ตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ปี 2022 ปิดทำการลงเรียบร้อย เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา สโมสรในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022/23 ได้มีการเสริมผู้เล่นใหม่เข้ามาครบทั้ง 20 ทีม
จำนวนเงินในการซื้อขายในตลาดนักเตะรอบนี้ ทุกสโมสรในลีกสูงสุดอังกฤษ ใช้จ่ายรวมกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 1.9 พันล้านปอนด์ ทุบสถิติเดิมในปี 2017 ที่ทำไว้ 1.4 พันล้านปอนด์
SoccerSuck x ไข่มุกดำ จะมาสรุปเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น รวมถึงตัวเลข สถิติที่น่าสนใจ ตลอดช่วงเวลาการซื้อขายของตลาดนักเตะซัมเมอร์ 2022 มาให้ฟังกันครับ
ภาพรวมของการซื้อขาย
การซื้อขายนักเตะในตลาดช่วงซัมเมอร์ 2022 เรียกได้ว่าคึกคักที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มา 2 ปี หลายสโมสรได้จ่ายเงินซื้อนักเตะทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เริ่มจากเชลซี ในยุคของท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าของทีมคนใหม่ ประเดิมการเข้ามาบริหารสโมสร ด้วยการจ่ายถึง 251 ล้านปอนด์ แลกกับนักเตะใหม่ 8 คน กลายเป็นทีมแชมป์ใช้เงินมากสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
ดีลใหญ่ ๆ ของเชลซี ยกตัวอย่างเช่น ราฮีม สเตอร์ริ่ง (จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้), มาร์ค คูคูเรลล่า (จาก ไบรท์ตัน), เวสลี่ย์ โฟฟาน่า (จาก เลสเตอร์ ซิตี้), คาลิดู คูลิบาลี่ (จาก นาโปลี), ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง (จาก บาร์เซโลน่า)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของเอริค เทน ฮาก กุนซือคนใหม่ ก็จ่ายหนักเป็นสถิติสูงสุดของสโมสร นักเตะอย่างลิซานโดร มาติเนซ, ไทเรลล์ มาลาเซีย, คาเซมิโร่, และแอนโธนี่ 4 คนนี้ มีค่าตัวรวมกัน 214 ล้านปอนด์
แม้กระทั่งน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมน้องใหม่ที่คัมแบ็กสู่พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปี ใช้เงิน 145 ล้านปอนด์ แลกกับนักเตะใหม่ถึง 22 คน ทุบสถิติทีมที่เซ็นสัญญานักเตะจำนวนมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก
สโมสรที่ใช้เงินซื้อนักเตะเกิน 100 ล้านปอนด์ นอกจาก 3 ทีมที่กล่าวมาแล้ว ยังมีเวสต์แฮม ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และวูล์ฟแฮมตัน วันเดอเรอร์ส
นอกจากนี้ ยังมีบรรดากองหน้าที่ย้ายทีมด้วยค่าตัวมหาศาล ทั้งดาร์วิน นูนเญซ (ไป ลิเวอร์พูล), เออร์ลิง ฮาลันด์ (ไป แมนฯ ซิตี้), กาเบรียล เชซุส (ไป อาร์เซน่อล), จานลูก้า สคามัคก้า (ไป เวสต์แฮม), อเล็กซานเดอร์ อิซัค (ไป นิวคาสเซิล)
ฝุ่นตลบในวันตลาดวาย
ถ้านับเฉพาะการซื้อขายที่เกิดขึ้นในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะรอบนี้ คือวันที่ 1 กันยายน 2022 จะพบว่ามีดีลที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว โดยมี 14 จาก 20 สโมสรพรีเมียร์ลีก ที่มีการปิดดีลในวันตลาดวาย
ยกตัวอย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดึงตัวมานูเอล อาคานจี กองหลังทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ จากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เซ็นสัญญา 5 ปี และจะได้ร่วมงานกับเออร์ลิง ฮาลันด์ อดีตเพื่อนร่วมทีม “เสือเหลือง” อีกครั้ง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เร่งเครื่องปิดดีล 2 นักเตะในวันสุดท้าย คือ แอนโธนี่ ปีกทีมชาติบราซิล จากอาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม 82 ล้านปอนด์ และยืมตัวมาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูจากนิวคาสเซิ่ล จนจบฤดูกาลนี้
เชลซี ดึง 2 นักเตะเข้ามาในวันสุดท้าย ทั้งปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง จากบาร์เซโลน่า เซ็นสัญญา 2 ปี และเดนิส ซาคาเรีย มิดฟิลด์ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์จากยูเวนตุส ด้วยสัญญายืมตัวเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
ลิเวอร์พูล ที่ตามหานักเตะเพื่อเข้ามาแก้ปัญหาในแดนกลาง ที่สุดแล้วได้ตัวอาร์ตูร์ เมโล่ มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิลจากยูเวนตุส ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล และมีออพชั่นซื้อขาดที่ 37.5 ล้านปอนด์
เอฟเวอร์ตัน ดึงตัวอิดริสซ่า เกย์ กองกลางทีมชาติเซเนกัล จากปารีส แซงต์-แชร์กแมง กลับถิ่นกูดิสัน พาร์คอีกครั้ง เซ็นสัญญา 2 ปี และเจมส์ การ์เนอร์ จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญา 4 ปี
เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งขยับตัวจ่ายเงินซื้อนักเตะในตลาดรอบนี้เป็นทีมสุดท้าย ซึ่งดีลแรกของพวกเขา ก็เกิดขึ้นในวันสุดท้าย คือ เวาท์ ฟาส เซ็นเตอร์แบ็กชาวเบลเยียม จากแรงส์ ในลีกฝรั่งเศส เซ็นสัญญา 5 ปี
ส่วนดีลอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่ปิดดีลโลอิก บาด จากแรนส์ ในฝรั่งเศส ด้วยสัญญายืมตัว รวมถึงฟูแล่ม ที่ปิดดีลวิลเลี่ยน อดีตดาวเตะเชลซี และอาร์เซน่อล
ลีกลูกหนังที่บ้าคลั่งที่สุด
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คือลีกที่ใช้เงินมากที่สุดในตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ ปี 2022 เมื่อเทียบกับ 5 ลีกใหญ่ยุโรป นอกจากนี้ ยังเป็นตัวเลขที่ทุบสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังเมืองผู้ดีอีกด้วย
ตัวเลข 1.9 พันล้านปอนด์ ในตลาดรอบนี้ ทำลายสถิติเดิมจากช่วงเดียวกันเมื่อปี 2017 ที่มียอดใช้จ่าย 1.4 พันล้านปอนด์ และเพิ่มขึ้นจากตลาดนักเตะซัมเมอร์ปีที่แล้ว (2021) ถึง 67 เปอร์เซ็นต์
จากข้อมูลของดีลอยด์ (Deloitte) บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินระดับโลก ระบุว่า ยอดใช้จ่ายเฉพาะซัมเมอร์ปีนี้ สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้นจากสถิติเดิมของยอดรวม 2 รอบตลาด เมื่อฤดูกาล 2017/18 คิดเป็น 3 เปอร์เซ็นต์
ข้อมูลสำคัญของ Deloitte จากตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ปี 2022 มีดังต่อไปนี้
– ใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป (อังกฤษ, เยอรมนี, อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส) ใช้จ่ายรวมกัน 3.88 พันล้านปอนด์ เพิ่มขึ้น 52 เปอร์เซ็นต์ จากซัมเมอร์ปีที่แล้ว
– สโมสรพรีเมียร์ลีก ถือสัดส่วนถึง 49 เปอร์เซ็นต์ มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2008 และมากกว่าเซเรีย อา ของอิตาลีถึง 3 เท่า (646 ล้านปอนด์)
– สโมสรพรีเมียร์ลีก เซ็นสัญญานักเตะ 169 คน มากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2021 (148 คน) และปี 2020 (132 คน)
– ยอดใช้จ่ายในการซื้อนักเตะสุทธิ (ส่วนต่างระหว่างซื้อและขาย) ของพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ทะลุ 1 พันล้านปอนด์เป็นครั้งแรก
– นักเตะที่ย้ายทีมแบบมีค่าตัว มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 66 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับซัมเมอร์ปีที่แล้ว ที่มีสัดส่วน 45 เปอร์เซ็นต์
ทิม บริดจ์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจการกีฬาของ Deloitte กล่าวว่า “การใช้จ่ายในตลาดซัมเมอร์ปีนี้ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แสดงให้เห็นว่า ทีมในพรีเมียร์ลีกมีความมั่นใจอย่างมาก เนื่องจากมีรายได้กลับเข้ามามากขึ้นหลังช่วงโควิด”
“พวกเขายินดีที่จะใช้เงินเป็นจำนวนมาก เพื่อต่อสู้กับการแข่งขันที่สูงมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา อันเนื่องมาจากความกดดันที่สโมสรต่างๆ ได้กำหนดเป้าหมายที่ท้าทายมากขึ้น”
ไม่ว่านักเตะใหม่ที่เข้ามา จะมีค่าตัวมากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การทำผลงานที่น่าประทับใจ และพาทีมประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินทุกปอนด์ที่ได้จ่ายไป
เรียบเรียง: จักรพันธ์ ภู่ทอง
อ้างอิง :
– https://www.bbc.com/sport/football/62758471
– https://theathletic.com/3358933/2022/09/01/premier-league-transfer-news-summer-window/
– https://www.premierleague.com/transfers/summer
– https://www.transfermarkt.com/premier-league/transfers/wettbewerb/GB1
Football Editor