Categories
Column

“เมสซี่ x ซัวเรซ” : เราและนาย..เพื่อนกันตลอดกาล

แม้ตัวห่างไกลแต่หัวใจยังใกล้ชิด อีกหนึ่งเรื่องราวมิตรภาพดีๆที่เพิ่งเกิดขึ้นระหว่างสองยอดกองหน้าเวิลด์คลาส “ลิโอเนล เมสซี่” กับ “หลุยส์ ซัวเรซ” ซึ่งเริ่มสร้างสายใยความผูกพันช่วงเป็นนักเตะร่วมค่ายบาร์เซโลน่าระหว่างปี 2014 – 2020  เมื่อเมสซี่ไม่เพียงอัดคลิปร่วมแสดงความยินดีที่ซัวเรซกลับคืนสู่รากเหง้าของอาชีพค้าแข้งกับสโมสรนาซิอองนาล แต่ยังให้ยืมเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวพาเพื่อนรักเดินทางไปยังประเทศอุรุกวัยอีกด้วย

ตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าทั้งสองผูกพันขนาดไหนเกิดขึ้นช่วงกลางปี 2020 เมสซี่ขอขื้นบัญชีย้ายทีมขณะเหลือสัญญากับบาร์โซลน่าอีกหนึ่งปี เหตุผลลึกๆแล้วเขาไม่พอใจที่สโมสรขายซัวเรซไปให้แอตเลติโก มาดริด ในราคาแค่หกล้านยูโร แถมโรนัลด์ คูมัน ซึ่งเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม พูดจาตัดเยื่อใยไม่ให้เกียรติเพื่อนรักของเขา แม้ท้ายที่สุดเมสซี่ยอมเล่นให้บาร์ซ่าแต่นั่นเพราะไม่อยากมีคดีความ

เป็นที่ทราบผ่านหน้าข่าวว่า เมสซี่และซัวเรซรวมถึงภรรยาและลูกๆของทั้งสองมักหาโอกาสไปท่องเที่ยวพักผ่อนด้วยกันช่วงไม่มีแข่งฟุตบอล แม้ซัวเรซเคยให้สัมภาษณ์ เอล ปาอิส หนังสือพิมพ์ในอุรุกวัยว่า “เอ็นเอสเอ็น” ฟรอนท์ทรีจากอเมริกาใต้ของบาร์เซโลน่า ตัวเขา เมสซี่ และ เนย์มาร์ สนิทกันทั้งในและนอกสนาม แต่แหล่งข่าววงระบุว่าเมสซี่เป็นเพื่อนสนิทที่สุดในบาร์เซโลน่าของซัวเรซ

“พวกเรามีเรื่องให้หัวเราะกันได้เสมอ เราหัวเราะทั้งในและนอกสนาม เนย์เป็นคนสนุก ลีโอก็ด้วยแม้ผู้คนจะไม่ค่อยมองเขาในลักษณะนั้นนัก ความสัมพันธ์นี้ส่งผลดีและช่วยเหลือพวกเรา”

“ลีโอมีลูกคนหนึ่งที่แก่กว่าเบนญ่าของผม และอีกคนก็อ่อนกว่าเดลฟี่ ลูกๆชอบเล่นด้วยกัน ผมกับลีโออายุใกล้กัน เราชอบเล่าเรื่องกระจุกกระจิกเล็กๆน้อยๆสมัยเป็นวัยรุ่น พ่อแม่ญาติๆก็เข้ากันได้ดี”

แม้ต้องแยกจากกันเมื่อซัวเรซย้ายไปอยู่แอตเลติโก มาดริด ทั้งสองยังติดต่อกัน สตาร์ทีมชาติอุรุกวัยเปิดใจกับ มาร์ก้า สื่อใหญ่ประเทศสเปน ช่วงปลายปี 2020 ว่า “เราคุยกันเยอะนะแต่ด้วยความสัตย์จริง เราคุยเรื่องชีวิตทั่วๆไป” 

“เมื่อไม่นานมานี้เป็นวันเกิดลูกคนหนึ่งของผม ของเขาด้วย เราคุยเรื่องชีวิตทั่วๆไป ไวรัสโควิด นู้นนั้นนี้ แต่คุยเรื่องฟุตบอลน้อยมากๆ พูดนิดหน่อยถึงการทำประตูที่พลาดหรือระบบแทคติกการเล่น ว่ากันตามจริงเราห่วงสิ่งที่อาจเกิดกับครอบครัวมากกว่าความเป็นไปของฟุตบอล”

ย้อนกลับไปปลายเดือนตุลาคม 2021 ซึ่งตอนนั้น เมสซี่ได้ย้ายไปค้าแข้งที่ปารีส แซงต์ แยร์กแมง หลังหมดสัญญากับบาร์เซโลน่า เดอะ มิร์เรอร์ สื่อแท็บลอยด์ชั้นนำของอังกฤษ รายงานว่าสองเพื่อนซี้ลาตินอเมริกันมีแผนเล่นด้วยกันอีกครั้งก่อนแขวนสตั๊ด

ช่วงฤดูร้อนปี 2023 หลังจบซีซั่น 2022-23 เมสซี่จะหมดสัญญากับเปแอสเช ตอนนั้นเมสซี่อายุ 36 ปีแล้ว ส่วนซัวเรซแก่กว่าหกเดือน ทั้งสองคงเริ่มมองหาสถานที่เพื่อปิดฉากชีวิตนักเตะอาชีพ ซึ่งมีความเป็นไปได้มากที่เป้าหมายจะอยู่ที่สหรัฐอเมริกา โดย อินเตอร์ ไมอามี่ ซึ่ง เดวิด เบ็คแฮม เป็นเจ้าของสโมสร(ร่วม) มีความสนใจที่จะเซ็นสัญญาแพ็คคู่เพื่อให้เมสซี่และซัวเรซวิ่งเคียงบ่าเคียงไหล่บนฟลอร์หญ้าระดับอาชีพเป็นครั้งสุดท้าย

“เมสซี” ให้ยืมเจ็ตพา “ซัวเรซ” และครอบครัวกลับอุรุกวัย

ฤดูกาล 2022-23 เมสซี่ยังคงร่วมไล่ล่าความสำเร็จกับปารีส แซงต์ แยร์กแมง ซึ่งมุ่งมั่นครองแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วนซัวเรซแยกทางกับแอตเลติโก มาดริด หลังหมดสัญญาสองปีที่เซ็นไว้ ดาวยิงวัย 35 ปี ซึ่งน่าจะลงสังเวียน เวิลด์คัพ เป็นครั้งสุดท้ายช่วงปลายปีนี้ ปฏิเสธข้อเสนอจาก แอลเอ เอฟซี ในเมเจอร์ ซอคเกอร์ ลีก แต่เลือกเดินทางกลับบ้านเกิด ประเทศอุรุกวัย เพื่อค้าแข้งกับ นาซิอองนาล ซึ่งเขาเคยค้าแข้งระหว่างปี 2005 – 2006 ก่อนเดินทางข้ามทวีปไปสร้างชื่อเสียงกับ โกรนิงเก้น, อาแจ็กซ์, ลิเวอร์พูล, บาร์เซโลน่า และ แอตเลติโก มาดริด

นาซิอองนาล เตรียมจัดงานเปิดตัวและต้อนรับการคืนสู่เหย้าของซัวเรซอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกิจกรรมเฉลิมฉลองความยาวร่วมสามชั่วโมงที่ กรัน ปาร์เก้ เซ็นทรัล สนามของสโมสร เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (31 ก.ค.2022)

ซัวเรซเดินทางจากแผ่นดินใหญ่ทวีปยุโรปมาถึงสนามบินนานาชาติที่คาร์ราสโก้ กรุงมอนเตวิเดโอ้ โดยมีโฮเซ่ ฟูเอ็นเตส ประธานสโมสร ให้การต้อนรับ ก่อนเดินทางตรงไปยังสนามที่มีแฟนบอลรออยู่ร่วมห้าหมื่นคน

ก่อนเริ่มงาน ซัวเรซเซลฟี่อัพขึ้นอินสตาแกรม เป็นภาพตัวเขาชูนิ้วโป้งให้กับเสื้อหมายเลข 9 ของเขาที่แขวนเป็นแถวอยู่ในห้องพักนักกีฬา พร้อมบรรยายความรู้สึกว่า การต้อนรับช่างเหลือเชื่อและไม่มีวันลืม ส่วนภรรยาก็ไม่น้อยหน้า โพสต์คลิปแฟนบอลที่ยืนให้การต้อนรับริมถนนระหว่างสนามบินถึงสนามแข่ง และรุมล้อมรถของซัวเรซด้วยความตื่นเต้นที่ได้ใกล้ชิดไอดอลของตัวเอง

ซัวเรซ พร้อมด้วยภรรยา โซเฟีย บัลบี้ และลูกทั้งสาม เดลฟิน่า เบนจามิน และเลาตาโร่ เดินทางมาลงสนามบินด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวมูลค่า 12 ล้านปอนด์ของเมสซี่ ซึ่งมีเบอร์ 10 อยู่ที่หางเครื่อง และแต่ละขั้นบันไดเป็นชื่อภรรยา แอนโตเนล่า รวมถึงลูกสามคน ติอาโก้ คีโร่ และมาเตโอ้

เครื่องบินเจ็ตสุดหรูสร้างโดยบริษัทแห่งหนึ่งในอาร์เจนตินา ออกแบบเพื่อให้ครอบครัวเมสซี่ใช้งานโดยเฉพาะ ประกอบด้วยห้องครัว สองห้องน้ำ และเก้าอี้ 16 ที่นั่ง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงนอน 8 เตียง

นอกจากส่งเครื่องบินเจ็ตมาอำนวยความสะดวกแก่การเดินทางของเพื่อน เมสซี่ยังอัดคลิปร่วมแสดงความยินดีซึ่งถูกเปิดภายในงานด้วย ขณะที่เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 7 สมัย พักผ่อนอยู่ในแมนชั่นที่ค่าพักตกสัปดาห์ละ 250,000 ปอนด์ บนเกาะส่วนตัวทางชายฝั่งทะเลด้านเหนือของเกาะอีบิซ่า ประเทศสเปน

เมสซี่ ซึ่งเล่นกับซัวเรซที่บาร์เซโลน่านานหกปี กล่าวว่า “ฉันขอส่งกอดและอวยพรให้นายโชคดีกับช่วงเวลาใหม่ในอาชีพนักฟุตบอล นายรู้ดีว่าฉันรักนายมากแค่ไหน ฉันจะติดตามนาซิอองนาลจากที่นี่ พวกเราแฟนบอลทีมนีเวลล์มีความทรงจำไม่ค่อยดีกับพวกนาซิอองนาลเท่าไหร่ แต่นายก็รู้ ฉันห่วงใยนายและพร้อมไปที่นั่นเสมอเมื่อนายต้องการ หวังว่าเราจะได้เจอกันเร็วๆนี้ บาย!”

“เมสซี่” ขอย้ายออกบาร์ซ่าหลังไม่พอใจ “ซัวเรซ” ถูกโละไร้เยื่อใย

เหตุการณ์ที่เป็นประจักษ์พยานอย่างชัดเจนถึงความรักและความห่วงใยของเมสซี่ที่มีต่อซัวเรซ หนีไม่พ้นช่วงที่กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ซึ่งทำสกอร์ให้บาร์เซโลน่ารวม 198 ประตู ถูกขายให้แอตเลติโก มาดริด หลังจากคูมันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมประมาณหนึ่งเดือน

ซัวเรซยอมรับว่าไม่พอใจคูมันปฏิบัติต่อเขาแบบไม่ให้เกียรติด้วยการคุยผ่านโทรศัพท์แค่ 40 วินาที ครั้งหนึ่งเขาเคยเล่าเรื่องนี้กับนักข่าวดัง เจอราร์ด โรเมโร่ ผ่านวิดีโอสตรีมมิ่ง ทวิตซ์ ว่า

“คูมันโทรศัพท์บอกผมโดยใช้เวลาเพียง 40 วินาที ซึ่งไม่ใช่วิธีที่สมควรใช้บอกลานักเตะระดับตำนาน เรื่องแรก เขาบอกว่าผมไม่อยู่ในแผนงานของเขา จากนั้นบอกว่า ถ้าไม่จัดการสัญญาให้เรียบร้อย ผมจะถูกลดบทบาท เขาไร้ซึ่งบุคลิกภาพที่ดีที่จะถ่ายทอดให้ชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการผมหรือว่าสโมสรไม่ต้องการผมกันแน่”

ต่อจากนั้น ซัวเรซยังระบุด้วยว่า เมสซี่พยายามที่จะไปจากสโมสรหลังเหตุการณ์ดังกล่าว

“ผมคุยเรื่องนี้กับโซเฟีย (ภรรยา) และลีโอหลังวางหูจากคูมัน มันเป็นวันเวลาที่ยากลำบากเมื่อมองจากทุกสิ่งที่ผมทุ่มเทให้สโมสร เมสซี่ทำเรื่องขอย้ายทีม ส่วนผมก็โดนให้ออก เป็นช่วงเวลาที่แย่มากสำหรับครอบครัวของเราสองคน”

เมื่อเพื่อนโดนทำร้าย ก็เหมือนตัวเองโดนทำให้บาดเจ็บด้วยเช่นกัน นั่นคือสิ่งที่เพื่อนอย่างเมสซี่แสดงปฏิกิริยาออกต่อคูมันและบาร์เซโลน่า