เหมือนสัปดาห์ก่อนในเกมทีมชาติไทยกับอินโดนีเซียที่มี “ภาพไม่น่าจำ” แฟนบอลอินโดฯ กระทำการใส่ทัพนักเตะไทย และเกิดกระแสไวรัลประมาณหนึ่งตามมาถึงพฤติกรรมไม่ดีดังกล่าว บลา บลา จากทุกภาคส่วน
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้บริหาร ทีมงานโค้ช ก็คือ ต้องสื่อสารออกมาในทิศทางที่จะไม่ทำให้สิ่งกระทบเหล่านั้นสามารถกลายเป็นปัจจัย “แก้ตัว” (Excuse) หากผลงานในสนามไม่ดี
หรือยิ่งกว่านั้นคือ จะกลายเป็น mindset ให้ทีมรู้สึกเหมือนมีข้อแก้ตัวหากผลงานจะไม่ดี ตั้งแต่ยังไม่เตะ
ทิศทางการโต้ตอบก็เช่น “ให้เป็นเรื่องของกฎหมาย กฎระเบียบ เรามุ่งโฟกัสเฉพาะความปลอดภัย และเกมในสนาม” หรือ “เราจะควบคุมเฉพาะที่คุมได้ คือ เรื่องของทีมเราเอง เราไม่สนใจเรื่องอื่น ๆ และจะให้ประเด็นนอกสนามเข้ามากระทบผลงานในสนาม”
หาใช่ ตระหนก หรือกระพือกระแส ผสมโรงกันไปทุกภาคส่วน คือ รายงานหรือพูดตามจริงแบบที่รู้ ๆ ได้ แต่สุดท้ายเราต้อง “ตบกลับ” เข้ามาที่จุดยืนของเรา และของทีม
เช่นกันครับ เหมือนที่ เยอร์เกน คลอปป์ ได้กล่าวไว้ว่า “อะไรกัน ทำราวกับเราไม่มีทีมฟุตบอล” หลังแฟน ๆ ส่งเสียง “Who’s next?” ใครเป็นรายต่อไปหลังเซ็นสัญญา โคดี้ กัคโป มาร่วมทีม
ประมาณว่า เพิ่งเซ็นนักเตะใหม่มายังไม่ทันจะข้ามคืน ขอตัวใหม่ หรือตัวต่อ ๆ ไปกันแล้ว
จริง ๆ ในอีกมุมหนึ่ง และเหมือนที่เช้านี้มี trend ในทวิตเตอร์ #FSGOUT นั่นแหละครับว่า แฟนบอลก็แบบนี้อยู่แล้ว หรือพวกเรา ๆ ก็แบบนี้
ซึ่งบางทีก็พูด ๆ ไปก่อน ไม่ได้มีเจตนาอะไรใด ๆ รุนแรง (แต่ได้ก็ดี)
อันเป็นอะไรที่เข้าใจได้
อย่างไรก็ดีครับ ประเด็นของโพสต์สั้น ๆ วันนี้ ก็คือ respond จากคลอปป์ข้างต้นที่ set up mindset นักเตะ และทีม และแฟน ๆ ทั้งหลายทั้งปวง ทุกกลุ่มผู้เกี่ยวข้องทีมทั้งหมดให้อยู่ในจุดที่ถูกต้อง
แปลความได้ว่า “เฮ้ย! ใจเย็น ๆ เพื่อน เพิ่งเซ็นมา อย่าลืมว่า ทีมที่มีอยู่ก็มีดี”
แน่นอนว่า มุมของคลอปป์ยังหมายถึงแนวคิดเดิม ๆ ได้ “ตอกย้ำ” นั่นคือ จะไม่ซื้ออะไรโดยไม่จำเป็น ไม่เหมาะสม
และมันยังทำให้นักเตะชุดปัจจุบัน ยังเท้าติดดิน และไม่ไขว้เขว ไม่เอนเอียงกับกระแสอะไรใด ๆ อันเป็นสิ่งที่ดี
ไม่มีอะไรครับ ผมเองก็รอจังหวะเขียนถึง “มุมนี้” อยู่เช่นกัน และคิดว่า วันนี้เหมาะสมก่อนเกมทีมชาติไทยนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มอาเซียน คัพ กับกัมพูชา และในช่วงกระแส #FSGOUT แอบแรงแต่เช้าเวลาไทย
ร่วมแตะหน้าจอพูดคุยด้วยตัวอักษรกันได้เหมือนเดิมครับ
ณัฐวุฒิ ประเทืองศิลป์
Sky Sports
Editor – in – chief