Categories
Special Content

เอแดร์ซอน ผู้รักษาประตูสายพันธุ์ใหม่ ที่เกิดจากฟุตซอลและเป๊ปร่วมสร้าง

เอแดร์ซอน อาจไม่ใช่ผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติบราซิล ได้เล่นเพียง 19 นัดนับจากประเดิมสนามกับแมตช์ชนะชิลี 3-0 เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2017 แต่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี นายด่านวัย 29 ปี ยึดตัวจริงได้เหนียวแน่น เป็นหนึ่งในขุนพลคู่บารมีของเป๊ป กวาร์ดิโอลา นับตั้งแต่ย้ายเข้าถิ่นเอติฮัดระหว่างตลาดซัมเมอร์ปี 2017

พรีเมียร์ลีกห้าซีซันแรก เอแดร์ซอนพลาดเฝ้าประตูแค่ 8 นัดเท่านั้น โดยเฉพาะซีซัน 2018-19 เขาลงตัวจริงครบ 38 นัด ส่วนฤดูแข่งปัจจุบัน นับถึงเกมที่ 29 ซึ่งแมนฯซิตีชนะเซาแธมป์ตัน ไม่มีนัดไหนที่กวาร์ดิโอลาไม่ใส่เอแดร์ซอนในรายชื่อ 11 คนแรก

ทุกเกียรติประวัติของแมนฯซิตียุคกวาร์ดิโอลา เอแดร์ซอนได้รับเท่ากับที่นายใหญ่ชาวสเปนของเขาได้รับ แชมป์พรีเมียร์ลีก 4สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย, แชมป์อีเอฟแอล คัพ 4 สมัย, แชมป์เอฟเอ คอมมูนิตี ชิลด์ 2 สมัย รวมถึงเหรียญรองแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ปี 2021

ชีวิต 24 ปีก่อนลงหลักปักฐานที่แมนฯซิตี

เอแดร์ซอน ซานตานา เด โมราเรส เกิดวันที่ 17 สิงหาคม 1993 ที่โอซัสคู รัฐเซา เปาโล ประเทศบราซิล เริ่มเส้นทางนักฟุตบอลกับสโมสร เซา เปาโล ในปี 2008 เล่นแค่ปีเดียวก็เดินทางข้ามทวีปไปอยู่กับทีมเยาวชนของ เบนฟิกา ในโปรตุเกสตอนอายุ 16 ปี แต่ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้เบนฟิกา เอแดร์ซอนอยู่ได้สองปีก็ถูกปล่อยตัวในปี 2011

เอแดร์ซอนยังมองหาอนาคตในโปรตุเกสต่อไป โชคที่ ริเบลราโอ ซึ่งอยู่ในดิวิชันสองขณะนั้น อ้าแขนรับ ก่อนเซ็นสัญญากับ ริโอ อเว สโมสรปรีไมรา ลีกา ในตลาดซัมเมอร์ปี 2012 ที่นี่เขาโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นจนถูกเรียกตัวร่วมทีมชาติบราซิล ยู-23 ในเดือนเมษายน 2015 ขณะที่ริโอ อเว ต่อสัญญาใหม่ไปถึงปี 2019 แต่ไม่กี่เดือนต่อมา เบนฟิกา เห็นแววสดใสของเอแดร์ซอน จึงคว้าตัวกลับไปด้วยสัญญาห้าปีในเดือนกรกฎาคม 2015 และจ่ายค่าตัวให้ต้นสังกัด 5 แสนยูโร พร้อมเงื่อนไขแบ่งค่าตัว 50 เปอร์เซ็นต์หากเบนฟิกาขายเอแดร์ซอนในอนาคต

ซีซัน 2015-16 เอแดร์ซอนเป็นตัวสำรองของฮูลิโอ ซีซาร์ ในทีมชุดใหญ่ และถูกส่งลงไปเล่นให้ทีมสำรองของเบนฟิกาในดิวิชันสอง จนกระทั่งวันที่ 5 มีนาคม 2016 เอแดร์ซอนได้สัมผัสเกมลีกสูงสุดแทนฮูลิโอ ซีซาร์ ที่บาดเจ็บ เบนฟิกาชนะสปอร์ติง ลิสบอน 1-0 ขยับขึ้นไปยืนแป้นจ่าฝูงลีกแดนฝอยทอง เขามีส่วนร่วมในช่วงที่เหลือของซีซันที่ปิดฉากด้วยแชมป์ปรีไมรา ลีกา สมัยที่ 35 อีกทั้งยังได้เฝ้าประตูนัดชิงชนะเลิศ Taça da Liga (หรือ Portuguese League Cup เปรียบได้กับลีก คัพ ของโปรตุเกส) ซึ่งชนะมาริติโม 6-2 นั่นเท่ากับว่า เอแดร์ซอนได้เหรียญแชมป์ 2 รายการในปีแรกกับเบนฟิกาทั้งที่ลงเล่น 15 นัด ยังไม่นับอีก 3 นัดของแชมเปียนส์ ลีก ที่เบนฟิกาเข้าถึงรอบแปดทีมสุดท้าย

ซีซัน 2016-17 เอแดร์ซอนเป็นนายทวารมือหนึ่ง ครองแชมป์เมเจอร์ร่วมกับเบนฟิกาอีก 2 รายการคือ ปรีไมรา ลีกา และ Taça de Portugal (หรือ Cup of Portugal เปรียบได้กับเอฟเอ คัพ ของโปรตุเกส)

1 มิถุนายน 2017 เบนฟิกาแถลงข่าวขายเอแดร์ซอนให้แมนฯซิตี ด้วยราคา 40 ล้านยูโร เป็นค่าตัวผู้รักษาประตูที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลกขณะนั้นต่อจากจิอันลุยจิ บุฟฟอน (52 ล้านยูโรในปี 2001) ก่อนหล่นลงไปอยู่อันดับ 4 ตามหลัง อลิสซอน เบคเกอร์ (75 ล้านยูโรในปี 2018) และเกปา อาร์รีซาบาลากา (80 ล้านยูโรในปี 2018)

วางบอลยาวสร้างประทับใจแรกให้เป๊ป

ย้อนกลับไปปลายซีซัน 2015-16 ปีแรกของเอแดร์ซอนกับเบนฟิกา ตอนนั้นกวาร์ดิโอลายังคุมทีมบาเยิร์น มิวนิก แม้เซ็นสัญญาล่วงหน้ากับแมนฯซิตีในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 เขาเฝ้าดูฟอร์มการเล่นของเบนฟิกา ซึ่งเป็นคู่แข่งของทีมเสือใต้ในรอบก่อนรองชนะเลิศของแชมเปียนส์ ลีก

“ไอ้หนุ่มคนนั้นเป็นใคร” กวาร์ดิโอลาเอยปากถามกับสตาฟฟ์โค้ชเมื่อเห็นทักษะการเตะบอลของเอแดร์ซอนด้วยตาตัวเองเป็นครั้งแรก ต่อมาราวหนึ่งปีเศษ เขาก็ได้ร่วมงานกับนายทวารบราซิลที่แมนฯซิตี

ทันทีที่เข้าทำงานในเมืองแมนเชสเตอร์ กวาร์ดิโอลาปรับขุมกำลังสำหรับซีซัน 2016-17 เซ็นสัญญากับ อิลคาย กุนโดกัน, ลีรอย ซาเน และจอห์น สโตนส์ ซึ่งล้วนมีส่วนในความสำเร็จของแมนฯซิตีในเวลาต่อมา กุนซือสเปนยังทำให้แฟนบอลบางกลุ่มไม่พอใจด้วยการดึงเคลาดิโอ บราโว อดีตลูกทีมที่บาร์เซโลนา มาทำหน้าที่แทนโจ ฮาร์ท ซึ่งเป็นนายประตูมือหนึ่งของแมนฯซิตีนานหลายปี เนื่องจากกวาร์ดิโอลาไม่พอใจการเล่นช่วงพรีซีซันของฮาร์ท จึงปล่อยให้โตริโนยืมใช้งาน

แต่บราโวเล่นได้น่าผิดหวัง กวาร์ดิโอลาไม่ได้แชมป์อะไรในซีซันแรก เขาพยายามยกระดับเกมรับในตลาดซัมเมอร์ปี 2017 เซ็นสัญญากับสองวิงแบ็ค เบนจามิน เมนดี และไคล์ วอล์คเกอร์ รวมถึงคว้าตัวเอแดร์ซอนที่เขาประทับใจเมื่อครั้งคุมทีมบาเยิร์น

เอแดร์ซอนเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงของแมนฯซิตีตั้งแต่ซีซัน 2017-18 เปิดฉาก การจ่ายบอลสั้นจากแบ็คไลน์มีส่วนสร้างความสำเร้จให้กับทีม รวมถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยในห้าปี แต่กวาร์ดิโอลาเคยให้สัมภาษณ์ว่า การจ่ายบอลยาวของเอแดร์ซอนต่างหากที่ทำให้เขาทึ่ง “นั่นหมายความว่า เรามีโอกาสวางบอลยาวไปยังกรอบเขตโทษอีกฝั่งหนึ่งแล้ว”

ยอดนายทวารวัย 29 ระลึกอดีตเกือบเจ็ดปีที่แล้ว เขาเชื่อว่าคงเป็นการทำประตูของ ราอูล ฮิเมเนซ ในเกมลีกนัดหนึ่งของเบนฟิกาที่ทำให้กวาร์ดิโอลาเกิดไอเดียอะไรบางอย่าง

เอแดร์ซอนให้สัมภาษณ์กับสกายสปอร์ตส์ว่า “ราอูลเป็นคนที่ขึ้นไปสูงที่สุดของทีมเสมอ เขาเป็นคนที่วิ่งเร็วฝีเท้าจัด มักมองหาจังหวะวิ่งตัดแนวหลังฝ่ายตรงข้าม ผมเลยหมั่นหาโอกาสส่งบอลไปให้เขารวดเร็วที่สุด โดยเฉพาะเกมสำคัญที่ช่วยให้เราครองแชมป์ ผมมีความสุขเสมอที่มีส่วนแอสซิสต์” ใช่แล้ว..ฮิเมเนซทำสกอร์นั้นจากการส่งบอลยาวของนายด่านร่วมทีม

กวาร์ดิโอลาต้องการอะไรแบบนั้นกับแมนฯซิตีเช่นกัน เอแดร์ซอนกล่าวต่อว่า “นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่พวกเราใช้เวลาฝึกซ้อมเยอะมากโดยเฉพาะปีแรกที่ผมย้ายเข้ามา ในนัดสองของพรีซีซันที่อุ่นเครื่องกับสเปอร์ส แซร์จิโอ อเกวโร ยิงชนเสา นั่นเป็นสัญญาณดีในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น”

เอแดร์ซอนช่วยเพิ่มมิติใหม่ให้กับการเล่นของแมนฯซิตี “มันเป็นประโยชน์มากเมื่อเจอทีมที่เล่นเพรสสูงเพราะเราสามารถชิงความได้เปรียบจากการที่พวกเขาเปิดพื้นที่แดนหลัง มันเป็นอาวุธที่เจ๋งมากช่วยให้เราเล่นได้หลากหลายทั้งระยะสั้น กลาง และยาว”

เปิดบอลแม่นและเร็ว จุดแข็งของเอแดร์ซอน

จาก 211 นัดที่ผ่านมาในพรีเมียร์ลีก เอแดร์ซอนทำแอสซิสต์ให้แมนฯซิตี 3 ครั้ง ลูกที่อยู่ในความทรงจำของหลายคนคือแอสซิสต์ที่ส่งให้กุนโดกันยิงประตูสเปอร์สในปี 2021 แต่ถ้าให้ยกตัวอย่างที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุดในเชิงแท็คติกน่าจะเป็นประตูของเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่ยิงในแมตช์ชนะไบรท์ตันเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมปีที่แล้ว 

“เป็นการผ่านบอลที่ดีมาก” เอแดร์ซอนเปิดใจถึงแอสซิสต์ล่าสุด “เขา (ฮาลันด์) ชอบเคลื่อนที่ลักษณะนั้น เขาเป็นผู้เล่นที่สภาพร่างกายแข็งแกร่งพร้อมระเบิดตลอดเวลา นั่นเวิร์คมากกับไบรท์ตันที่ประกบเราแบบตัวต่อตัวและเพรสค่อนข้างสูง เราจึงชิงได้เปรียบด้วยการส่งบอลยาวข้ามพวกเขาไปแดนหน้า”

ไม่ใช่พละกำลังความแรงในการเตะ แต่เป็นความแม่นยำและความเร็วที่ผู้คนต่างแซ่ซ้องสรรเสริญเอแดร์ซอน เขายืนอันดับหนึ่งของผู้รักษาประตูที่เตะบอลยาวแม่นยำที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ที่ตัวเลช 52% (คำนวณจากการเตะลูกยาวอย่างต่ำ 100 ครั้ง) ตามด้วยมาร์ค ทราเวอร์ส (บอร์นมัธ) 49%, อลิสซอน เบคเกอร์ (ลิเวอร์พูล) 47%, เกปา อาร์รีซาบาลากา (เชลซี) 45% และอูโก โยริส (สเปอร์ส) 43%

เมื่อถูกถามว่ารู้สึกชอบแอสซิสต์มากกว่าการป้องกันหรือเปล่า เอแดร์ซอนตอบว่า “ผมยังชอบการเซฟมากกว่าอยู่แล้ว นั่นคืองานที่ผู้รักษาประตูต้องทำให้ดีที่สุด แต่ผมก็มีความสุขที่ได้แอสซิสต์นะ มันไม่ใช่อะไรที่เกิดขึ้นทุกวัน”

แต่การเซฟก็ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยเช่นกันเมื่อเทียบกับมาตรฐานปกติของผู้รักษาประตูในพรีเมียร์ลีก เพราะตลอดหกปีที่ร่วมงานกับกวาร์ดิโอลา แมนฯซิตีเป็นทีมที่คู่แข่งมีจังหวะยิงประตูน้อยที่สุด อีกนัยหนึ่งคือ เอแดร์ซอนไม่ค่อยได้ออกแรงเซฟมากนัก

นั่นจึงเป็นภาพอีกด้านของนายทวารในทีมที่ประสบความสำเร็จสูง ขณะที่โรดรี เอร์นานเดซ มิดฟิลด์ทีมเรือใบสีฟ้า เป็นคนที่มีสถิติจ่ายบอลมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกับฮาลันด์ที่ยิงในกรอบเขตโทษเหนือทุกคนในลีก ดูเหมือนเอแดร์ซอนมีงานเบากว่าผู้รักษาประตูทีมอื่น

คำถามใหม่จึงถูกตั้งขึ้นมาว่า แล้วอะไรในสนามแข่งที่สร้างความหนักใจให้เอแดร์ซอนมากที่สุด “สภาพอากาศที่หนาวเย็นโดยเฉพาะตอนเหนือที่ฝนตกประจำ เหมือนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในแมนเชสเตอร์”

ฟุตซอลในวัยเด็กช่วยสร้างตัวตนทุกวันนี้

ถ้าให้ตอบอย่างจริงจัง เอแดร์ซอนชี้ว่าเป็นเรื่องสมาธิจดจ่อกับเกมการแข่งขัน เพราะเมื่อบอลจากฝ่ายตรงข้ามไม่มีโอกาสมาถึงหน้าประตูแมนฯซิตีบ่อยนัก จิตใจของเขามีโอกาสหลุดลอยคิดเรื่องอื่นได้ ซึ่งนั่นเป็นเหมือนดาบสองคม ทำให้ลดทอนปฏิกิริยาที่ควรเฉียบคมและว่องไว

“เป็นหนึ่งในความยากลำบากที่ผมเจอตอนย้ายมาใหม่ๆ มันยากจริงๆที่ใจจะจดจ่อตลอดเวลา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากโดยเฉพาะกับพรีเมียร์ลีก ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการเล่นปกติ หรืออ่านเกมเพื่อจ่ายและเซฟ ล้วนเป็นตัวแปรใหญ่สำหรับการเล่นของผม ผมทำงานหนักเพื่อสิ่งนั้น ทุกวันนี้ผมยังฝึกฝนเพื่อพัฒนาตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้คาดการณ์สิ่งต่างๆระหว่างแมตช์”

หนึ่งในโมเมนต์คือการตัดสินใจออกมาจากพื้นที่ตัวเองเพื่อทำหน้าที่สวีปเปอร์หลังแนวรับ ทักษะตรงนี้มีส่วนทำให้เอแดร์ซอนโดนยิงน้อยกว่านายปรตูทีมอื่น “นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมฝึกเยอะมาก การเล่นไฮไลน์ของผู้รักษาประตู เราต้องตัดสินใจว่าจะขึ้นมาเพื่อบิลด์-อัพเกมอย่างไร”

แต่อีกด้านหนึ่ง ไฮไลน์เพิ่มความเสี่ยงต่อการเจ็บตัวเหมือนช่วงต้นที่เล่นให้แมนฯซิตี เอแดร์ซอนถูกเย็บหลายเข็มจากการโดนซาดิโอ มาเน แนวรุกลิเวอร์พูล เตะบริเวณใบหน้า “ผมเชื่อนะ บางทีผู้รักษาประตูจำเป็นต้องบ้าบิ่นหน่อยๆ แต่คุณไม่สามารถหวาดกลัวที่จะออกมาเพื่อหยุดการเล่นลักษณะนั้นของคู่ต่อสู้”

ความกล้าหาญยังคงเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นของเอแดร์ซอน “ผมมักทุ่มเททุกอย่างที่มีลงไปเสมอ แม้กระทั่งกระดูกบางชิ้นอาจหัก ผมก็ยังจะทำ”

แต่กูรูลูกหนังต่างเห็นตรงกันว่า ทักษะการเล่นบอลด้วยเท้าทำให้เอแดร์ซอนต่างจากผู้รักษาประตูส่วนใหญ่ นั่นเป็นผลพ่วงจากการเล่นฟุตบอลด้วยเท้าเปล่าที่บ้านเกิดในบราซิล บ่อยครั้งที่ทำให้เล็บเท้าหลุดเพราะเล่นมากเกินพอดี

เอแดร์ซอนกล่าวว่า การเล่นฟุตซอลสมัยเด็กๆช่วยสร้างสไตล์การเล่นเฉพาะตัวของเขาขึ้นมา “ฟุตซอลมีส่วนช่วยเยอะ คุณต้องมีใจเยือกเย็น ตัดสินใจถูกต้อง และเลือกจ่ายบอลสวยๆ เนื่องจากสนามแข่งมีขนาดเล็ก คุณต้องเล่นภายใต้ความกดดันเกือบตลอดเวลา ซึ่งช่วยให้ผมเป็นนักฟุตบอลอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ช่วยให้ผมสามารถสงบใจให้เยือกเย็นตามธรรมชาติ”

“บางครั้งการได้ยินเสียงแฟนบอลที่ทะลวงลึกลงไปในจิตใจขณะเล่น เพิ่มความเสี่ยงให้อย่างไม่รู้ตัว แต่ผมไม่สามารถเสียสมาธิได้ ผมจำเป็นต้องรักษาความเยือกเย็นเข้าไว้ ซึ่งจะช่วยให้ผมตัดสินใจได้ถูกต้องแม่นยำเมื่อฝ่ายตรงข้ามกำลังเพรสเข้ามา และอีกงานสำคัญของผมคือ มองหาเพื่อนร่วมทีมที่ว่างอยู่”

แม้ไม่ได้มีบทบาทโดดเด่นบนสังเวียนระดับนานาชาติร่วมกับทีมชาติบราซิลมากนัก แต่ปัจจัยทั้งหมดได้ก่อร่างสร้างตัวตนของเอแดร์ซอนให้เป็นผู้รักษาประตูที่มีแคแรกเตอร์เฉพาะตัวและโดดเด่นคนหนึ่งในโลกกีฬาลูกหนัง

เรียบเรียง : ฐปน วันชูเพลา (Senior Football Writer) 

Categories
Football Business

โรนัลโด กับอัจฉริยะนอกสนามฟุตบอล สร้างพลิกโฉมหน้า บายาโดลิด-ครูไซโร

โรนัลโด ลุยซ์ นาซาริโอ เด ลิมา หรือ โรนัลโด เป็นชื่อที่ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณให้มากความ ไม่มีใครที่เป็นแฟนกีฬาลูกหนังแล้วไม่รู้จักอดีตซูเปอร์สตาร์กองหน้าทีมชาติบราซิลที่ค้าแข้งระหว่างปี 1993 ถึง 2011 กับครูไซโร, พีเอสวี ไอน์ดโฮเฟน, บาร์เซโลนา, อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด, เอซี มิลาน และคอรินเธียนส์

R9 ลงสนามให้ทีมชาติบราซิล 98 นัด ทำไป 62 ประตู มากที่สุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์ทีมชาติบราซิล โรนัลโดอยู่ในทีมชุดแชมป์โลกปี 1994 ขณะอายุเพียง 17 ปี และชนะเลิศอีกหนึ่งครั้งในปี 2002 เป็นหนึ่งในฟรอนท์ทรีในตำนานร่วมกับโรนัลดินโญและริวัลโด ส่วนแชมป์โคปา อเมริกา เขาได้เหรียญชนะเลิศ 2 สมัยในปี 1997 และ 1999 สำหรับเกียรติประวัติส่วนตัว โรนัลโดได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟา 3 สมัยและบัลลงดอร์ 2 สมัย เขาแขวนสตั๊ดในปี 2011 เนื่องจากบาดเจ็บเรื้อรังโดยเฉพาะหัวเข่า

โรนัลโดเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีนักฟุตบอลด้วยรายได้มหาศาลจากอาชีพค้าแข้ง หนึ่งในนั้นคือการเซ็นสัญญาตลอดชีพมูลค่า 160 ล้านปอนด์กับไนกี บริษัทผลิตอุปกรณ์และชุดกีฬายักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน ปัจจุบันบทบาทของโรนัลโดที่ปรากฏต่อสาธารณชนคือ นักธุรกิจและเจ้าของสโมสรฟุตบอลเรอัล บายาโดลิด และครูไซโร ซึ่งโรนัลโดได้พาทั้งสองทีมกลับขึ้นมาเล่นบนสังเวียนลีกสูงสุดของประเทศด้วยระยะเวลาห่างกันเพียงห้าเดือน

ความจริงแล้ว อดีตยอดดาวซัลโววัย 46 ปี เคยเป็นเจ้าของสโมสรทีมฟุตบอลหลังจากอำลาวงการเพียงสามปีเท่านั้นแม้เป็นการครอบครองหุ้นจำนวนน้อยของฟอร์ต เลาเดอร์เดล สไตรเกอร์ส ทีมในนอร์ธ อเมริกัน ซอคเกอร์ ลีก (เอ็นเอเอสแอล) ลีกลูกหนังอาชีพของสหรัฐอเมริกาและแคนาดาในขณะนั้น และเคยเป็นทีมเก่าช่วงทศวรรษ 1970 ของจอร์จ เบสต์ อดีตดาวดังของแมนฯยูไนเต็ด

เคยมีข่าวว่าโรนัลโดเตรียมกลับมาสวมสตั๊ดคืนสนามฟุตบอลร่วมกับทีมสไตรเกอร์สแต่มันไม่ได้เกิดขึ้นจริง เขาเคยพาทีมไปทัวร์พรีซีซันที่ประเทศจีนด้วย แต่โปรเจกต์แรกของโรนัลโดต้องปิดฉากลงหลังจากลีกยุติการแข่งขันเมื่อปี 2016

แต่โรนัลโดยังไม่ละทิ้งความฝัน เขากลายเป็นเจ้าของเรอัล บายาโดลิด สโมสรในลาลีกา ลีกสูงสุดของสเปน หลังจากทุ่มเงิน 30 ล้านยูโรเพื่อซื้อหุ้นสโมสร 51 เปอร์เซ็นต์ในปี 2018 ก่อนเพิ่มเป็น 82 เปอร์เซ็นต์ในปี 2020 ทำให้เขามีอำนาจสูงสุดในการบริหารสโมสรและเริ่มต้นบายาโดลิดยุคโรนัลโดอย่างแท้จริง แต่โชคร้ายที่ “พูเซลานอส” ตกไปอยู่ดิวิชัน 2 ในฤดูกาล 2021-22

“ผมผ่านอะไรมามากมายเพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อสิ่งนี้ ฟุตบอลเป็นเรื่องของแพสชันล้วนๆ เราต้องการสร้างทีมที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นได้เพื่อลงแข่งขันพร้อมให้ข้อมูลการบริหารจัดการสโมสรด้วยความโปร่งใส”

ภายหลังบายาโดลิดเป็นรองแชมป์เซกุนดา ดิวิชัน ใช้เวลาเพียงปีเดียวกลับขึ้นมาอยู่ลีกสุงสุดอีกครั้งในฤดูกาล 2022-23 โรนัลโดได้ซื้อเครื่องเล่นเกมเพลย์สเตชัน 5 แจกให้กับนักเตะทุกคนเป็นรางวัลและสัญลักษณ์ของการขอบคุณ

ในเดือนธันวาคม 2021 โรนัลโดสั่งจ่ายเช็ค 70 ล้านยูโรเพื่อซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของครูไซโร ทีมแรกของเขาในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ พร้อมประกาศสัญญาว่าจะนำครูไซโรกลับไปอยู่ในจุดที่สโมสรสมควรอยู่อีกครั้ง

เพียงเก้าเดือนหลังนั่งเก้าอี้เจ้าของสโมสร ครูไซโรผงาดครองแชมป์ คัมเปโอนาโต บราซิเลียโร เซเรีย บี ประจำปี 2022 ทำแต้มทิ้งห่างอันดับ 2 เกรมิโอ 15 คะแนน เป็นหนึ่งในสี่ทีมที่ถูกโปรโมทขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดประเทศบราซิล ตามหลังบายาโดลิดแค่ห้าเดือนเท่านั้น

โรนัลโดเปิดใจผ่านโซเชียลมีเดียว่า “ยังคงพูดไม่ออก พยายามดูดซับทุกเรื่องราวที่ผ่านเป็นประสบการณ์เข้ามาในช่วง 2-3 เดือน พวกเราคือ บลู เนชัน เอฟเอเอฟ ครูไซโร การขึ้นจากเซเรีย บี ได้รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์นับว่าเราประสบความสำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยเวลาเก้าเดือนกับโปรเจกต์ก่อร่างสร้างสโมสรใหม่ นี่เป็นผลงานที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้แล้ว”

⚽️ เรอัล บายาโดลิด แบรนด์โลกและสโมสรระดับสากล

แต่ก่อนประสบความสำเร็จกับบายาโดลิดและครูไซโร โรนัลโดเคยเจอความล้มเหลวในการประกอบธุรกิจมาแล้ว ซึ่งเรื่องราวที่รับรู้โดยทั่วกันคือการก่อตั้ง 9ine บริษัทเอเยนซีโฆษณาที่โฟกัสด้านการตลาดกีฬาและบันเทิงเมื่อปี 2011 โดยบริษัทมีหน้าที่ดูแลบริหารภาพลักษณ์และผลประโยชน์ของนักกีฬาดังมากมายอย่างเช่น เนย์มาร์ (ฟุตบอล), ราฟาเอล นาดาล (เทนนิส), รูเบนส์ บาร์ริเชลโล (แข่งรถ), แอนเดอร์สัน ซิลวา (เอ็มเอ็มเอ), เปโดร บาร์รอส (สเก็ตบอร์ด), บรูนินโญ (วอลเลย์บอล) แต่โรนัลโดได้โบกมือลาเมื่อปี 2013 ก่อนที่บริษัทได้ปิดกิจการอีกสามปีให้หลัง 

อย่างไรก็ตาม โรนัลโดได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับ Octagon บริษัทเอเยนซีในประเทศบราซิลตั้งแต่ปี 2017 เนื่องจากมีความเชื่อว่าบราซิลมีศักยภาพและความฝันที่จะยกระดับกีฬาและบันเทิงทางด้านการตลาดขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง แต่ภายหลังไม่มีการเผยแพร่ความเคลื่อนไหวของโรนัลโดเกี่ยวกับเรื่องนี้สู่สาธารณชน อาจเป็นความน่าสนใจในฐานะผู้บริหารธุรกิจฟุตบอลได้เข้าปกคลุมพื้นที่สื่อไปทั้งหมดเพราะ R9 นับเป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพคนแรกที่เป็นเจ้าของสโมสรแถวหน้าของทวีปยุโรป

ย้อนกลับไปยังเดือนกันยายน 2018 โรนัลโดซื้อหุ้นของเรอัล บายาโดลิด 51 เปอร์เซ็นต์ รับตำแหน่งประธานสโมสรแทนคาร์ลอส ซัวเรซ ซึ่งทำหน้าที่มานาน 17 ปี ตำนานดาวซัลโวเข้ามาในเวลาที่เหมาะสมเพราะบายาโดลิดเพิ่งเลื่อนชั้นมาอยู่ลาลีกาหลังใช้เวลาสี่ปีกับเซกุนดา, วิกฤติทางการเงินคลี่คลายไประดับหนึ่ง, สโมสรไม่ได้มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่จนสร้างแรงกดดัน, สโมสรยังมีช่องทางเติบโตได้อีกมาก และบายาโดลิดตั้งอยู่ในพิกัดที่ดี ห่างจากกรุงมาดริดเพียงสองชั่วโมง

ช่วงที่บายาโดลิดตกไปอยู่ดิวิชันสองเมื่อปี 2014 สโมสรมีหนี้สินอยู่ราว 63 ล้านยูโรและได้รายรับเข้ามาเพียง 18 ล้านยูโร แต่ได้รับอานิสงส์จากกระบวนการฟื้นฟูสภาพทางกฎหมายที่ช่วยเหลือทีมฟุตบอลหลายแห่งในสเปน หลักการคือถ้าสโมสรชี้แจงได้ว่าไม่สามารถจ่ายคืนหนี้ให้เจ้าหนี้ได้ทันกำหนดเวลา จะได้รับการรีไฟแนนซ์ ลดหนี้สิน และขยายเวลาการชำระ ส่งผลให้เมื่อปี 2012 บายาโดลิดได้ขยายเวลาชำระหนี้ออกไปแปดปี และจ่ายหนี้เพียง 30 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนจริง ส่วนอีก 70 เปอร์เซ็นต์ถูกยกเว้น สโมสรจึงรอดพ้นจากภาวะล้มละลายได้อย่างสบาย

นอกจากนี้ ลาลีกายังได้ปรับเปลี่ยนการกระจายรายได้จากลิขสิทธิ์โทรทัศน์ในปี 2015 ช่วยให้สโมสรเล็ก ๆ ได้รับเงินเป็นกอบเป็นกำแทนที่จะไหลเข้าสู่กองคลังของทีมใหญ่อย่างบาร์เซโลนาและเรอัล มาดริด บวกกับยูฟาได้ออกกฎไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ ควบคุมการใช้จ่ายเงินของสโมสรอย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้เกิดวิกฤติในอนาคต ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาเหมาะเจาะและบายาโดลิดคืนสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งพร้อมกับการเข้ามาของโรนัลโด

ซีซันแรกของโรนัลโด บายาโดลิดจบลาลีกาด้วยอันดับ 16 เหนือโซนตกชั้นเพียง 4 คะแนนแต่ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายในสนาม ส่วนเรื่องนอกสนาม R9 โฟกัสไปที่การปรับโครงสร้างสโมสรผ่านไอเดียและคอนเน็คชันของตนเอง, พัฒนาบายาโดลิดให้เป็นแบรนด์ระดับโลกเป็นที่รู้จักมากขึ้น, พลักดันให้เป็นสโมสรระดับสากลผ่านการนำเสนอของสื่อสารมวลชน และสร้างความมั่นคงทางกีฬาด้วยผลการแข่งขันในสนาม ซึ่งเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย โรนัลโดต้องเพิ่มอำนาจบริหารผ่านหุ้นสโมสร และในเดือนเมษายน 2020 เขาครอบครองหุ้นรวม 82 เปอร์เซ็นต์

 โรนัลโดใช้เงินส่วนตัว 2.5 ล้านยูโรปรับโฉมสนามเหย้า เอสตาดิโอ โฆเซ โซร์ริลญา เพิ่มที่นั่งกว่า 500 ที่นั่งเพื่อให้แฟนบอลเข้ามาใกล้ชิดสนามแข่งมากขึ้นและรีโนเวทพื้นที่อื่น ๆ อย่างเช่นปรับปรุงโซนวีไอพีและทางเดินเชื่อมต่อภายใน

โรนัลโดยังสานต่อหลายเรื่องที่ถูกหยิบขึ้นมาถกเถียงก่อนเขารับตำแหน่งได้แก่ ติดตั้งไวไฟฟรี, เพิ่มจอภาพขนาดใหญ่ และการปรับปรุงสนามฝึกซ้อม ซึ่งโรนัลโดมองว่าเป็นความสำคัญลำดับต้น ๆ สโมสรมีโครงสร้างพื้นฐานน้อยมาก มี 2 เทรนนิงแคมป์และ 1 สเตเดียม แต่ยังขาดศูนย๋ฝึกซ้อมที่ทันสมัยโดยเบื้องต้น R9 ต้องการให้ภายในประกอบด้วยสนามฟุตบอล 12 สนาม, ยิมฟุตซอล 1 แห่ง และสนามฟุตซอลกับบาสเกตบอล

โรนัลโดพูดถึงสาเหตุที่นำฟุตซอลเข้ามาว่า “ผมมีความเชื่อว่าเด็ก ๆ ควรเริ่มจากฟุตซอลก่อนไปเล่นสนามฟุตบอล” ส่วนโครงการบาสเกตบอลเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2020 เมื่อโรนัลโดจับมือเป็นพันธมิตรกับ Ciudad da Valladolid สโมสรบาสเกตบอลในดิวิชันสอง ทั้งสองฝ่ายจะให้ความร่วมมือกันภายใต้ชื่อสโมสรว่า Real Valladolid Baloncesto (เรอัล บายาโดลิด บาสเกตบอล)

ปีที่สองของโรนัลโด ทีมจบซีซัน 2019-20 ด้วยอันดับ 13 เหนือโซนตกชั้น 6 คะแนน แถมโมฮัมเหม็ด ซาลิซู เซ็นเตอร์แบ็คชาวกานา ซึ่งเติบโตจากทีมเยาวชน โชว์ฟอร์มเข้าตาเซาแธมป์ตันที่จ่ายเงิน 12 ล้านยูโรเพื่อดึงซาลิซูไปเล่นในอังกฤษ ช่วยลดวิกฤติการเงินที่ถูกกระทบจากไวรัสโควิด อีกทั้ง R9 ยังเสริมขุมกำลังและสร้างสีสันให้ทีมด้วยการดึงผู้เล่นจากทวีปอเมริกาใต้เข้ามา

อย่างไรก็ตามในปีที่สามของโรนัลโด บายาโดลิดจบซีซัน 2020-21 ด้วยอันดับ 19 ร่วงไปอยู่เซกุนดาแต่ใช้เวลาเพียงปีเดียวกลับขึ้นสู่ลาลีกาในฐานะรองแชมป์ดิวิชันสอง ซีซัน 2021-22 และเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โรนัลโดรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้หาก “พูเซลานอส” เลื่อนชั้นสำเร็จนั่นคือ เขากับภรรยาได้ขี่จักรยานไฟฟ้าระยะทาง 450 กิโลเมตรจากสนามของบายาโดลิดไปยัง ซานเตียโก เด คอมโพสเตลา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปนโดยใช้เวลาสี่วัน

⚽️ ครูไซโร ฟุตบอลบราซิลจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แพสชันเรื่องฟุตบอลยังไม่หยุดอยู่ที่บายาโดลิดเพราะในเดือนธันวาคม 2021 โรนัลโดได้ซื้อหุ้นในจำนวนมากพอที่จะเข้าบริหารสโมสรครูไซโร ซึ่งเขาเล่นสมัยเป็นวัยรุ่นช่วงต้นทศวรรษ 1990 ผ่านความช่วยเหลือของ Banco XP ธนาคารเพื่อการลงทุนในบราซิล โดยมีรายงานว่าโรนัลโดและ Tara Sports บริษัทของเขา ใช้เงิน 70 ล้านยูโรเพื่อเทคโอเวอร์ทีมเก่าที่กำลังลงแข่งขันเซเรีย บี เป็นฤดูกาลที่สอง และกำลังประสบปัญหาหลายเรื่อง

โรนัลโดถือเสื้อสีน้ำเงินของครูไซโรขณะเปิดใจผ่านคลิปวิดีโอหลังปิดดีลว่า “ผมดีใจมากที่จบขั้นตอนได้เสียที แต่เรายังมีงานหนักต้องทำรอออยู่อีกมาก ยังไม่ใช่เวลาเฉลิมฉลองอะไร เราจะทำงานอย่างหนักพร้อมความทะเยอะทยานที่จะทำให้ครูไซโรกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”

ครูไซโรเป็นสโมสรเก่าแก่ของบราซิล ปัจจุบันมีอายุ 101 ปีแล้ว เป็นสโมสรที่ใหญ่ที่สุดของรัฐ Minas Gerais โดยทีมRaposa หรือสุนัขจิ้งจอก เคยเป็นแชมป์เซเรีย เอ 4 สมัยในปี 1966, 2003, 2013, 2014, แชมป์เซเรีย บี ปี 2022 และแชมป์โคปา โด บราซิล 6 สมัยในปี 1993, 1996, 2000, 2003, 2017, 2018 โดยเฉพาะปี 2003 สามารถทำทริปเปิลแชมป์กวาดแชมป์แห่งรัฐ, แชมป์เซเรีย เอ และแชมป์บอลถ้วยในประเทศ ส่วนระดับทวีป เคยชนะเลิศโคปา ลิเบอร์ตาโดเรส เด อเมริกา ในปี 1976 และ 1997 ครูไซโรจึงเป็นทีมที่มีผลงานอยู่แถวหน้าในบราซิลช่วงรอยต่อระหว่างศตวรรษที่ 21 และ 22

เมื่อปีที่แล้ว บราซิลได้ออกกฎหมายใหม่อนุญาตให้สโมสรมองหาแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศได้ ซึ่งคาดการณ์ว่าภายในสองปี สโมสรที่เป็นของคนบราซิเลียนอย่างต่ำสิบทีมจะอยู่ในมือของนักลงทุนในรูปแบบบริษัท ครูไซโรถือเป็นดีลแรกที่เกิดจากกฎหมายใหม่ตามมาด้วยโบตาโฟโกและวาสโก ดา กามา ขณะที่เอสปอร์เต คลับ บาเฮีย ในดิวิชันสอง ใกล้ปิดดีลกับ ซิตี ฟุตบอล กรุ๊ป เจ้าของทีมแมนฯ ซิตี และอีกสิบสโมสร

โฆเซ เบเรนกัวร์ ซีอีโอของ Banco XP กล่าวว่า “นี่เป็นเพียงก้าวแรกของธุรกิจแนวใหม่สำหรับตลาดวาณิชธนกิจในบราซิล หนึ่งในประเทศยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอล ไม่มีอะไรต้องสงสัยเลยว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์กีฬาของประเทศบราซิล เรามีสโมสรที่แข็งแกร่งพร้อมศักยภาพในการลงทุนระดับโลก ฟุตบอลบราซิลจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”

หากสงสัยว่าโปรเจกต์อะไรบ้างที่โรนัลโดจะทำกับครูไซโร ซึ่งเขามีสถิติ 44 ประตูจาก 47 นัดรวมทุกรายการระหว่างปี 1993-1994 สามารถย้อนกลับไปอ่านมองไอเดียได้จากเรอัล บายาโดลิด แต่ตอนนี้ โรนัลโดทำสำเร็จไปแล้วหนึ่งเรื่องสำคัญคือใช้เวลาเก้าเดือนพาครูไซโรขึ้นมาเล่นลีกสูงสุด

เรียบเรียง : ฐปน วันชูเพลา