Categories
Column

“เปริซิช และ สเปอร์ส” ความท้าทายสูตรเด็ด “สามสิบยังแจ๋ว”

แม้ได้มาฟรีกับค่าเหนื่อยไม่ถึงหนึ่งแสนปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่มีคำถามผุดขึ้นมาว่า อิวาน เปริซิช ในวัย 33 ปี ช่วงปลายอาชีพค้าแข้ง เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าไหมสำหรับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ทีมอันดับ 4 บนตารางพรีเมียร์ลีก

ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ประกาศข่าวเซ็นสัญญา 2 ปีกับ อิวาน เปริซิช นักเตะสารพัดประโยชน์วัย 33 ปี ทีมชาติโครเอเชีย ซึ่งปิดฉากชีวิต 7 ปีกับ อินเตอร์ มิลาน หลังหมดสัญญาในวันที่ 30 มิถุนายนนี้

ขอบคุณภาพจาก : https://www.facebook.com/TottenhamHotspur

เปริซิชเป็นหนึ่งในเป้าหมายเสริมทัพของ อันโตนิโอ คอนเต้ เพราะเปริซิชเล่นได้หลายตำแหน่งบนหมากกระดานของกุนซือชาวอิตาเลียน รวมทั้งวิงแบ็คและมิดฟิลด์ตัวรุก โดยเปริซิช ซึ่งได้รับการติดต่อจากเชลซีด้วย เซ็นสัญญากับสเปอร์สเป็นเวลา 2 ปี รับค่าเหนื่อยปีละ 5.1 ล้านปอนด์ หรือเฉลี่ย 98,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

เปริซิช ซึ่งเล่นให้ทีมชาติโครเอเชีย 113 นัด ได้โพสต์อำลาแฟนบอลเนรัซซูรี่บนอินสตาแกรมส่วนตัวอย่างซาบซึ้ง ทิ้งไว้ด้วยภาพจำการรับใช้สโมสร 254 นัด 55 ประตู 49 แอสซิสต์ 3 โทรฟี่ และ 18,934 นาที นับตั้งแต่ย้ายเข้าเป็นสมาชิกของอินเตอร์ มิลาน เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2015

ที่มหานครลอนดอน เปริซิชจะได้ร่วมงานอีกครั้งกับคอนเต้หลังจากทั้งคู่และทีมงูใหญ่ครองสคูเดตโต้ ฤดูกาล 2020-21 ดับความหวังของยูเวนตุสที่จะครองแชมป์ลีกเมืองมะกะโรนีติดต่อกัน 10 ปี ก่อนที่คอนเต้ทำให้ทุกคนช็อคด้วยการโบกมืออำลาอินเตอร์ มิลาน

นอกเหนือเป็นลูกทีมที่เข้าขากันดีแล้ว เปริซิชยังสามารถเล่นเข้ากับระบบของคอนเต้ ไม่ว่าจะเป็นวิงแบ็คตามฟอร์แมท 3-4-3 หรือรับหน้าที่มิดฟิลด์ริมสนามและกองหน้ากึ่งปีก ไม่เพียงเท่านั้นคอนเต้อาจใช้เปริซิชเป็นตัวแก้สถานการณ์ ปรับตำแหน่งให้ยืนศูนย์หน้าแทน แฮร์รี่ เคน ในบางครั้งได้อีกด้วย

แม้วัยเข้าช่วงปลายอาชีพค้าแข้ง แต่เปริซิชยังไม่ส่งสัญญาณว่ามีปัญหาเรื่องความฟิต เขาลงเล่นให้สโมสรและทีมชาติถึง 58 นัดในซีซั่นที่ผ่านมา ส่งลูกหนังซุกก้นตาข่าย 12 ครั้ง

“เปริซิช” ตามรอย “สามสิบยังแจ๋ว” ของแมนฯ ยูไนเต็ด

เพียงแค่ชูเสื้อยังไม่ได้ลงซ้อมกับทีมใหม่ แต่กลับมีคำถามขึ้นมาแล้วว่า คอนเต้คิดถูกแล้วหรือที่ซื้อนักเตะวัย 33 ปี ที่เล่นตำแหน่งที่ต้องสูญเสียพลังงานมากแม้ฟรีค่าตัวและค่าเหนื่อยไม่แรง

ความจริงแล้วการเซ็นสัญญาระยะสั้นเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากับนักเตะที่อายุอยู่ช่วงปลาย (แต่ฝีเท้าต้องขั้นเทพ) เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ผู้จัดการทีมนิยมใช้กัน ตัวอย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งได้ เอดินสัน คาวานี่ มาจากตลาดฟรีเอเยนต์กลางปี 2020 ขณะนั้น “มาธาดอร์” ในวัย 33 ปี เพิ่งหมดสัญญากับ ปารีส แซงต์ แยร์กแมง

แม้ถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องสภาพร่างกายจะทนต่อความโหดของพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่ แต่คาวานี่ได้พิสูจน์คุณค่าทั้งในและนอกสนาม กลายเป็นขวัญใจของเหล่าเรด อาร์มี่ อย่างรวดเร็ว จนปีศาจแดงใช้ออปชั่นขยายสัญญาเป็นปีที่สอง แต่น่าเสียดาย คาวานี่มีปัญหาบาดเจ็บเรื้อรัง บวกกับการมาของ คริสเตียโน โรนัลโด้ ทำให้ลงสนามแค่ 20 นัด 910 นาที มีผลงาน 2ประตู 1 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ

ซีซั่นที่เพิ่งจบไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้กลยุทธ์เดิม เซ็นสัญญา 2 ปีกับ คริสเตียโน โรนัลโด้ ซึ่งถูกตั้งคำถามอีกเช่นกัน แต่ท้ายที่สุด ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสกลายเป็น “เดอะ แบก” ในวัย 37 ปี ถ้านับเฉพาะพรีเมียร์ลีกกับแชมเปี้ยนส์ลีก “ซีอาร์เซเว่น” เล่น 37 นัด 3,071 นาที ผลิต 24 ประตู 3 แอสซิสต์ ขณะที่ เอริค เทน ฮาก ประกาศทันทีที่รับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ว่า โรนัลโด้เป็นคนสำคัญของทีม

ซีซั่นหน้า นอกจากเปริซิคแล้ว กลยุทธ์นี้กำลังจะถูกพิสูจน์จากกรณี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวซัลโวทีมชาติโปแลนด์วัย 33 ปี ซึ่งวอนเชิงขู่ บาเยิร์น มิวนิก ให้ปล่อยตัวเขาไปแม้ยังเหลือสัญญาอีกหนึ่งปีก็ตาม แน่นอนว่าฝีเท้าเวิลด์คลาสแบบเลวานดอฟสกี้จะต้องถูกทีมชั้นนำในยุโรปจับจ้องตาเป็นมันแน่นอน

ครบเครื่องทั้งฝีเท้า ประสบการณ์ และคาแรกเตอร์

เปริซิชลงเป็นตัวจริงนัดที่ 35 ในศึกลูกหนังกัลโช่ เซเรีย อา เกมปิดซีซั่นที่เจอกับซามพ์โดเรีย สตาร์โคแอตทำสกอร์ให้อินเตอร์ มิลาน ได้ในนาทีที่ 49 แต่ถูกเปลี่ยนตัวออกไปอีกสิบนาทีต่อมาเพราะบาดเจ็บน่อง เขาต้องใช้ไม้ค้ำยันหลังจบเกม แต่ผลสแกนเอ็มอาร์ไอไม่แสดงปัญหาร้ายแรง ขณะที่การตรวจร่างกายของแพทย์ทีมสเปอร์สก็ผ่านไปด้วยดี 

นอกเหนือทักษะขั้นสูงผ่านตัวเลข 10 ประตู 9 แอสซิสต์ ซึ่งทำให้เนรัซซูรี่ในซีซั่นสุดท้าย คอนเต้ยังหวังพึ่งพาประสบการณ์และบุคลิกผู้นำทั้งในสนามแข่งและสนามฝึกซ้อมของเปริซิช ที่สั่งสมมาจากการเล่นกว่า 650 นัดในระดับสโมสรและทีมชาติ พร้อมโปรไฟล์แชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัย, แชมป์เซเรีย อา, แชมป์โคปปา อิตาเลีย และแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก รวมถึงมีส่วนสำคัญพาโครเอเชียทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ เวิลด์ คัพ 2018 ซึ่งพ่ายต่อฝรั่งเศส 2-4 และเขาทำได้หนึ่งประตู

การดำรงอยู่เป็นเวลาสองปีของเปริซิชจึงเป็นเรื่องน่าติดตามทีเดียวว่า นักเตะสารพัดประโยชน์วัย 33 ปี ที่มีฝีเท้าระดับเวิลด์คลาส จะสร้างอิมแพ็คให้กับท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ มากน้อยเพียงไหน บวกกับการได้ร่วมงานกับโค้ชที่มีคู่มือการใช้งาน บางที “ลิลลี่ไวท์ส” อาจจะได้กลับเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์สโมสรก็ได้หลังจากได้เพียงรองแชมป์ปี 2019 เมื่อแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล 0-2 

และหากเปริซิชเป็นตัวแปรกสำคัญ นั่นอาจทำให้ “สามสิบยังแจ๋ว” กลายเป็นกระแสความเชื่อที่ได้รับความนิยมอย่างมีนัยยะก็เป็นได้

เรียบเรียง : ฐปน วันชูเพลา (Senior Football Editor)