแม้ฮิวจ์สไม่สามารถโน้มน้าวเทรนท์ให้อยู่ต่อได้ แต่การรักษา 2 ใน 3 ซูเปอร์สตาร์ถือเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมของผู้บริหารชาวสกอต
ทุ่มเสริมแกร่ง 446.5 ล้านปอนด์ในตลาดเดียว
ฮิวจ์สแทบไม่มีเวลาพักผ่อนดื่มด่ำกับแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 ของสโมสร เพราะต้องเริ่มต้นสร้างทีมครั้งใหญ่ในช่วงฤดูร้อน หนึ่งในนักเตะใหม่คือ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ มิดฟิลด์ตัวรุกที่ย้ายมาจากเลเวอร์คูเซน
ก่อนหน้านั้น สื่อคาดหมายกันว่า นักเตะหนุ่มอนาคตไกลคงย้ายไปอยู่บาเยิร์น มิวนิก หรือแมนเชสเตอร์ ซิตี แต่ฮิวจ์ส พร้อมกับอาร์เนอและเอ็ดเวิร์ดส์ ช่วยกันโน้มน้าวจนดาวเตะวัย 22 ตัดสินวางอนาคตของตนเองไว้ที่แอนฟิลด์

ขอบคุณภาพจาก https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/liverpool-florian-wirtz-bradley-germany-35863368
เวียร์ตซ์กล่าวถึงการมาอยู่ลิเวอร์พูลเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า “เป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่ายเลย แต่ผมคิดว่าการพูดคุยกับโค้ช, ริชาร์ดส์ และทุกคนตั้งแต่เริ่มต้น ล้วนเป็นไปด้วยดีอย่างต่อเนื่อง”
“ทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับใครสักคนจากสโมสร ผมจะรู้สึกว่า ‘นี่คือที่ที่ผมอยากอยู่’ และสุดท้ายผมก็มั่นใจเต็มร้อยว่าต้องการไปอยู่ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด”
การมาถึงอย่างไม่คาดฝันของเวียร์ตซ์แสดงให้เห็นถึงลักษณะเด่นในการเจรจาดีลผู้เล่นใหม่แบบเสี่ยงๆ ของเอ็ดเวิร์ดส์ ซึ่งเคยทำเป็นประจำตอนที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอย่างเช่น การทุ่มซื้อฟาน ไดค์ ด้วยค่าตัวแพงเป็นสถิติโลกสำหรับกองหลังก่อนตลาดเดือนมกราคม 2018 จะเปิดทำการ
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลและการวิเคราะห์จากสเปียร์แมนและทีมงานยืนยันกับฮิวจ์สว่า เวียร์ตซ์เป็นนักเตะรุ่นใหม่ที่ลิเวอร์พูลไม่สามารถปล่อยให้หลุดมือไปถ้ามีโอกาส แม้ต้องตกใจกับตัวเลขเงิน เช่นเดียวกับดีลของอิซัค ยอดดาวยิงทีมนิวคาสเซิล
ทีมของอาร์เนอทำสกอร์ได้สูงสุดในพรีเมียร์ลีกถึง 86 ประตูบนเส้นทางสู่แชมป์ และได้เซ็นสัญญากับอูโก เอกิติเก สไตรเกอร์ฝรั่งเศสจากไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ด้วยราคา 79 ล้านปอนด์ในเดือนกรกฎาคม 2025 เพื่อแทนดาร์วิน นูนเญซ ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมสโมสรต้องการนักเตะหมายเลข 9 อีกคนในราคาแพงระยับ
แต่แบบจำลองทางสถิติ ศูนย์หน้าทีมชาติสวีเดนถูกจัดให้เป็นยอดดาวซัลโวทวีปยุโรประดับเดียวกับคิลียัน เอ็มบัปเป และเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ แถมการล่าลายเซ็นอิซัคยังร้อนแรงขึ้นอีกเมื่อเอ็ดดี ฮาว ผู้จัดการทีมนิวคาสเซิล เป็นเพื่อนสนิทของฮิวจ์สช่วงเป็นนักเตะที่แฟรตตัน พาร์ค และบอร์นมัธ
ธุรกิจก็คือธุรกิจ ฮิวจ์สยอมสละความสัมพันธ์ที่ยาวนาน 2 ทศวรรษเพื่อคว้านักเตะที่มีค่าตัวทำลายสถิติสูงสุดของสหราชอาณาจักรในวันสุดท้ายของตลาด ยังไม่รวมถึงดรามาภายในระหว่างนิวคาสเซิลกับอิซัค

ขอบคุณภาพจาก https://www.thisisanfield.com/2025/08/liverpool-2-2-crystal-palace-2-3-pens-champions-lose-in-community-shield/
เงิน 125 ล้านปอนด์ที่ลงทุนกับอิซัคทำให้ลิเวอร์พูลใช้เงินในตลาดฤดูร้อนสูงถึง 446.5 ล้านปอนด์ กลายเป็นสถิติใหม่ของสโมสร ทุบสถิติเดิม 177 ล้านปอนด์ภายใต้การบริหารของเอ็ดเวิร์ดส์อย่างง่ายดาย ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากทีมของคลอปป์เพิ่งชนะเลิศแชมเปียนส์ ลีก ปี 2019
แต่ฮิวจ์สสามารถทำเงินได้อย่างน่าประทับใจถึง 218.4 ล้านปอนด์จากการขายนักเตะ และเคยทำได้ 62.5 ล้านปอนด์จากตลาดซื้อขายนักเตะครั้งแรกกลางปี 2024 ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสุทธิในฤดูร้อนปีนี้เหลือ 218.4 ล้านปอนด์ น้อยกว่าอาร์เซนอล (257 ล้านปอนด์) ซึ่งซื้อ 267 ล้านปอนด์ แต่ขายเพียง 10 ล้านปอนด์
ฮิวจ์สแทบไม่มีเวลาเที่ยวพักผ่อนกับภรรยาและลูก 5 คนที่เกาะครีต แม้กระทั่งชั่วโมงสุดท้ายของตลาด ฮิวจ์สยังต้องเร่งปิดดีลมาร์ก เกฮี กัปตันทีมและเซ็นเตอร์แบ็คของคริสตัล พาเลซ ก่อนโดน “ดิ อีเกิลส์” ถอดปลั๊กข้อตกลง
หลังตลาดปิดไปแล้ว ฮิวจ์สยังต้องเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับเจมส์ แมคคอนเนลล์ ซึ่งถูกปล่อยให้อาแจกซ์ยืมตัว รวมถึงการขยายสัญญากับโคดี กั๊กโป
ฮิวจ์สยังมีงานสำคัญรออยู่คือ การโน้มน้าวให้อิบราฮิมา โกนาเต ฝากอนาคตระยะยาวกับสโมสร และพยายามรื้อฟื้นข้อตกลงกับเกฮีและพาเลซเมื่อตลาดเปิดอีกครั้งในเดือนมกราคม 2026
เรียบเรียง : ฐปน วันชูเพลา (Senior Football Writer)

Senior Football Editor