Categories
Football Tactics

“แฮร์รี เคน” Lone Striker เบอร์ 9 + เบอร์ 10

ยังจำกันได้ไหม กับเรื่องราวที่ทำให้ทั่วโลกแซ่ซ้องถึง แฮร์รี เคน กับผลงานสุดฤทธิ์สุดเดชสุดลิ่มทิ่มประตูแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 2 ดอกชนิดกูรู อาทิ แกรี่ ลินิเกอร์, อลัน เชียเรอร์, แกรี่ เนวิลล์, คริส ซัตตัน ฯลฯ สดุดี ฟอร์มเจ๋งสุดในฤดูกาลนี้ หรือตัวจบสกอร์ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก บลา บลา

ขณะที่หัวหอกลักษณะใกล้กันสไตล์ Lone Striker หรือหน้าเป้าแบบเป็น target man ในราคาหลัก 100 ล้านปอนด์เหมือนกัน โรเมลู ลูคาคู ทำสถิติไม่น่าจดจำ

จับบอล 7 ครั้ง (1 ครั้ง คือ การเขี่ยบอลเริ่มเกมครึ่งแรก! – 2 หนยิงเข้ากรอบ คือ ล้ำหน้า!!) ทั้งแมตช์ 90 + 5 นาที เป็นสถิติต่ำสุดนับจาก Opta เคยจับมาตั้งแต่ ค.ศ.2003 (เคน สัมผัสบอล 37 ครั้งทั้งที่สเปอร์สครองบอลไม่ถึง 30%)

ทั้งคู่อายุ 28 ปีเหมือนกัน เคนอ่อนเดือนกว่า 2 เดือนด้วยซ้ำ แต่สถานการณ์ต่างกันลิบลับ

ครับ ผมคงไม่พูดว่า ลูคาคู ต้องการความรัก ความเข้าใจ หรือการปฏิบัติแบบใดเป็นพิเศษเหมือนที่สื่อชอบวิเคราะห์กัน หรือเพื่อนร่วมทีม เฉพาะอย่างยิ่ง แอนโทนี โรดิเกอร์ ในเกมที่ผ่านมาที่มีหลายจังหวะผ่านให้ได้ แต่ไม่ผ่าน ควรจะเล่นอย่างไรกับหัวหอกเบลเยียม

ตรงกันข้าม หากขยับเป็นส่ง หรืออย่างน้อยมีคนรู้ใจ เช่น ซอน เฮือง-มิน ชีวิตของ เคน จึงดีขึ้นมาก และนัดนี้กับการไหลช่องเปิดให้ยิง 1 หน และอีก 1 หน เอแดร์ซอน ใช้เท้าซูเปอร์เซฟไว้ได้ทำให้สถิติการทำประตูรวมกันของ ซอน + เคน = 26 ประตูเทียบเท่า แลมพาร์ด + ดรอกบา ไปแล้ว (ถัดมา คือ อองรี + ปิแรส และ กุน + ดาวิด ซิลบา = 29)

เรื่องนี้สำคัญนะครับ กองหน้าโดยเฉพาะ Lone Striker จำเป็นต้องมีใครสักคน หรือมากกว่า 1 คนที่มีความสามารถมากพอจะ deliver บอลดี ๆ เข้ากรอบเขตโทษให้ได้

หลายครั้งในเกมนี้ ต้องยอมรับเช่นกันว่า ลูคาคู ตีรถเปล่า แต่น้อยครั้ง ไม่ว่าจะเกมนี้ หรือเกมไหน หากเคน ขยับรับรองว่า ซอน จะต้องให้ หรือเพื่อนคนอื่น ๆ ก็พร้อมจ่ายให้ โรนัลโด้ ก็จะมี บรูโน แฟร์นันเดซ คอยทำหน้าที่ซัพพอร์ตดังกล่าวเพื่อตอบสนองมูฟเมนต์สวย ๆ

หรืออีกตัวอย่าง หากทีมขาดการเปิดแบบ เฮนโด้ ทิ่มให้ ดิอาซ ยิง 3-1 แล้วเราจะมีแนวรุกดี ๆ ทำไม? หรือในที่นี้คือ เราจะมีกองหน้าตัวเป้า (Lone Striker) ทำไม?

อย่างไรก็ดี สิ่งที่เคนมี และลูคาคู ไม่มีในเกมนี้ หรือไม่มีในสเปคการเล่นส่วนตัวก็คือ ความสามารถในการเป็นเบอร์ 9 และเบอร์ 10 ได้ในคนเดียวกัน

การดร็อปตัวลงมาเหมือนเบอร์ 10 หรือคือ False 9 ของเคน คือ ดีมากในเกมนี้ เช่น ประตู 1-0 ซึ่งดร็อปมารับบอลแล้วเปิดจังหวะเดียวให้ ซอน หลุดกับดักล้ำหน้าตรงกลางสนามของ รูเบน ดิอาซ ก่อนไปไหลให้ คูลูเชฟสกี้ แปนิ่ม ๆ เข้าไป 1-0

หลายจังหวะในเกมก็เป็นเช่นนั้นที่การดร็อปตัวลงมาพื้นที่ว่างระหว่างไลน์ทำให้เขาสามารถสร้างบทบาท False 9 หรือเพลย์เมคเกอร์ เบอร์ 10 ขึ้นมาได้ทั้งเชื่อม และ switching เปลี่ยนฝั่งได้ทั้งเท้าซ้าย และขวา

เหนือสิ่งใด วิธีการนี้จะทำได้ดีหากมีตัวพุ่งที่มีความเร็ว เช่น ซอน, เอเมอร์สัน รอยัล หรือไรอัน เซสเซยอง (2 ตัวหลังยังสอบไม่ผ่านทั้งคู่ แต่มีความเร็ว) ส่วนคูลูเชฟสกี้ ยังช้าไปกับเกมในพรีเมียร์ลีก แม้จะยิงได้ 1 จ่าย 1 ก็ตามที

จริง ๆ แล้วมันก็คล้ายกับบทบาท บ๊อบบี้ เฟียร์มิโน ที่ดร็อปตัวลงมาเชื่อมเกมแล้วจะมี ซาลาห์ กับมาเน่ เป็นตัวพุ่ง

แต่แค่บ๊อบบี้ คือ False 9 หรือเอียงมาทางเบอร์ 10 มากไป หรือก็คือ ยิงประตูได้ให้เหมือนเบอร์ 9 น้อยไป

ในเกมนี้ สิ่งที่เคน แตกต่างจาก เคน ที่เงียบเชียบในหลายเกมกับสเปอร์สซีซั่นนี้ หรือหลายนัดที่จะว่าไปแล้วเขาโดนวิจารณ์ก็คือ:

พอดร็อปแล้วยังหาจังหวะ และอ่านเกมด้วยสัญชาตญาณพุ่งเข้ากรอบเขตโทษเพื่อทำประตู เช่น ประตู 2-1 ชัดเจนที่สุด

ทั้งนี้หากเป็นแมตช์อื่น ๆ เคน จะเหมือนกับทิ้งตำแหน่ง และยืนในจุดที่ไม่มีโอกาสทำประตูได้ หรือขาดมูฟเมนต์ต่อเนื่องเหมือนเกมนี้ (ยืนนอกกรอบเขตโทษห่างไกล – เชื่อมอย่างเดียว แต่ไม่ไปต่อ!)

คงจะเพราะด้วยแรงจูงใจ ปัญหาภายในแคมป์ไก่ และอนาคตตัวเองกับทีม หรืออื่น ๆ ประกอบกัน

ทว่า เคน at his very best ต้องแบบนี้กับทีมที่ตกเป็นข่าวจะซื้อเขาซัมเมอร์ที่ผ่านมา คือ เบอร์ 9 + เบอร์ 10 ในคนเดียวกัน

ส่วนลูคาคู ผมคงพูดอะไรได้ไม่มากไปกว่า ให้ใช้สตั๊ดพูดแทนปาก และก้มหน้าก้มตาทำงานหนักต่อไป

สุดท้ายกับบทบาท Lone Striker ที่โลกยุคปัจจุบันไม่ได้มีเยอะนะ (วันก่อนก็เพิ่งเห็น เอดิน เชโก้ กับอินเตอร์ฯ นัดชนหงส์แดง) ยังไงพวกเขาก็มีคุณประโยชน์ และสำคัญต่อทีม

และเป็นอีกออฟชั่นที่มียังไงก็ดีกว่าไม่มี ผมเชื่อว่า หากเป๊ป ซึ่งปีนี้ไม่มีกองหน้าแท้ ๆ ในซีซั่นนี้จากการขาดหายไปของ กุน อเกวโร หรือเยอร์เกน คลอปป์ ที่อาจจะไม่นิยมกองหน้าแบบ “ตัวเป้า” หา Lone Striker ดี ๆ ได้สักตัว เช่น เออร์ลิง ฮาแลนด์ พวกเขาก็ต้องรับไว้แน่

ทั้งนี้แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยน ฟุตบอลก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรหรอกครับ แค่วิธีการอาจจะปรับไปบ้าง กองหน้าตัวเป้า หรือ Lone Striker หากปรับตัวได้สมบูรณ์ เช่น แฮร์รี เคน (ในเกมนี้) มันคือ ความพิเศษที่หาชมได้ยากจริง ๆ ครับ

☕ณัฐวุฒิ ประเทืองศิลป์