Categories
Special Content

ซานโดร โตนาลี นักเตะอิตาเลียนค่าตัวแพงที่สุดในโลก

พรีเมียร์ลีกเป็นลีกอันดับ 1 ของโลกในแง่ความนิยม แม้กระทั่งตัวนักเตะเองก็กระหายที่จะสัมผัสบรรยากาศลีกลูกหนังเทียร์ 1 เมืองผู้ดี จึงไม่แปลกที่จะมีนักบอลจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามายังประเทศอังกฤษ ซึ่งข้อมูลจากเว็บไซต์ transfermarkt ระบุว่า จากนักเตะทั้งหมด 592 คนในซีซัน 2022-23 ที่ผ่านมา เป็นผู้เล่นต่างชาติถึง 405 คน คิดเป็น 68.4 เปอร์เซ็นต์

มากที่สุดคือ บราซิล 36 คน ตามด้วยสเปน 34 คน, ฝรั่งเศส 33 คน, โปรตุเกส 28 คน และสกอตแลนด์ 23 คน ขณะที่นักเตะจากอีก 2 ลีกบิ๊ก-5 ยุโรป บุนเดสลีกาและกัลโช เซเรีย อา กลับไม่ค่อยข้ามทะเลจากแผ่นดินใหญ่มาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก ซึ่ง transfermarkt ระบุจำนวนไว้ว่า เยอรมนี 12 คน ส่วนอิตาลีเพียง 5 คนเท่านั้นโดย จอร์จินโญ ลงสนามลีกมากที่สุดรวม 32 นัดให้กับเชลซีและอาร์เซนอล

ใครที่ติดตามพรีเมียร์ลีกมานาน จะทราบดีว่านักเตะอิตาเลียนเข้ามาเล่นในอังกฤษน้อยมากตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา อีกทั้งน้อยรายที่ประสบความสำเร็จ ว่ากันว่าเป็นเพราะพวกเขามีแนวคิด one-club player หากเติบโตจากทีมเยาวชนสโมสรไหน ก็มักจะเล่นให้สโมสรนั้นจนกระทั่งปลายอาชีพค้าแข้ง อีกเหตุผลคือสไตล์นักเตะเมืองมะกะโรนีไม่เหมาะกับลีกอังกฤษ

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องเกินความคาดหมายอย่างมากเมื่อตลาดซัมเมอร์รอบนี้ มีการทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาลของค่าตัวนักบอลอิตาเลียนเมื่อ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ยอมทุ่มเงิน 55 ล้านปอนด์เพื่อซื้อ ซานโดร โตนาลี มิดฟิลด์วัย 23 ปีจากเอซี มิลานพร้อมเซ็นสัญญา 5 ปี เป็นลูกทีมใหม่คนแรกในตลาดรอบนี้ของกุนซือเอ็ดดี ฮาว ซึ่งกำลังเสริมทัพเพื่อลุยศึกลูกหนังยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2023-24

สำหรับรายชื่อนักเตะอิตาเลียนค่าตัวแพงที่สุดในโลก 10 อันดับแรก (หน่วยเงินยูโร : คนที่ตัวเลขเงินกลมๆเท่ากันแต่มีอันดับสูงกว่าเพราะมีจำนวนเงินหลักแสนมากกว่า) ซึ่งจะเห็นว่า 7 อันดับเป็นการซื้อขายระหว่างสโมสรใหญ่ในเซเรีย อา แต่ 2 อันดับแรกก็เป็นการทุ่มเงินซื้อของสโมสรอังกฤษ

1 – 64 ล้านยูโร ซานโดร โตนาลี จากเอซี มิลาน ไปนิวคาสเซิล ปี 2023

2 – 57 ล้านูโร จอร์จินโญ จากนาโปลี ไปเชลซี ปี 2018

3 – 53 ล้านยูโร จิอันลุยจิฟ บุฟฟอน จากปาร์มา ไปยูเวนตุส ปี 2001

4 – 46 ล้านยูโร คริสเตียน วิเอรี จากลาซิโอ ไปอินเตอร์ มิลาน ปี 1999

5 – 43 ล้านยูโร เฟเดริโก คิเอซา จากฟิออเรนตินา ไปยูเวนตุส ปี 2020

6 – 42 ล้านยูโร ลีโอนาร์โด โบนุชชี จากยูเวนตุส ไปเอซี มิลาน ปี 2017

7 – 40 ล้านยูโร เฟเดริโก แบร์นาเดสชี จากฟิออเรนตินา ไปยูเวนตุส ปี 2017

8 – 38 ล้านยูโร มัตติอา คัลดารา จากยูเวนตุส ไปเอซี มิลาน ปี 2018

9 – 36 ล้านยูโร ฟิลิปโป อินซากี จากยูเวนตุส ไปเอซี มิลาน ปี 2001

10 – 36 ล้านยูโร จานลูกา สกามัคคา จากซาสซูโอโล ไปเวสต์ แฮม ปี 2022

สานฝันวัยเด็ก แต่เล่นให้มิลานแค่ 3 ปี

โตนาลีช่วยมิลานครองตำแหน่งสคูเดตโต ฤดูกาล 2021-22 และมีส่วนพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศแชมเปียนส์ ลีก ซีซันที่ผ่านมา โตนาลียังเป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติอิตาลีที่ลงแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติทวีปยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ประจำปี 2023

โตนาลีเป็นชาวซันตันเจโล เมืองเล็กๆของจังหวัดโลดี ในแคว้นลอมบาร์ดี ตอนเหนือของอิตาลี เรียนรู้ศาสตร์ลูกหนังผ่านระบบเยาวชนของ ปิอาเซนซา (2009-2012) และ เบรสชา (2012-2017) ก่อนประเดิมสนามอาชีพในเซเรีย เบ ขณะอายุ 17ปี ลงเป็นตัวสำรองของแมตช์เยือน เบรสชาแพ้อเวลลิโน 1-2 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2017

เบรสชาเลื่อนชั้นขึ้นลีกสูงสุดในฤดูกาล 2018-19 แต่ตกลงมาอยู่เซเรีย เอ อีกครั้งในซีซันถัดมา ซึ่งระหว่างนี้ โตนาลีได้เล่นให้ทีมชาติอิตาลีครั้งแรก ถูกส่งลงมาระหว่างแมตช์กับลิกเตนสไตล์ในเดือนตุลาคม 2019 ล่าสุดเล่นทีมชุดใหญ่ไปแล้ว 14นัด

เบรสชาปล่อยโตนาลีให้ เอซี มิลาน ยืมใช้งานในตลาดซัมเมอร์ปี 2020 ด้วยมูลค่า 10 ล้านยูโร และออปชันซื้อขาดราคา 15 ล้านยูโร และโบนัสอีก 10 ล้านยูโร เขาจบซีซัน 2020-21 ในสีเสื้อแดงดำด้วยสถิติลงสนาม 37 นัดรวมทุกราย เป็นตัวจริง 23 นัด นั่นทำให้ทีมรอสโซเนรีตัดสินใจซื้อขาดและเซ็นสัญญา 5 ปีกับโตนาลี ซึ่งยอมลดค่าเหนื่อยเพื่อสานฝันในวันเด็กที่ต้องการเป็นผู้เล่นมิลานท่ามกลางเสียงชื่นชมของแฟนบอลบนโลกโซเซียลมีเดีย

เพียงเต็มซีซันปีแรก โตนาลีก็เป็นผู้เล่นมิลานชุดแชมป์เซเรีย อา ซีซัน 2021-22 ลงสนามตัวจริง 31 นัด ตัวสำรอง 5 นัด รวม 2.606 นาที มีสถิติ 5 ประตู 3 แอสซิสต์ ส่วนซีซันล่าสุด มิลานจบอันดับ 4 โตนาลีเป็นตัวจริง 30 นัด ตัวสำรอง 4 นัด 2.717 นาที ทำ 2 ประตู 7 แอสซิสต์ โดยตลอด 3 ปี โตนาลีลงสนามให้มิลาน 130 นัดรวมทุกรายการ ทำ 7 ประตู 13แอสซิสต์

สำหรับสถิติส่วนตัวอื่นๆในเซเรีย อา ซีซัน 2022-23 ของโตนาลี 34 นัด, สร้างโอกาส 62 ครั้ง, ผ่านบอล 1,403 ครั้ง, แอสซิสต์ 7 ครั้ง, แทคเกิล 64 ครั้ง และฟาวล์ 35 ครั้ง

แฮร์รี เด โคเซโม นักวิเคราะห์เกมของสื่อใหญ่ บีบีซี สปอร์ต ให้ความเห็นถึงดีลผู้เล่นอิตาเลียนที่แพงที่สุดในโลกว่า เอ็ดดี ฮาว ตระหนักดีถึงสถานการณ์ตึงเครียดที่เผชิญช่วงท้ายซีซัน 2022-23 ในการเบียดแย่งอันดับท็อป-4 พรีเมียร์ลีก นั่นทำให้การซื้อผู้เล่นใหม่ในตลาดซัมเมอร์รอบนี้ต้องกระทำอย่างถี่ถ้วนและละเอียด โดยเฉพาะการต้องลงรอบคัดเลือก แชมเปียนส์ ลีก การอัปเกรดขุมกำลังของนิวคาสเซิลจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด แต่ดุลซื้อขายที่เจ้าของสโมสรใหม่จากซาอุดิ อาระเบีย ที่กระทำไปใน 3 ตลาดที่ผ่านมา ทำให้การลงทุนนักเตะครั้งนี้ต้องใช้ความระมัดระวังสูงเพื่อไม่ให้ละเมิดกฎไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์

เด โคเซโม มีมุมมองว่า โตนาลีสามารถเล่นได้ทั้งถอยลงลึกและเดินขึ้นหน้าในแดนกลาง ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระการสร้างสรรค์เกมให้บรูโน กีมาเรส ในช่วงเวลาสำคัญเช่นท้ายซีซันที่ผ่านมา ฟอร์มของกีมาเรสไม่ลื่นไหลเหมือนเดิมเพราะอาการบาดเจ็บข้อเท้า ดังนั้นแม้โตนาลีไม่ใช่เป้าหมายต้นๆแต่นิวคาสเซิลกลับถูกระตุกให้เดินหน้ากางโต๊ะเจรจาเมื่อทราบข่าวว่า มิดฟิลด์วัย 23 ปี ถูกตั้งราคาขายที่อยู่ในงบประมาณสโมสร โดยเดิมที นิวคาสเซิลอยากได้โฮลดิงมิดฟิลด์ขนานแท้

กูรูแห่งบีบีซี สปอร์ต ตบท้ายว่า ความสามารถทางกีฬาที่ดีเยี่ยมและการเล่นได้หลากหลายหน้าที่เป็น 2 เงื่อนไขสำคัญที่ฮาวมองหาในนักเตะใหม่ของเขา และโตนาลีมีพร้อมทั้งสองข้อ มั่นใจได้ว่าโตนาลีสามารถเพิ่มมิติใหม่ให้กับมิดฟิลด์ของนิวคาสเซิลได้อย่างแน่นอน

ขณะที่ แอนโธนี กอร์ดอน กองหน้าทีมนิวคาสเซิล กล่าวถึงเพื่อนร่วมทีมใหม่ว่า “ผมรู้จักเขาตั้งแต่ยุคแรกๆที่เบรสชา ผมยังจำภาพเขาที่เห็นจากคลิปก่อนย้ายมามิลาน เขาเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวท็อปของโลกแน่นอน ผมรอวันที่จะลงสนามร่วมกับเขา”

นิวคาสเซิลจะใช้ประโยชน์อย่างไรจากโตนาลี

เบน กราวน์ดส นักวิเคราะห์เกมของสกาย สปอร์ตส์ ให้ความเห็นว่า นิวคาสเซิลคาดหวังโตนาลีจะนำแพสชันมาสู่ยูนิฟอร์มลายดำขาว ค่าตัวระหว่างสองสโมสรเป็นตัวเลขที่ช็อกมากอย่างที่หนังสือพิมพ์ กัซเซตตา เดลโล สปอร์ต ระบุ และเป็นตัวเลขที่มิลานไม่สามารถปฏิเสธได้

กราวน์ดส์ ยังกล่าวถึงรูปแบบความเป็นไปได้ในการใช้งานของนิวคาสเซิล เขาเชื่อว่าฮาวคงไฟเขียวให้กีมาเรสขยับขึ้นบนได้มากขึ้นเมื่อโตนาลีย้ายเข้าถิ่นเซ็นต์เจมส์ ปาร์ค แต่โตนาลีไม่ใช่มิดฟิลด์ตัวรับโดยเนื้อแท้ ดังนั้นอย่าเพิ่งคาดหวังเห็นโตนาลีปักหลักอยู่หน้าแนวรับ

ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า นิวคาสเซิลเริ่มประสบปัญหาเมื่อ ฌอน ลองสตาฟฟ์ บาดเจ็บ กีมาเรสต้องถอยลงมาเล่นลึกระหว่างเดือนมกราคมถึงพฤษภาคมที่เป็นเวลาที่ยาวนานทีเดียว แถมตอนนั้นฮาวมีมิดฟิลด์ที่พอไว้ใจใช้งานได้เพียง 4 คน ส่งผลให้แพ้ลิเวอร์พูลและอาร์เซนอลในแมตช์เหย้า จนมีสิทธิตกแทร็คลุ้นโควตาแชมเปียนส์ ลีก โดยนิวคาสเซิลชนะนัดเดียวจาก 8นัดที่แข่งกับทีมท็อป-5 ของพรีเมียร์ลีก

ซีซันที่ผ่านมา สเตฟาโน ปิโอลี เฮดโค้ชของรอสโซเนรีให้โตนาลียืนตำแหน่งเบอร์ 6 ของระบบ 4-2-3-1 ซึ่งจะเอื้ออำนวยให้กีมาเรสเล่นบนพื้นที่สูงขึ้นของสนาม โตนาลีครบเครื่องทักษะทั้งการใช้เท้าสองข้างและครองบอลเหนียว กูรูจากสกาย สปอร์ตส์ มั่นใจว่าโตนาลีจะเข้ามาช่วยยกระดับนิวคาสเซิล ซึ่งเป็นทีมที่จ่ายบอลแม่นยำอันดับ 12 ของพรีเมียร์ลีก

7 นักเตะอิตาเลียนยอดเยี่ยมในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

แม้นักฟุตบอลไม่ใช่สินค้านำเข้ายอดนิยมที่เดินทางจากอิตาลีมาสู่อังกฤษ แต่ส่วนใหญ่ที่ถูกซื้อเข้ามาล้วนการันตีฝีเท้าไม่ธรรมดา ซึ่งมีทั้งประสบความสำเร็จและความล้มเหลว ฟอร์ซา อิตาเลียน ฟุตบอล สื่อกีฬาลูกหนังชั้นนำเมืองมะกะโรนี ได้จัดเสนอชื่อ 7 นักเตะอิตาเลียนยอดเยี่ยมตลอดกาลที่ค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก (ไม่ได้เรียงอันดับ)

จิอันฟรังโก โซลา (เชลซี)

โซลาเล่นให้เชลซีระหว่างปี 1996 ถึง 2003 เป็นเวลา 7 ปีที่ทำให้แฟนบอลจดจำเขาในฐานะหนึ่งในนักเตะอิตาเลียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลงสังเวียนพรีเมียร์ลีก ไม่ว่าจะเป็นการครองบอลที่เหนือชั้นและการฉีกแผงแนวรับเข้าทำสกอร์ ซึ่งรวมแล้วเกินกว่า 50ประตูเฉพาะบอลลีก โซลาจึงเป็นโปสเตอร์บอยยอดนิยมของแฟนบอลเชลซีในทศวรรษ 1990-2000 เขายังช่วยให้ต้นสังก้ดครองโทรฟี 6 ใบ

เบนิโต คาร์โบเน่ (เว้นสเดย์, วิลลา, แบรดฟอร์ด, ดาร์บี, มิดเดิลสโบรห์)

คาร์โบเนเล่นในอังกฤษระหว่างปี 1996 ถึง 2002 ให้หลายสโมสร ระหว่าง 6 ซีซันในพรีเมียร์ลีก เขาทำสกอร์ทะลุหลัก 40ประตู โดดเด่นในฐานะทีมเพลย์และทักษะจบสกอร์ ช่วงชีวิตที่ดีเกิดขณะสวมเสื้อเว้นสเดย์และแบรดฟอร์ด โดยเฉพาะการเป็นคู่หูกองหน้าระดับตำนานเคียงข้างเปาโล ดี คานิโอ เขาเป็นนักเตะที่ทำประตูได้สม่ำเสมอ เป็นคีย์แมนที่พาวิลลาเข้ารอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ปี 2000

โรแบร์โต ดี มัตติโอ (เชลซี)

มัตติโอเกิดในสวิตเซอร์แลนด์แต่เลือกเล่นให้ทีมชาติอิตาลี ลงสนามรวม 34 นัดให้ทีมอัซซูรี เขาเป็นนักเตะเชลซีระหว่างปี 1996 ถึง 2001 เป็นผู้เล่นสำคัญทั้งเกมบุกและเกมรับ แต่ช่วงที่ผู้คนจดจำได้มากที่สุดอาจเป็นสมัยทำงานผู้จัดการทีมเชลซี ซึ่งครองดับเบิลแชมป์ แชมเปียนส์ ลีก และเอฟเอ คัพ เมื่อปี 2012 อีกทั้งยังชนะเลิศ คัพ วินเนอร์ส คัพ ปี 1998 สมัยเป็นผู้เล่นด้วย

มาสซิโม มัคคาโรเน (มิดเดิลสโบรห์)

มัคคาโรเนเล่นให้มิดเดิลสโบรห์ระหว่างปี 2002 ถึง 2007 แม้เข้าร่วมลีกแบบนักเตะโนเนม แต่ทักษะกองหน้าที่ยอดเยี่ยมทำให้เขาช่วยให้เดอะ โบโร ขึ้นมาถึงยุคทองในประวัติศาสตร์สโมสรต้นทศวรรษ 2000 โดยเฉพาะตอนที่สตีฟ แม็คลาเรน เป็นผู้จัดการทีม มัคคาโรเนได้เล่นร่วมกับสตาร์หลายคนอาทิ วิดูกา, ฮาสเซลแบงค์ และโรเคมแบค ร่วมกันพาทีมตะลุยถึงนัดชิงชนะเลิศ ยูฟา คัพ ปี 2006 มัคคาโรเนอำลาพรีเมียร์ลีกในปี 2007 พร้อมสถิติ 80 นัด 18 ประตู

ฟรานเชสโก บายาโน (ดาร์บี)

บายาโนเล่นให้ดาร์บีระหว่างปี 1997 ถึง 1999 เคยถูกรับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสโมสรประจำปี 1998 เขาเล่นให้ทีมแกะเขาเหล็ก 64 นัดรวมทุกรายการ เป็นขวัญใจของแฟนบอลระหว่างดาร์บียังอยู่บนสังเวียนลีกสูงสุด สาเหตุที่ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในนักเตะอิตาเลียนยอดเยี่ยมในพรีเมียร์ลีกเพราะการทำสกอร์ดีๆให้เห็นหลายประตู

เปาโล ดี คานิโอ (เว้นสเดย์, เวสต์แฮม, ชาร์ลตัน)

ดี คานิโอ เล่นในพรีเมียร์ลีกระหว่างปี 1997 ถึง 2004 เป็นนักเตะที่โดนแฟนบอลทั้งรักและเกลียดพอๆกัน เป็นตัวละครบนสนามหญ้าที่ทำให้เกิดใบแดง การต่อสู้ ความผันแปร และสกอร์ ซึ่งถ้านับเฉพาะพรีเมียร์ลีก ดี คานิโอ ส่งลูกหนังซุกก้นตาข่ายรวม 73 ครั้ง ไม่ว่าคุณจะเกลียดหรือรัก เขาต้องถูกคุณใส่ชื่อไว้ในลิสต์นี้แน่นอน

จิอันลูกา วิอัลลี (เชลซี)

วิอัลลีผู้วายชนม์เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาด้วยวัย 58 ปี เล่นให้เดอะ บลูส์ ระหว่างปี 1996 ถึง 1999 ก่อนแขวนสตั๊ดหลังซีซัน 1998-99 เพื่อโฟกัสตำแหน่งผู้จัดการทีมที่รับหลังจาก รุด กุลลิท ถูกไล่ออกเดือนกุมภาพันธ์ 1998 ตอนนั้นเขามีอายุเพียง 33 ปี ในส่วนฐานะผู้เล่น วิอัลลีทำ 11  ประตูรวมทุกรายแรกในซีซันแรกกับเชลซี กลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลทันที ก่อนเพิ่มเป็น 19 ประตูในซีซันต่อมา หากนับเฉพาะช่วงที่เป็นเพลเยอร์-แมเนเจอร์ เขายังทำได้รวม 29 ประตู แน่นอนเมื่อเอ่ยชื่อวิอัลลี ต้องนึกถึง “ประตู” เขายังได้แชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ, เอฟเอ คัพ และลีก คัพ

ทายาทปีร์โล ผู้มีกัตตูโซเป็นต้นแบบ

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งเติบโตในซันตันเจโล เมืองเล็กๆที่มีประชากรราว 13,000 คน โตนาลีก็เหมือนชาวเมืองส่วนใหญ่ที่เชียร์ทีมมิลาน สำหรับเด็กๆวัยเดียวกัน ฟุตบอลคือกิจกรรมสนุกสนาน แต่โตนาลีต่างออกไป เขาเหมือนเป็น masochist จะไม่ยินดีต่อเกมการแข่งขันจนกว่าจะได้รับความเจ็บปวดเพื่อไปสู่ชัยชนะ

โตนาลีกลายเป็นที่สนใจจากแฟนบอลทั่วอิตาลีเมื่อครั้งลงสนามให้เบรสชา ถูกยกย่องให้เป็นทายาทของ อันเดรีย ปีร์โลมิดฟิลด์ระดับตำนานที่เคยเป็นนักเตะมิลานระหว่างปี 2001 – 2011 และยูเวนตุสระหว่างปี 2011 – 2015 แต่ “ศิลปินลูกหนัง” ปีร์โล ซึ่งเพิ่งได้รับแต่งตั้งให้คุมทีมซามพ์โดเรียในซีเรีย เบ เคยให้สัมภาษณ์ถึงโตนาลีว่า “ในฐานะนักเตะ เขาไม่ได้ดูเหมือนผมเลย เขาเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบกว่าทั้งเกมรับและเกมบุก”

ความจริงแล้ว ไอดอลของโตนาลีคือ เจนนาโร กัตตูโซ เพื่อนร่วมทีมมิลานของปีร์โลในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ

ในหนังสั้นเรื่อง Sandro Tonali – A Rossonero dream come true เปิดเผยว่า แก้วกระเบื้องที่พรินต์ภาพกัตตูโซเป็นหนึ่งในของสะสมที่มีคุณค่าของโตนาลี เมื่อครั้งแม่ของเขาทำแตกโดยบังเอิญ โตนาลีบรรจงใช้กาวติดแต่ละชิ้นส่วนที่แตกจนประกอบกลับเป็นแก้วตามเดิม

เช่นเดียวกับกัตตูโซ โตนาลีมีสไตล์การเล่นที่สู้ไม่ถอย มีจิตวิญญาณแห่งการเสียสละเพื่อทีม และความสามารถในการครอบคลุมพื้นที่ เขายังเป็นนักเตะที่ใส่ใจเกมลูกหนังอย่างจริงจัง มีเรื่องเล่าวว่าก่อนแมตช์แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศที่ผ่านมากับอินเตอร์ มิลาน โตนาลีขังตัวเองจากโลกภายนอก เคร่งครัดการควบคุมอาหาร ฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ งานด้านประชาสัมพันธ์ถูกปรับเปลี่ยนกำหนดการ ไม่เล่นโซเชียลมีเดีย ไม่จัดงานฉลองวันเกิด มีเพียงเค้กชิ้นเล็กๆกับเทียนเล่มเดียวพอเป็นพิธี เนื่องจากโตนาลีมีงานต้องทำและมีการแข่งขันต้องเล่น

เมื่อนำค่าตัวที่เป็นสถิติใหม่ของอิตาลี และฝีเท้าทักษะที่หลากหลายครบเครื่องรอบจัดในตำแหน่งมิดฟิลด์ มารวมกับใบหน้าหล่อเข้มสไตล์หนุ่มอิตาเลียนกับคาแรกเตอร์ที่จริงจังเหนือนักบอลอาชีพทั่วโลก เชื่อได้เลยว่า ซานโดร โตนาลี มิดฟิลด์วัย 23 ปี ในสีเสื้อลายดำขาวของนิวคาสเซิล ต้องเป็นสีสันที่จัดจ้านของพรีเมียร์ลีก ซีซัน 2023-24 อย่างแน่นอน

เรียบเรียง : ฐปน วันชูเพลา (Senior Football Writer)