Khaimukdam Group

SPECIAL CONTENT

ทอม เวอร์เนอร์ : ไม่มีใครอยากคิดถึงวันที่ “คล็อปป์” อำลาลิเวอร์พูล

เหลืออีกเพียงไม่กี่ชั่วโมง ลิเวอร์พูล จะทำศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ กับเรอัล มาดริด ซึ่งเป็นการลุ้นแชมป์ที่ 3 ของฤดูกาลนี้ และเข้าชิงชนะเลิศถ้วยใหญ่ยุโรปเป็นครั้งที่ 3 จาก 5 ซีซั่นหลังสุด 

นับตั้งแต่กลุ่มแฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป (FSG) เข้ามาซื้อกิจการของลิเวอร์พูล เมื่อเกือบ 12 ปีก่อน ในช่วงที่สโมสรเกือบจะล้มละลาย แต่ด้วยการบริหารที่ชาญฉลาด ทำให้สถานการณ์ทางการเงินดีขึ้นเรื่อยๆ

และการเข้ามาของเจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้สโมสรกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง คว้าแชมป์มาแล้ว 6 รายการ แถมยังตกลงต่อสัญญาอยู่คุมทีมต่อไป จนถึงปี 2026

วันนี้ SoccerSuckไข่มุกดำ ได้นำบทสัมภาษณ์ของทอม เวอร์เนอร์ ประธานสโมสรลิเวอร์พูล มาฝากกัน เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อย ก่อนเกมนัดสำคัญในคืนวันเสาร์นี้

ขอบคุณภาพ : https://www.facebook.com/ThailandLiverpoolFC

การเดินทางเกือบ 12 ปี นับตั้งแต่เข้ามาบริหารสโมสร

เกมแรกของลิเวอร์พูล ภายใต้การบริหารของกลุ่ม FSG คือเกมบุกไปแพ้เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสัน พาร์ค 0 – 2 เมื่อเดือนตุลาคม 2010 สถานการณ์ในตอนนั้น พวกเขาอยู่ในอันดับรองสุดท้ายของตารางคะแนน

ผ่านไปเกือบ 12 ปี ลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2021/22 กลายเป็นทีมที่ลุ้นแชมป์ 4 รายการ แบบใกล้เคียงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลอังกฤษ ถึงแม้จะไม่เกิดขึ้นจริงๆ แต่พวกเขามาได้ไกลมากๆ แล้ว

เวอร์เนอร์ ได้เปิดใจถึงการเข้ามาบริหารสโมสรแห่งนี้ว่า “ตอนที่เราซื้อสโมสรลิเวอร์พูล เราพยายามคิดให้ออกว่า ในช่วง 5 – 10 ปีต่อจากนี้ จะอยู่ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้กี่ปี ? เราจะติดท็อปโฟร์ได้กี่ปี ?”

“แต่ในตอนนี้ การเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก 3 จาก 5 ปีหลังสุด มันน่าทึ่งมาก เราไม่เคยคิดมาก่อนเลย ไม่ว่าผลการแข่งขันที่ปารีสจะเป็นอย่างไร มันคือฤดูกาลที่พิเศษสุดๆ ของสโมสร เวลามันเป็นเครื่องพิสูจน์แล้ว”

เกมพรีเมียร์ลีก นัดสุดท้ายของซีซั่น ลิเวอร์พูล เอาชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน 3 – 1 แต่ไม่เพียงพอที่จะแซงแมนฯ ซิตี้คว้าแชมป์ เนื่องจากทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า พลิกเอาชนะแอสตัน วิลล่า 3 – 2 ทั้งๆ ที่ถูกนำก่อนถึง 2 ประตู

เวอร์เนอร์ กล่าวเสริมว่า “ตอนที่วิลล่ายิงประตูได้ ผมคิดว่าเรามีโอกาสคว้าแชมป์ แต่อย่างไรก็ตาม การที่ทีมได้ลุ้นจนถึงนัดสุดท้าย คือความสำเร็จที่สุดยอดแล้ว เราได้แชมป์มาแล้ว 2 รายการ และกำลังจะลุ้นแชมป์ที่ 3”

ขอบคุณภาพ : https://www.facebook.com/ThailandLiverpoolFC

ความเหลื่อมล้ำทางการเงิน คืออุปสรรคสำคัญ

สิ่งหนึ่งที่ทำให้กลุ่ม FSG รู้สึกผิดหวัง นับตั้งแต่เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร คือการที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แข่งสำคัญที่แย่งความสำเร็จในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ถูกลงโทษจากกรณีละเมิดกฏไฟแนนเชี่ยล แฟร์เพลย์

ข้อมูลจาก CIES Football Observatory เปิดเผยว่า ในรอบ 10 ปีหลังสุด แมนฯ ซิตี้ใช้เงินไป 1.5 พันล้านปอนด์ ซื้อขายผู้เล่นสุทธิ 842 ล้านปอนด์ ขณะที่ลิเวอร์พูล แม้จะใช้เงินไป 965 ล้านปอนด์ แต่ซื้อขายสุทธิแค่ 297 ล้านปอนด์เท่านั้น

เวอร์เนอร์ กล่าวว่า “แน่นอนว่าพวกเขา (แมนฯ ซิตี้) มีกำลังการเงินมากกว่าเรา เรากำลังแข่งขันในลีกที่ยากมาก แต่สิ่งที่เราแสดงให้เห็นมาตลอดนับตั้งแต่เข้ามาเมื่อ 12 ปีก่อน คือเราใช้จ่ายเงินอย่างยุติธรรม”

เมื่อเดือนที่แล้ว ยูฟ่าได้อนุมัติกฎควบคุมการเงินใหม่ โดยให้ทุกสโมสรขาดทุนไม่เกิน 60 ล้านยูโร ใน 3 ปีหลังสุด และให้ใช้จ่ายได้ไม่เกิน 70 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ของสโมสร โดยจะเริ่มใช้กฎใหม่นี้ในปี 2024

เวอร์เนอร์ กล่าวต่อว่า “ผมหวังว่าพรีเมียร์ลีกจะยังทำตามเจตนารมณ์ของกฎ FFP ทุกสโมสรต้องถูกควบคุม เพราะจะช่วยให้ทุกสโมสร ไม่ใช่แค่ลิเวอร์พูลเท่านั้น แข่งขันภายใต้ระบบที่ยุติธรรม และมีความยั่งยืน”

“มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราในการปฎิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ว่าใครจะมีการลงทุนมหาศาลแค่ไหน แต่ถ้าทุกสโมสรอยู่ภายใต้กฎระเบียบเดียวกัน เราก็ยินดี ไม่มีปัญหาอะไร”

ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ แม้ไม่มีเงินมหาศาล

ลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2021/22 คือฤดูกาลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ถึงแม้จะไม่มีกลุ่มทุนเงินหนาอยู่เบื้องหลัง แต่การบริหารการเงิน และทรัพยากรภายในทีมที่ชาญฉลาด ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

เวอร์เนอร์ กล่าวว่า “แน่นอนว่าในปีนี้ เราพิสูจน์ให้เห็นแล้ว เรามีผู้ช่วยผู้จัดการทีมที่ดีอย่างเป๊ป ลินเดอร์ส และมีหัวหน้าฝ่ายโภชนาการที่ยอดเยี่ยมอย่างโมนา เนมเมอร์ และบรรดานักเตะอยากเล่นให้กับลิเวอร์พูล”

“ตอนที่เราเข้ามาบริหารใหม่ๆ เรามีความท้าทายที่จะเซ็นสัญญากับผู้เล่น 2 – 3 คน แต่จริงๆ แล้วเราเสียนักเตะออกจากทีมไป เพราะพวกเขารู้สึกว่าลิเวอร์พูลไม่ใช่สโมสรที่จะฝากอนาคตอะไรได้”

“เราต้องใช้ความพยายามอย่างมากเลย แต่เมื่อลองมองย้อนกลับไป ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับความมุ่งมั่นของเราในการตั้งหลักกันใหม่ ผลงานในสนามดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และการเงินก็ดีขึ้นมาก”

“ตอนนี้เรามีความแข็งแกร่งทั้งในและนอกสนาม สิ่งที่เราพยายามสร้างมาอย่างหนัก มันกำลังออกดอกออกผลแบบเงียบๆ และสามารถแข่งขันกับใครก็ได้แล้ว”

ขอบคุณภาพ : https://www.facebook.com/ThailandLiverpoolFC

การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของฝ่ายเทคนิคหลังจบซีซั่น

หลังจากจบเกมชิงดำแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พบกับเรอัล มาดริด ในวันเสาร์นี้ ลิเวอร์พูลจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในฝ่ายเทคนิค ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ จะสิ้นสุดหน้าที่ผู้อำนวยการกีฬาของสโมสร

เอ็ดเวิร์ดส์ อยู่กับลิเวอร์พูลมาตั้งแต่ปี 2011 เริ่มงานจากตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ ต่อมาได้รับการเลื่อนตำแหน่งมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค และก้าวสู่ผู้อำนวยการกีฬาในปี 2016

ผลงานที่เป็นภาพจำของเอ็ดเวิร์ดส์ คือการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังดีลสำคัญๆ ที่มีส่วนในการสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ อาทิเช่น โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, อลิสซง เบ็คเกอร์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เป็นต้น

และผู้ที่จะก้าวเข้ามารับหน้าที่นี้แทน คือ จูเลี่ยน วอร์ด ผู้ช่วยผู้อำนวยการกีฬา ซึ่งเวอร์เนอร์เชื่อว่า วอร์ดจะเป็นตัวแทนที่ยอดเยี่ยมสำหรับตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ของหงส์แดง

“ผมได้ดูจูเลี่ยนตอนที่นำหลุยส์ ดิอาซ มาร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคม เขามีส่วนมากๆ ในการเปลี่ยนใจหลุยส์ ที่กำลังตัดสินใจย้ายไปอยู่กับท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ จนมาสร้างความแตกต่างให้กับลิเวอร์พูล”

คล็อปป์ กับผู้อยู่เบื้องหลังคนสำคัญในการต่อสัญญาใหม่

เมื่อเดือนที่แล้ว มีข่าวหนึ่งที่ทำให้สโมสรน่ากังวลใจ คืออนาคตของเจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือคนเก่ง เนื่องจากเหลือสัญญาคุมทีมอีกแค่ 2 ปี พร้อมกับเตรียมหาผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากเขา

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีส่วนสำคัญในการเกลี้ยกล่อมให้คล็อปป์ยอมอยู่กับลิเวอร์พูลต่อไป คืออุลล่า แซนด์ร็อค ภรรยาของเขา โดยเวอร์เนอร์ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง พร้อมยอมรับว่าไม่มีใครอยากเห็นคล็อปป์อำลาทีม

“ผมต้องให้เครดิตอูลล่าเลย เธอมีส่วนอย่างมากในการแนะนำให้เจอร์เก้นอยู่กับลิเวอร์พูลต่อไป ไมค์ กอร์ดอน คุยกับเขาทุกวัน และพยายามแจ้งความคืบหน้ามาโดยตลอดว่า เขากำลังพิจารณาเรื่องต่อสัญญาใหม่”

“และเมื่อเขาตัดสินใจอยู่ต่อ ผมรู้สึกโล่งทีเดียว เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อที่เขาอยู่กับสโมสรไปอีก 2 – 3 ปี ผมดีใจมากๆ เพราะคงไม่มีใครอยากนึกภาพในวันที่เขาไม่ได้เป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลแล้ว”

ขอบคุณภาพ : https://www.facebook.com/ThailandLiverpoolFC

อนาคต “ซาล่าห์-มาเน่” จะอยู่กับลิเวอร์พูลต่อไปหรือไม่ ?

ลิเวอร์พูล ได้ผู้เล่นใหม่มาเสริมทัพเป็นคนแรกในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ คือ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ กองหน้าดาวรุ่งวัย 19 ปี จากฟูแล่ม ซึ่งจะย้ายเข้าสู่ถิ่นแอนฟิลด์อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้

แต่สำหรับ 2 ดาวยิงคนสำคัญ ทั้งโมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ และซาดิโอ มาเน่ กำลังจะหมดสัญญาในช่วงกลางปีหน้า ทางสโมสรจะเจรจากับเอเย่นต์ของนักเตะอีกครั้ง หลังจบเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ในวันเสาร์นี้

“ผมจะไม่เปิดเผยว่า นักเตะกับเอเย่นต์คุยอะไรกันบ้าง แต่เราได้อธิบายความปรารถนาของเราแล้วว่า พวกเขาจะยังอยู่กับสโมสรนี้ต่อไป เรื่องนี้ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของจูเลี่ยน”

“ตอนนี้เรากำลังจะได้แข่งขันกับสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากสโมสรหนึ่ง หลังจากเกมที่ปารีสจบลง เราจะกลับไปคุยกันถึงอนาคตของพวกเขา” เวอร์เนอร์ กล่าวปิดท้าย

เรียบเรียง: จักรพันธ์ ภู่ทอง

#SoccerSuck #SS #ไข่มุกดำ #ลิเวอร์พูล #แชมเปี้ยนส์ลีก #คล็อปป์ #ทอมเวอร์เนอร์

อ้างอิง :

– https://theathletic.com/3330723/2022/05/25/liverpool-chairman-tom-werner-jurgen-klopp/

Facebook
Twitter
Pinterest
Email

Comments are closed.