Categories
Special Content

เคล็ดลับลุ้น 4 แชมป์ : เจาะเบื้องหลัง “ลิเวอร์พูล” ลงเล่น 63 นัดในซีซั่นเดียว

#SSxKMD | ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2021/22 ที่ผ่านมา ถือเป็นฤดูกาลที่ลงเล่นครบทุกนัดทั้ง 4 รายการที่ลงแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 63 เกม แพ้แค่ 4 เกม ได้มา 2 แชมป์ คือคาราบาว คัพ และเอฟเอ คัพ

แฟนๆ “เดอะ ค็อป” อาจจะน่าเสียดายที่พลาด 2 ถ้วยที่ใหญ่ที่สุดทั้งพรีเมียร์ลีก และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในสัปดาห์สุดท้ายของซีซั่น แต่การได้ลุ้นถึงจนถึงนัดสุดท้ายทุกถ้วย ก็ถือว่าน่าประทับใจ

เหตุผลสำคัญที่ “หงส์แดง” มาถึงจุดนี้ได้ คือการที่นักเตะภายในทีมแทบจะไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้สามารถประคับประคองทีมจนเกือบสร้างประวัติศาสตร์ทำ “ควอดรูเพิล”

วันนี้ SoccerSuckไข่มุกดำ จะนำเบื้องหลังซีซั่นที่เหลือเชื่อที่สุดในประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูล มาขยายให้ฟังกันครับ

หลังบ้านมีปัญหาเมื่อซีซั่นที่แล้ว

ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2019/20 แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้นักเตะได้รับผลกระทบเรื่องสภาพร่างกายจากการล็อกดาวน์พักซีซั่นชั่วคราว รวมถึงการลงเล่นอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งเข้าสู่ฤดูกาล 2020/21 ลิเวอร์พูลต้องเจอกับซีซั่นที่เจ็บปวด หลังจากสูญเสียนักเตะในเกมรับหลายคนจากอาการบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่น จนส่งผลกระทบต่อผลงานของทีมอย่างหนัก

เริ่มจากเฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ตามมาด้วยโจ เกเมซ ที่ต้องปิดซีซั่นตั้งแต่เดือนตุลาคม และพฤศจิกายนตามลำดับ โจเอล มาติป ก็เจ็บตามไปในเดือนมกราคม หลังฝืนลงเล่นหลายนัดในช่วงครึ่งซีซั่นแรก

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการนำฟาบินโญ่ ที่เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ มาเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กแทนฟาน ไดค์ อาจจะทำได้ไม่ดีเท่า แต่ก็ยังพอไปได้

อย่างไรก็ตาม มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ฟาบินโญ่บาดเจ็บ คล็อปป์ได้สลับคู่เซนเตอร์แบ็กถึง 16 คู่ นักเตะอย่างจอร์แดน เฮนเดอร์สัน, รีห์ส วิลเลี่ยมส์ และแน็ต ฟิลลิปส์ ล้วนต้องมาเล่นเซ็นเตอร์แบ็กจำเป็น

วิกฤตอาการบาดเจ็บของนักเตะเกมรับในซีซั่น 2020/21 คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูลไม่สามารถคว้าแชมป์รายการใดๆ ได้เลย ซึ่งคล็อปป์ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแล้ว

แก้ปัญหาด้วย “ปัญญาประดิษฐ์”

จากปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อซีซั่นก่อน ลิเวอร์พูลได้นำเทคโนโลยีที่เรียกว่าปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ซึ่งหมายถึงการสร้าง “สมองเทียม” ที่สามารถประมวลผล และวิเคราะห์ได้คล้ายกับสมองของมนุษย์

ก่อนที่ฤดูกาล 2021/22 จะเริ่มขึ้น ลิเวอร์พูลได้ว่าจ้างบริษัท “โซนเซเว่น” (Zone7) จากแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงเรื่องปัญหาการบาดเจ็บของผู้เล่นภายในทีม

การทำงานของ Zone7 เป็น AI ที่นำข้อมูลทุกอย่างรวบรวมเป็น “Big Data” มาเข้ากระบวนการอัลกอริทึมที่ได้ออกแบบไว้ จากนั้นจะวิเคราะห์ ก่อนส่งให้ผู้จัดการทีมและสต๊าฟฟ์ที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณา

ตัวอย่างของ “ข้อมูล” ในกีฬาฟุตบอล อาทิเช่น ข้อมูลส่วนตัวผู้เล่น, ข้อมูลในสนามซ้อมและแข่งขันจริง, ความแข็งแกร่งของร่างกาย, ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ, ระดับความเครียด เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม AI ของ Zone7 ต้องใช้เวลาพัฒนาอย่างยาวนาน กว่าที่จะวิเคราะห์ออกมาได้อย่างแม่นยำ ในปัจจุบันนี้ Zone7 สามารถตรวจจับอาการบาดเจ็บได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ล่วงหน้า 7 วัน ก่อนบาดเจ็บจริง

ทาล บราวน์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Zone7 กล่าวว่า “โลกของฟุตบอลเต็มไปด้วยข้อมูล ถ้าสามารถหาประโยชน์จากข้อมูลที่มีได้ จะได้เปรียบในการแข่งขัน และตอนนี้ข้อมูลได้ถูกนำมาใช้ประเมินนักเตะแล้ว”

“AI ของเรา ช่วยจำลองสถานการณ์ที่เหมาะสมที่สุดของผู้เล่น ทำให้ผู้เล่นยังรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีไว้ได้นานที่สุด และลดความเสี่ยงให้มากที่สุด บางครั้งความเสี่ยงอาจจะหมายถึงการลดภาระในการทำงานลงก็ได้”

“มนุษย์” คือนักวางแผนที่ดีที่สุด

ถึงแม้ว่า ลิเวอร์พูลจะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วย แต่การวางแผนเพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ยังขึ้นอยู่กับเจอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงานเหมือนเดิม ไม่สามารถแทนที่มนุษย์ 100 เปอร์เซนต์ในเวลานี้

ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ AI ของ Zone7 ทำให้กุนซือชาวเยอรมัน ตัดสินใจทดลอง “โรเตชั่น” ผู้เล่นตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นซีซั่น ซึ่งโดยสถิติ ลิเวอร์พูลจะมีการหมุนเวียนผู้เล่นเฉลี่ย 4 ตำแหน่งในแต่ละนัด

ความสามารถของ Zone7 ร่วมกับการตัดสินใจของเจอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงาน ทำให้ลิเวอร์พูลสามารถลดจำนวนวันบาดเจ็บของผู้เล่นทั้งระยะสั้น และระยะยาวลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

ข้อมูลจาก Premier Injuries ระบุว่า ลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2020/21 มีจำนวนวันที่ผู้เล่นในทีมบาดเจ็บรวมกัน 1,513 วัน และในฤดูกาล 2021/22 ลดลงเหลือ 1,008 วัน หรือลดลงคิดเป็น 33 เปอร์เซ็นต์

ในส่วนของผู้เล่นที่บาดเจ็บระยะยาวมากกว่า 9 วัน (Days lost from substantial injuries) ในฤดูกาลล่าสุด ก็ลดลงเมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อนเช่นกัน จาก 1,409 วัน เหลือ 841 วัน หรือลดลง 40 เปอร์เซ็นต์

โค้ชคนอื่นๆ มักจะไม่นิยมหมุนเวียนนักเตะช่วง 1 – 2 เดือนแรกของซีซั่น แต่คล็อปป์กล้าทำ และกลายเป็นผลดีในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง ลิเวอร์พูลสามารถโรเตชั่นผู้เล่น สำหรับการลงเตะสัปดาห์ละ 2 นัด แบบไม่มีปัญหา

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือในเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ลิเวอร์พูลบุกไปชนะเซาธ์แธมป์ตัน 2 – 1 ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม คล็อปป์โรเตชั่นผู้เล่น 9 ตำแหน่ง หลังจากชนะจุดโทษเชลซีในเอฟเอ คัพ เมื่อ 3 วันก่อนหน้านั้น

เบื้องหลังของลิเวอร์พูล กับฤดูกาลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ คือการมองเห็นคุณค่าจากเทคโนโลยี แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หัวจิตหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ของนักเตะ ตลอดเส้นทางการลุ้นแชมป์ในทุกรายการ

เรียบเรียง: จักรพันธ์ ภู่ทอง

อ้างอิง :

https://theathletic.com/3321871/2022/05/25/liverpool-63-matches-van-dijk/

– https://www.telegraph.co.uk/football/2022/05/18/revealed-silicon-valley-algorithm-helping-liverpool-cope-history/

– https://zone7.ai/