Categories
Special Content

วิวัฒนาการของฟูลแบ็ค สู่เทรนด์ที่มาแรงในฟุตบอลสมัยใหม่

แกรี เนวิลล์ กับ เจมี คาร์ราเกอร์ ตำนานกองหลังร่วมทศวรรษ 1990-2010 ซึ่งตอนนี้เลิกปะทะแข้งหันมาปะทะฝีปากกันในฐานะกูรูลูกหนังของค่ายสกาย สปอร์ตส์ เคยคุยกันขำๆว่า ฟุตบอลอาจใกล้หมดยุคฟูลแบ็คที่เล่นแต่เกมรับแล้ว และไม่แค่นั้น อดีตเซ็นเตอร์แบ็คลิเวอร์พูลวัย 45 ยังเอ่ยแซวอดีตฟูลแบ็คแมนฯยูไนเต็ดที่มีอายุมากกว่า 3 ปีว่า เด็กสมัยนี้คงไม่มีใครฝันอยากเดินตามรอยสตั๊ดแกรี เนวิลล์ กันแล้ว

คาริม ชาฮีน นักวิเคราะห์เกมอิสระของสื่อโททัล ฟุตบอล อนาไลซิส เคยให้ทรรศนะว่า ฟูลแบ็คน่าจะเป็นตำแหน่งในสนามฟุตบอลที่มีสีสันน้อยที่สุด อดีตกาลเคยมีผู้นิยามฟูลแบ็คแบบเหน็บแนมว่า เป็นนักฟุตบอลที่ไม่แข็งแกร่งสำหรับเซ็นเตอร์แบ็ค และไม่มีทักษะเพียงพอจะเล่นตำแหน่งปีก

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ถูกวิวัฒนาการไปมากตั้งแต่รอยต่อของศตวรรษที่ 20-21 หลายตำแหน่งได้รับการปรับแต่งและถูกเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ผู้รักษาประตูที่เล่นสวีปเปอร์, เซ็นเตอร์แบ็คที่บิลด์อัพเกม, ปีกตัดเข้าใน และฟอลส์ ไนน์ แต่ฟูลแบ็คยังทำหน้าที่เดิมๆเป็นส่วนใหญ่จนกระทั่งหนึ่งทศวรรษหลังจึงพบเห็นวิวัฒนาการอย่างมีนัยยะ และกลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงในโมเดิร์นฟุตบอล

ชาฮีนพลิกปูมประวัติศาสตร์เล่าเพิ่มเติมว่า งานหลักของฟูลแบ็คคือเกมรับ สนับสนุนเซ็นเตอร์แบ็ค รักษาพื้นที่ป้องกันให้แคบที่สุด และคอยขวางไม่ให้ปีกฝ่ายตรงข้ามครอสบอลไปยังกรอบเขตโทษ ฮาเวียร์ ซาเนตติ และ เปาโล มัลดินี เป็นตัวอย่างของดีเฟนซีพ ฟูลแบ็ค ระดับโลก

ความจริงแล้ว โมเดิร์น ฟูลแบ็ค ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเพราะย้อนไปต้นทศวรรษ 1950 ฌาลมา ซานโตส และ นิลตัน ซานโตส ซึ่งไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกัน เคยลุยเปิดเกมบุกให้ทีมชาติบราซิลได้อย่างน่าทึ่งในเวิลด์คัพ 1958 หรือคู่ฟูลแบ็คแซมบาที่ยังอยู่ในความรับรู้ของแฟนบอลสมัยนี้คือ คาฟู กับ โรแบร์โต คาร์ลอส จากเวิลด์คัพ 2002 แต่ฟูลแบ็คเริ่มมีวิวัฒนาการให้เห็นเด่นชัดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบันกลายเป็นชิ้นส่วนสำคัญของกลยุทธ์เกมรุก จนอาจเป็นผู้เล่นที่มีการเคลื่อนที่และถูกใช้งานสารพัดประโยชน์มากที่สุดบนสนามฟุตบอล

ประจักษ์พยานคือ ค่าตัวฟูลแบ็คเริ่มแพงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าจัดอันดับท็อป-10 เฉพาะดีลธุรกิจที่ทำตั้งแต่ปี 2016 ลูคัส เอร์นานเดซเป็นฟูลแบ็คราคาแพงที่สุดในโลกตอนนี้คือ 80 ล้านยูโรตอนที่บาเยิร์น มิวนิก ซื้อจากแอตเลติโก มาดริด เมื่อปี 2019 ตามด้วย มาร์ค กูกูเรยา ซึ่งเชลซีเพิ่งทุ่มเงิน 70.1 ยูโร ซื้อจากไบรท์ตันในตลาดซัมเมอร์ปีที่แล้ว และ อาชราฟ ฮาคิมี 66.5 ล้านยูโร ที่ปารีส แซงต์-แยร์กแมง ซื้อเมื่อปี 2021 จากอินเตอร์ มิลาน โดยก่อนหน้านั้น ปี 2020 ทีมเนรัซซูรีเพิ่งซื้อฮาคิมีจากเรอัล มาดริด ที่ตัวเลข 43 ล้านยูโร รั้งอันดับ 10 ของตารางค่าตัว คือปีเดียว อินเตอร์ฯทำกำไรถึง 23,5 ล้านยูโร

อาร์เซนอลซื้อเซ็นเตอร์เพื่อเล่นฟูลแบ็ค

ตลาดซัมเมอร์รอบนี้ อาร์เซนอลได้ซื้อ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ปราการหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์จากอาแจ็กซ์ด้วยราคา 40 ล้านปอนด์ หลังจากได้ ไค ฮาเวิร์ทซ์ แนวรุกทีมชาติเยอรมนีของเชลซี มูลค่า 65 ล้านปอนด์ และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด มิเกล อาร์เตตา จะได้ลูกทีมใหม่คนที่ 3 ที่ค่าตัวสูงลิ่ว 105 ล้านปอนด์คือ ดีแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษจากเวสต์แฮม ถือเป็นการลงทุนเสริมขุมกำลังครั้งสำคัญของอาร์เซนอลที่ฟอร์มแผ่วปลายซีซันที่แล้ว ปล่อยให้แชมป์พรีเมียร์ลีกตกเป็นของแมนฯซิตี

ทิมเบอร์ กองหลังดาวรุ่งดัตช์ เคยตกเป็นข่าวแรงในตลาดซัมเมอร์ปีที่แล้วเพราะเป็นเป้าหมายเบอร์แรกๆของ เอริก เทน ฮาก ที่เพิ่งอำลาอาแจ็กซ์มาคุมทีมแมนฯยูไนเต็ด แต่ทิมเบอร์เลือกค้าแข้งในลีกแดนกังหันลมต่ออีกหนึ่งปี

แม้อายุเพียง 22 ปีแต่ทิมเบอร์ลงสนามให้อาแจ็กซ์มาแล้วกว่า 200 นัด ถูกยกย่องเป็นกองหลังที่น่าจับตามอง เพียบพร้อมทั้งความแข็งแกร่งและความสุขุมเกินวัย แถมยังจ่ายบอลมากที่สุดในเอเรอดีวีซี ฤดูกาล 2022-23 ทั้งที่ยืนตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คตัวขวา

กูรูลูกหนังมองว่า การผ่านบอลเป็นทักษะอันดับ 1 ที่อาร์เซนอลพิจารณาดึงทิมเบอร์เข้าเอมิเรตส์ สเตเดียม โดยอ้างอิงจากสถิติด้าน passing ในลีกเนเธอร์แลนด์ซีซันที่แล้ว ทิมเบอร์สัมผัสบอลรวม 3,129 ครั้ง, จ่ายบอลคอมพลีท 2,501 ครั้ง และจ่ายบอลขึ้นหน้า 902 ครั้ง ซึ่งทั้งสามหมวด ทิมเบอร์ทำได้มากกว่าใครในเอเรอดีวีซี เขายังจ่ายบอลคอมพลีทในพื้นที่ final third 544 ครั้ง สูงเป็นอันดับ 9 และมีความแม่นยำการจ่ายบอล 92 เปอร์เซ็นต์ หรืออันดับ 14 ของลีก

แต่ประเด็นที่น่าสนใจตามมุมมองของนักวิเคราะห์เกม ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อว่า อาร์เตตาต้องการใช้งานทิมเบอร์ในตำแหน่งแบ็คขวาของระบบ 4-3-3 Attacking แม้ตลอดซีซันที่ผ่านมา ทิมเบอร์เป็นแบ็คขวาตัวจริงเพียงนัดเดียวคือฟุตบอลยุโรป รอบคัดเลือก เนเธอร์แลนด์แพ้ฝรั่งเศส 0-4

จากข้อมูลของ transfermarkt เฉพาะบอลลีกซีซันที่แล้ว จากการลงสนาม 34 นัด 3,034 นาที ทำ 2 ประตู 2 แอสซิสต์ ทิมเบอร์ยืนเซ็นเตอร์แบ็คทุกนัด หรือดูสถิตินับตั้งแต่ขึ้นชุดใหญ่อาแจ็กซ์ ทิมเบอร์เล่นทั้งหมด 85 นัด ยืนเป็นแบ็คขวา 10 นัดเท่านั้น นั่นเท่ากับว่า ตำแหน่งถนัดของเขาคือเซ็นเตอร์แบ็คที่สามารถย้ายไปเล่นแบ็คขวาได้

เพราะอะไร อาร์เตตาจึงมีไอเดียย้ายทิมเบอร์ไปอยู่ตำแหน่งขวาสุดของแบ็คโฟร์ เบื้องหลังคงหนีไม่พ้นเทรนด์ในพรีเมียร์ลีกที่เกิดจากวิวัฒนาการของฟูลแบ็ค

สามแท็คติกที่ฟูลแบ็คยุคใหม่ร่วมลุยเกมบุก

อดัม เบท คอมเมเตเตอร์ที่ทำงานให้กับสกาย สปอร์ตส์ ให้ความเห็นว่า พรีเมียร์ลีกมีการเปลี่ยนแปลงทางแท็คติกหรือกลยุทธ์การวางหมากเกมลูกหนังไปอย่างรวดเร็ว บทบาทของฟูลแบ็คหลากหลายและซับซ้อนขึ้น ความรับผิดชอบไปไกลกว่าโมเดิร์น ฟูลแบ็ค ที่รับผิดชอบเกมรับและรุกด้านข้างสนามอย่างไม่กี่ทศวรรษที่แล้ว เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แอนดี โรเบิร์ตสัน ของลิเวอร์พูล ถือเป็นแบบอย่างของฟูลแบ็คแห่งอนาคต

ชาฮีนจากโททัล ฟุตบอล อนาไลซิส ได้ใช้แท็คติกการขึ้นเกมเป็นตัวแบ่งประเภทของฟูลแบ็คไว้ 3 รูปแบบหลักได้แก่ Overlapping full-back, Inverted full-back และ Wing-back

วิงแบ็คน่าจะเป็นลักษณะที่แฟนบอลคุ้นเคยยาวนาน มักใช้กับระบบกองหลัง 3 คนหรือ 3-5-2 ผู้เล่นมีทักษะของฟูลแบ็คและปีกผสมผสานกัน เน้นการบุก และตัดทอนงานเกมรับ เคยได้รับความนิยมสูงสุดในลีกท็อป-5 ของยุโรปโดยเฉพาะซีซัน 2020-21 มี 10 ทีมที่ใช้วิงแบ็คในกัลโช เซเรีย อา, 10 ทีมในบุนเดสลีกา, 7 ทีมในลีก เอิง, 5 ทีมในลา ลีกา และ 5 ทีมในพรีเมียร์ลีก

ฟูลแบ็คหุบในหรือฟูลแบ็คกลับด้าน แฟนบอลเห็นบ่อยในช่วงหลังๆ เป็นฟูลแบ็คที่ขยับเข้าด้านในของสนามเวลาขึ้นเกม ช่วยเพิ่มจำนวนผู้เล่นแดนกลาง เปิดโอกาสให้มิดฟิลด์คนอื่นกำหนดจังหวะเกมบุกในโซน half-space หรือระหว่างไลน์ อีกทั้งยังดึงคู่แข่งเข้ามาประกบ ช่วยให้ปีกร่วมทีมได้ดวลตัวต่อตัวกับคู่แข่ง ฟูลแบ็คสไตล์นี้จะต้องเก่งเรื่องการเล่นในพื้นที่แคบและครองบอลจ่ายบอลได้ดีอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ โรเบิร์ตสัน เป็นตัวอย่างที่ซาฮีนยกให้เป็นไอดอลที่ใครที่ต้องการเล่นหรือเรียนรู้เกี่ยวกับโอเวอร์แลป ฟูลแบ็ค ซึ่งวิ่งอ้อมหลังเพื่อนร่วมทีมไปยังพื้นที่ว่างเพื่อรับบอลหรือทำเกมรุกต่อ หรืออันเดอร์แลป วิ่งอ้อมหลังผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามก็ได้ นักเตะต้องมีความฟิตสูง มีความเร็วและคล่องตัวที่จะทรานซิชันเกมบุกเกมรับ

เยอร์เกน คลอปป์ ได้พัฒนาอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เป็นฟูลแบ็คจอมบุกแถวหน้าของยุโรป จุดแข็งคือระยะและวิสัยทัศน์การจ่ายบอล ครอสลูกจากด้านข้าง และการเตะลูกเซตพีซ เขาได้รับการยกย่องจากบทบาทโอเวอร์แลป ฟูลแบ็ค ก่อนถูกคลอปป์ใช้งานที่ซับซ้อนขึ้นอย่างฟูลแบ็คหุบในและงานไฮบริดที่ขึ้นไปเป็น double pivot ยืนมิดฟิลด์คู่กับฟาบินโญในระบบ 3-2-2-3 ช่วงท้ายฤดูกาล 2022-23 ที่ผ่านมา

ความเก่งฉกาจของการจ่ายบอลของสองแบ็คลิเวอร์พูล ยืนยันได้จากอันดับแอสซิสต์ของกองหลังพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ซีซัน 2018-19 อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์และโรเบิร์ตสันนำโด่งด้วยจำนวน 53 และ 48 ครั้ง อันดับ 3 คือ ลูกาส์ ดีญ 22 ครั้ง, อันดับ 4 เซซาร์ อัซปิลิกวยตา และ เบน ชิลเวลล์ 15 ครั้งเท่ากัน

ทิมเบอร์ ตัวอย่างล่าสุดของฟูลแบ็คสายเทคนิค

เบทจากสกาย สปอร์ตส์ ให้ทรรศนะว่า การปรับอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ขึ้นไปเล่นมิดฟิลด์ เป็นเสมือนภาพสะท้อนของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก แบ็คซ้ายทีมอาร์เซนอล ซึ่งตามปกติยืนตำแหน่งมิดฟิลด์ให้ทีมชาติยูเครน ขณะที่แมนฯซิตีก็ใช้นักเตะหลายคนทำงานไฮบริด

ฟิลลิป ลาห์ม อดีตนักเตะทีมชาติเยอรมัน ซึ่งถูกบันทึกว่าเป็นผู้บุกเบิกฟูลแบ็คหุบใน ให้สัมภาษณ์กับสกาย สปอร์ตส์ ว่า “ช่วง 10 ปีหลังสุด ฟูลแบ็คเป็นผู้เล่นที่มีทักษะเชิงกีฬาสูงและสภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่ตอนนี้ผมคิดว่ามันเปลี่ยนไปตรงที่มีเทคนิคมากขึ้น”

วิวัฒนาการของฟูลแบ็คที่ขยับขึ้นไปเล่นกองกลาง ไม่เพียงเปลี่ยนชุดทักษะพื้นฐานเพื่อรองรับหน้าที่รับผิดชอบแบบไฮบริดตามใบสั่งของหัวหน้าโค้ช แต่ยังส่งกระทบไปถึงนักเตะตำแหน่งอื่นด้วยเช่นเดียวกับกรณีทิมเบอร์ ซึ่งอาร์เตตาอาจปรับให้ย้ายมาเล่นฟูลแบ็คและขึ้นไปเติมมิดฟิลด์ยามทีมเป็นฝ่ายครองบอล หรือที่ลิเวอร์พูล โรเบิร์ตสันต้องขยับเข้าในและมีพื้นที่แดนหลังให้รับผิดชอบมากขึ้นเป็นระบบเซ็นเตอร์แบ็ค 3 คน แต่การปรับตัวไม่ได้สร้างปัญหาให้กับกัปตันทีมชาติสกอตแลนด์วัย 29 ปี ซึ่งไม่ต้องขึ้นไปครอสบอลมากหรือวิ่งขึ้นลงตลอด 90 นาทีเหมือนเมื่อก่อน

เนวิลล์ อดีตกัปตันทีมแมนฯยูไนเต็ด กล่าวถึงแมนฯซิตี ซึ่งชนะเลิศพรีเมียร์ลีก 5 สมัยในรอบ 6 ปีหลังสุดว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา มีฟูลแบ็คที่เล่นเกมรุกได้เหลือเชื่อเป็นเวลาหลายปี พวกเขาสามารถขึ้นไปเล่นแดนกลางหรือทะยานไปข้างหน้าจากบริเวณริมสนาม จนตอนนี้แท็คติกกลายเป็นกระแสไปแล้ว

ในฐานะอดีตผู้ช่วยของกวาร์ดิโอลา จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นอาร์เตตาใช้ไอเดียที่คล้ายคลึงกันหลายอย่างเช่น เบน ไวท์ ซึ่งเคยเล่นเซ็นเตอร์แบ็คให้ไบรท์ตันและช่วงแรกที่ย้ายมาอาร์เซนอล แต่ซีซัน 2022-23 อาร์เตตาเปลี่ยนให้เล่นแบ็คขวา และสามารถหุบเข้าในฟอร์มเซ็นเตอร์แบ็ค 3 คนเพื่อรักษาสมดุลให้แผงหลังของทีมขณะที่ซินเชนโกขึ้นไปร่วมไลน์ของมิดฟิลด์ และบ่อยครั้งที่ได้เห็นไวท์ขึ้นไปโอเวอร์แลปในแดนหน้ากับบูกาโย ซากา

แต่อีกด้านหนึ่ง แผงหลังของอาร์เซนอลทำผิดพลาดให้คู่แข่งมีโอกาสส่องประตูมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก หรือมีจำนวนมากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับอีก 3 ในทีมอันดับท็อป-4 บนตารางลีก นั่นเนื่องจากพวกเขาครองบอลหละหลวมและเปิดช่องว่างในจังหวะทรานซิชันระหว่างเกมรุกและรับ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่อาร์เตตาต้องเร่งแก้ไข

นักวิเคราะห์หลายสื่อเชื่อว่า ทิมเบอร์น่าจะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวของอาร์เตตาได้ด้วยความครบเครื่องรอบจัด สามารถย้ายจากแบ็คขวามายืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็คตัวที่ 3 หรือแม้กระทั่งขึ้นไปเล่นเป็นมิดฟิลด์เอง โดยสกาย สปอร์ตส์ ได้คาดหมายแผงหลังแบ็คโฟร์ระบบ 4-3-3 ของอาร์เซนอลในซีซัน 2023-24 ดังนี้ ทิมเบอร์, ซาลิบา, กาเบรียล และ ซินเชนโก

ทิมเบอร์จึงเป็นตัวอย่างล่าสุดที่มีความสำคัญอย่างมากในการแสดงถึงวิวัฒนาการครั้งใหญ่ของฟูลแบ็คสมัยใหม่ ซึ่งกลายเป็นตำแหน่งที่มีอิทธิพลต่อกลยุทธ์การโจมตีและสร้างสีสันให้กับเกมลูกหนังยุคปัจจุบันมากที่สุด

เรียบเรียง : ฐปน วันชูเพลา (Senior Football Writer)